ตำรวจตรวจสอบรถจักรยานยนต์ของคนร้ายชาวอิหร่านอีกคันที่ถูกนำไปจอดทิ้งไว้ย่านดินแดง เบื้องต้นไม่พบหลักฐานพิเศษอะไรที่อาจเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด ได้แต่เก็บลายนิ้วมือแฝงไว้แล้ว
วันนี้ (24 ก.พ.) เวลา 11.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์ระเบิด (EOD) ได้เดินทางมาที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 (บก.น.1) เพื่อตรวจสอบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีดำลายแดง ทะเบียน กนต 648 อ่างทอง ซึ่งเป็นรถ จยย.ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด 3 จุด บริเวณซอยสุขุมวิท 71 เนื่องจากมีพยานระบุว่า เคยเห็นมีชายชาวอิหร่านมาเช่าห้องหรูหรา ภายในอาคารเพชรบุรีสวีท ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ กทม.ซึ่งใช้รถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คัน เป็นพาหนะ โดยคันแรกคือ รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟเอส 100 สีน้ำเงินคาดเทา ทะเบียน มนม 583 กรุงเทพมหานคร ที่สืบทราบว่า คนร้ายนำมาจอดไว้หน้าร้านเอเชีย การไฟฟ้า เลขที่ 693 ระหว่างปากซอยปรีดีพนมยงค์ 29-31 ถ.สุขุมวิท 71 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ จากการตรวจสอบกล่องเก็บของใต้เบาะรถ จยย.ดังกล่าว พบสติกเกอร์พิมพ์อักษรภาษาอังกฤษคำว่า “SEJEAL” 6 แผ่น ความยาวประมาณ 30 ซม.ความกว้างประมาณ 6 ซม.ซึ่งสติกเกอร์ดังกล่าวเคยพบภายในห้องพัก อาคารนาซ่า เวกัส ทาวเวอร์ กว่า 100 แผ่น ทั้งนี้ ยังพบแว่นกันแดดสีดำ 1 อัน และเล่มทะเบียน จยย.ฮอนด้า เวฟ 100 เอส ทะเบียน ฬพค 583 กรุงเทพมหานคร จากนั้นเจ้าหน้าที่ พฐ.ได้เก็บรอยนิ้วมือแฝง ก่อนนำไปเก็บไว้ที่ สน.คลองตัน ส่วนอีกคันเป็นรถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีดำลายแดง ทะเบียน กนต 648 อ่างทอง คันที่ตรวจสอบพบล่าสุด
พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รองผบก.น.1 เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่จราจร สน.ดินแดง พบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีดำลายแดง ทะเบียน กนต 648 อ่างทอง คันดังกล่าว จอดทิ้งไว้บริเวณปากซอยบุญอยู่ ถ.ดินแดง ตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.เวลาประมาณ 12.00 น.ที่ผ่านมา หลังจากนั้นอีกสองวันผ่านมา ได้มีคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง ย่านดินแดง แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดินแดง ว่า พบรถ จยย.ต้องสงสัยคันดังกล่าวจอดทิ้งไว้ที่ปากซอยบุญอยู่ ข้าง ป.ป.ส.ดินแดง ใกล้กับโรงแรมมิตรภาพเทียร่า แขวงและเขตดินแดง จอดทิ้งไว้เมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงไปตรวจสอบและยึดมาไว้ที่ สน.ดินแดง และมีพยานที่พบเห็นให้การว่า เห็นรถคันดังกล่าวจอดอยู่ประมาณ 3 วันแล้ว โดยไม่มีผู้ขับขี่ไป จึงแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าของรถชื่อ นายสมพร กล้าหาญ อยู่บ้านเลขที่ 12/1 ม.8 ต.วังน้ำเย็น อ.แสวงหา จ.อ่างทอง แต่เบื้องต้นทราบว่าได้ขายโอนลอยไปแล้ว จึงต้องอยู่ระหว่างการสืบสวนข้อเท็จจริงต่อไป ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (EOD) ได้ทำการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว จะทำการส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน มานำรถ จยย.คันดังกล่าวไป
ต่อมา พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รองผบช.น. พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผบก.น.1 ขึ้นไปตรวจสอบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว เพื่อดูเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบหาหลักฐานและรอยนิ้วมือแฝงบนรถคันดังกล่าว ก่อน พล.ต.ท.วินัย กล่าวว่า สำหรับรถ จยย.คันนี้ พบว่า นายโมฮัมหมัด อาซาอิ ผู้ต้องหาชาวอิหร่าน อายุ 42 ปี ที่ถูกจับคาสนามบินสุวรรณภูมิ ได้ซื้อต่อมาจาก นายสมพร กล้าหาญ ซึ่งทำการโอนลอยไว้ โดยหลังจากนี้เจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (EOD) และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ทำการตรวจสอบเพื่อหาหลักฐาน และรวบรวมข้อมูลก่อนส่งให้พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน เก็บเป็นของกลางในคดีต่อไป
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่เก็บกู้ฯ และ (พฐ.) ได้ทำการตรวจสอบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นไม่พบว่ามีหลักฐานใดๆ ภายในรถ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) จึงทำการเก็บลายนิ้วมือแฝงเพื่อนำมาหาหลักฐานประกอบในสำนวนต่อไป
วันนี้ (24 ก.พ.) เวลา 11.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์ระเบิด (EOD) ได้เดินทางมาที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 (บก.น.1) เพื่อตรวจสอบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีดำลายแดง ทะเบียน กนต 648 อ่างทอง ซึ่งเป็นรถ จยย.ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด 3 จุด บริเวณซอยสุขุมวิท 71 เนื่องจากมีพยานระบุว่า เคยเห็นมีชายชาวอิหร่านมาเช่าห้องหรูหรา ภายในอาคารเพชรบุรีสวีท ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ กทม.ซึ่งใช้รถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คัน เป็นพาหนะ โดยคันแรกคือ รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟเอส 100 สีน้ำเงินคาดเทา ทะเบียน มนม 583 กรุงเทพมหานคร ที่สืบทราบว่า คนร้ายนำมาจอดไว้หน้าร้านเอเชีย การไฟฟ้า เลขที่ 693 ระหว่างปากซอยปรีดีพนมยงค์ 29-31 ถ.สุขุมวิท 71 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ จากการตรวจสอบกล่องเก็บของใต้เบาะรถ จยย.ดังกล่าว พบสติกเกอร์พิมพ์อักษรภาษาอังกฤษคำว่า “SEJEAL” 6 แผ่น ความยาวประมาณ 30 ซม.ความกว้างประมาณ 6 ซม.ซึ่งสติกเกอร์ดังกล่าวเคยพบภายในห้องพัก อาคารนาซ่า เวกัส ทาวเวอร์ กว่า 100 แผ่น ทั้งนี้ ยังพบแว่นกันแดดสีดำ 1 อัน และเล่มทะเบียน จยย.ฮอนด้า เวฟ 100 เอส ทะเบียน ฬพค 583 กรุงเทพมหานคร จากนั้นเจ้าหน้าที่ พฐ.ได้เก็บรอยนิ้วมือแฝง ก่อนนำไปเก็บไว้ที่ สน.คลองตัน ส่วนอีกคันเป็นรถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีดำลายแดง ทะเบียน กนต 648 อ่างทอง คันที่ตรวจสอบพบล่าสุด
พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รองผบก.น.1 เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่จราจร สน.ดินแดง พบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีดำลายแดง ทะเบียน กนต 648 อ่างทอง คันดังกล่าว จอดทิ้งไว้บริเวณปากซอยบุญอยู่ ถ.ดินแดง ตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.เวลาประมาณ 12.00 น.ที่ผ่านมา หลังจากนั้นอีกสองวันผ่านมา ได้มีคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง ย่านดินแดง แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดินแดง ว่า พบรถ จยย.ต้องสงสัยคันดังกล่าวจอดทิ้งไว้ที่ปากซอยบุญอยู่ ข้าง ป.ป.ส.ดินแดง ใกล้กับโรงแรมมิตรภาพเทียร่า แขวงและเขตดินแดง จอดทิ้งไว้เมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงไปตรวจสอบและยึดมาไว้ที่ สน.ดินแดง และมีพยานที่พบเห็นให้การว่า เห็นรถคันดังกล่าวจอดอยู่ประมาณ 3 วันแล้ว โดยไม่มีผู้ขับขี่ไป จึงแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าของรถชื่อ นายสมพร กล้าหาญ อยู่บ้านเลขที่ 12/1 ม.8 ต.วังน้ำเย็น อ.แสวงหา จ.อ่างทอง แต่เบื้องต้นทราบว่าได้ขายโอนลอยไปแล้ว จึงต้องอยู่ระหว่างการสืบสวนข้อเท็จจริงต่อไป ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (EOD) ได้ทำการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว จะทำการส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน มานำรถ จยย.คันดังกล่าวไป
ต่อมา พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รองผบช.น. พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผบก.น.1 ขึ้นไปตรวจสอบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว เพื่อดูเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบหาหลักฐานและรอยนิ้วมือแฝงบนรถคันดังกล่าว ก่อน พล.ต.ท.วินัย กล่าวว่า สำหรับรถ จยย.คันนี้ พบว่า นายโมฮัมหมัด อาซาอิ ผู้ต้องหาชาวอิหร่าน อายุ 42 ปี ที่ถูกจับคาสนามบินสุวรรณภูมิ ได้ซื้อต่อมาจาก นายสมพร กล้าหาญ ซึ่งทำการโอนลอยไว้ โดยหลังจากนี้เจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (EOD) และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ทำการตรวจสอบเพื่อหาหลักฐาน และรวบรวมข้อมูลก่อนส่งให้พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน เก็บเป็นของกลางในคดีต่อไป
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่เก็บกู้ฯ และ (พฐ.) ได้ทำการตรวจสอบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นไม่พบว่ามีหลักฐานใดๆ ภายในรถ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) จึงทำการเก็บลายนิ้วมือแฝงเพื่อนำมาหาหลักฐานประกอบในสำนวนต่อไป
