"ปานศิริ" พร้อมทีมสอบสวนรับตัว “โมฮัมหมัด” เค้นสอบเข้มที่นครบาล เจ้าตัวมีอาการเครียด ขณะที่ “ซาอิด โมรา” ที่ขาขาดจากแรงระเบิดอาการดีขึ้น
วันนี้ (20 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีระเบิด 3 จุด ในซอยปรีดีพนมยงค์ 31-33 และถนนสุขุมวิท 71 เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า ในเวลา 09.00 น. พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าชุดทำงานคลี่คลายคดี จะแถลงความคืบหน้าในคดีภายหลังเมื่อวันที่ 19 ก.พ. ศาลอาญากรุงเทพใต้ได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาคนที่ 5 ซึ่งเป็นชายชาวตะวันออกกลางที่ปรากฏภาพในกล้องวงจรปิดใน 3 ข้อหา คือ 1. ร่วมกันทำและประกอบวัตถุระเบิด 2. ร่วมกันมีไว้ซึ่งวัตถุระเบิดในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ 3. ทำให้เกิดระเบิดจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกาย
พร้อมกันนี้จะมีการนำตัวนายโมฮัมหมัด คาซาอี (Mohammad Khazaei) อายุ 42 ปี สัญชาติอิหร่าน ผู้ต้องหาชาวอิหร่านที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจับกุมได้ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และถูกควบคุมตัวไว้ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองตาม พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมืองในช่วงที่ผ่านมาที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมด้วย และพบว่าขณะถูกคุมตัวไว้นายโมฮัมหมัดมีอาการเครียดตลอดเวลา ส่วนความคืบหน้าการส่งตัวนาย Masoud Sedaghatzadeh (มาซูด เซดากัตซาเดห์) ชาวอิหร่าน ผู้ต้องหาที่หลบหนีไปมาเลเซีย โดยทางการมาเลเซียจับกุมตัวได้นั้น อยู่ระหว่างดำเนินการประสานขอตัวกลับมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับอาการบาดเจ็บของนายซาอิด โมราดิ อายุ 28 ปี ที่ขาทั้งสองข้างขาดรักษาตัวอยู่ที่ รพ.จุฬาฯ มีอาการดีขึ้นตามลำดับแล้ว โดยรู้สึกตัวดี หลังถอดเครื่องช่วยหายใจออกสามารถตอบสนองได้ดีขึ้น ซึ่งยังไม่พบอาการแทรกซ้อนหรือติดเชื้อใดๆ และยังไม่มีการย้ายตัวมารักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ
ทางด้าน พล.ต.ท.วิบูลย์ บางท่าไม้ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 07.30 น. กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้มอบหมายให้กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ เดินทางมารับตัวนายโมฮัมหมัด ชาวอิหร่าน หนึ่งในผู้ต้องหาก่อเหตุระเบิด 3 จุด เพื่อไปสอบสวนต่อตามกระบวนการยุติธรรมที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลแล้ว
ต่อมาเวลา 08.35 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 ควบคุมตัวนายโมฮัมหมัดจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) มายังกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาสอบปากคำเพิ่มเติมแล้ว
จากนั้นเวลา 09.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผู้ช่วย ผบ.ตร. และพล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. พร้อมด้วยนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ นำทีมชุดพนักงานสอบสวน ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าการสอบสวนนายมูฮัมหมัด คาซาอิ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุระเบิด 3 จุด บริเวณถนนสุขุมวิท 71 เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมานี้ โดยใช้เวลาการสอบปากคำผู้ต้องหากว่า 3 ชั่วโมง
พล.ต.อ.ปานศิริ เปิดเผยว่า หลังจากที่เมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา ศาลอาญากรุงเทพใต้ได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาคนที่ 5 เป็นชายชาวตะวันออกกลาง ชื่อนายนูโรซิ ชายัน อาลี อัคบาร์ (Mr.Norouzi Shaya Ali Akbar) อายุ 57 ปี สัญชาติอิหร่าน ที่บันทึกภาพจากกล้องวงจรปิดได้ โดยได้แจ้งใน 3ข้อหาคือ 1. ร่วมกันทำและประกอบวัตถุระเบิด 2. ร่วมกันมีไว้ซึ่งวัตถุระเบิดในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ 3. ทำให้เกิดระเบิดจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกาย
" เบื้องต้นจากการสอบสวนผู้ต้องหายังให้การภาคเสธกับแนวทางการสอบสวนของตำรวจ อย่างไรก็ตามทางพนักงานสอบสวนก็ได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆที่มีมากพอไว้แล้ว และสามารถบ่งชี้ว่านายโมฮัมหมัด มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดดังกล่าว และในวันนี้ช่วงบ่ายโมง จากการสอบปากคำผู้ต้องหาแล้ว จะมีการพาตัวผู้ต้องหาไปตรวจค้นตามสถานที่ต่างๆตามที่ได้ให้การไว้ ส่วนที่ว่ากลุ่มผู้ต้องหาเป็นกลุ่มฝ่ายใดนั้น ผมยังไม่ขอชี้แจง ขอให้เป็นเรื่องของขบวนการสอบสวนจะดีกว่า " พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าว ภายหลังการสอบสวนผู้ต้องหาเสร็จ
นอกจากนี้ พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับผู้ต้องหาคนที่ 5 ซึ่งมีภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกไว้ได้เมื่อช่วงเช้าวันที่ 14 ก.พ.ก่อนเกิดเหตุระเบิด ทราบชื่อคือนายนูโรซิ ชายัน อาลี อัคบาร์ (Mr.Norouzi Shaya Ali Akbar) อายุ 57 ปี สัญชาติอิหร่าน ซึ่งน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสตม.รายงานการเข้าออกประเทศไทยของนายนูโรซิ ทราบว่า เข้ามาประเทศไทยเมื่อวันที่ 2 ก.พ.เวลา 21.00 น. เที่ยวบิน W 50053 สายการบินมาฮานแอร์ จากกรุงเตฮาลาน ประเทศอิหร่าน และเดินทางออกจากประเทศไทยเมื่อวันที่ 14.ก.พ.เวลา 08.50 น.เที่ยวบิน W50050 สายการบินมาฮานแอร์ จากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปยังกรุงเตฮางาน ประเทศอิหร่าน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง และทำให้เกิดระบิด ซึ่งจากนี้จะเตรียมประสานทางการทูตเพื่อขอติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 16.00 น. พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ รองผบช.น. กล่าวว่า จากการสอบสวนเราได้ออกหมายจับไปแล้ว 5 คน ซึ่งคงไม่มีการออกหมายจับไปมากกว่านี้ แล้ว