ASTVผู้จัดการรายวัน -รอง ผบก.น. 5 เผย ศาลออกหมายจับผู้ต้องหาแก๊งระเบิด 3 จุด เพิ่มอีก 1 ราย เป็นชายตะวันออกกลาง รูปร่างท้วม ยังไม่ทราบชื่อ เตรียมนำผู้ต้องหาออกจาก ตม.สอบขยายผล หลังปิดปาก-เครียด อธ.อัยการต่างประเทศ เผยเร่งร่างคำร้องขอตัวทีมบึ้มจากมาเลเซีย ส่วนคนร้ายที่รักษาตัวที่รพ.จุฬาฯ อาการดีขึ้น ปชป. จี้รัฐบาลยกเป็นวาระแห่งชาติ อัด รมต.เลิกคะนองปาก ดึงไทยเข้าสู่วังวนความขัดแย้ง
เมื่อเวลา 12.00 น. วานนี้ (19 ก.พ.) ที่สน.คลองตัน พ.ต.อ.สุนทร เขมะประภา รองผบก.น.5 กล่าวถึงความคืบหน้า คดีเหตุระเบิด 3 จุด ภายในซอยปรีดีพนมยงค์ 31 และ 35 ว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อออกหมายจับผู้ต้องหารายที่ 5 ซึ่งเป็นบุคคลที่กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพไว้ได้ ขณะเดินลากกระเป๋าเดินทางออกจากบ้านเลขที่ 66 ภายในซอยปรีดีพนมยงค์ 31 ก่อนเกิดเหตุระเบิดขึ้น โดยในภาพเป็นชายชาวตะวันออกกลาง ไม่ทราบชื่อและนามสกุล มีรูปร่างท้วม สูงประมาณ 170 ซม. ในข้อกล่าวหาร่วมกันทำและมีไว้ซึ่งวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้
โดยศาลได้อนุมัติออกหมายจับให้ตามที่พนักงานสอบสวนได้ร้องขอต่อศาลเป็นที่เรียบร้อย ตามหมายจับเลขที่ 106/2555 ลงวันที่ 18 ก.พ. 55
ทั้งนี้ ทางพนักงานสอบสวน ยังไม่สามารถยืนยันว่า ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับในครั้งนี้ ใช่นายนิคคาฟาร์ด จาวัด อายุ 52 ปี ชาวตะวันออกกลาง ซึ่งก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า เป็นผู้ต้องสงสัยเกี่ยวพันกับขบวนการระเบิด 3 จุดหรือไม่
***นำผู้ต้องหาใน ตม.สอบขยายผล
ขณะที่ในวันนี้ (20 ก.พ.) ทางพนักงานสอบสวนจะประสานไปที่ สตม. เพื่อขอรับตัว นายมูฮัมหมัด คาซาอิ ผู้ต้องหาชาวอิหร่าน ที่ถูกจับกุมตัวที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มายังกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยพล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร. จะเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ทั่วไปที่เกี่ยวข้องในวันนี้ (20 ก.พ.) เวลา 09.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล
"จะนำตัวไปทำการสอบปากคำ เนื่องจากนายมูฮัมหมัด มีอาการเครียดอย่างมากและไม่ยอมให้การอะไรใดๆแก่เจ้าหน้าที่แต่อย่างใด สาเหตุส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเนื่องจากสถานกักตัวที่ ตม.มีความคับแคบและแออัด จึงย้ายมาสอบสวนที่ บชน. และมีการประสานล่ามชาวอิหร่านพร้อมทนายความมาร่วมสอบปากคำด้วย"
ในส่วนความคืบหน้าการติดตามตัว นายมาซูด เซดากัต ซาเด อายุ 31 ปี ชาวอิหร่าน ผู้ต้องหาอีกรายซึ่งถูกทางการมาเลเซียควบคุมตัวไว้ได้นั้น พนักงานสอบสวนได้นำหมายศาล เพื่อประสานไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดในการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนแล้ว
** เร่งขอตัวผูต้องหาจากมาเลย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าวานนี้ ที่ สน.คลองตัน พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี และชุดสืบสวนที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว เดินทางไปที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก พร้อมนำหมายจับ เพื่อขอให้อัยการประสานกับทางการมาเลเซียเพื่อขอให้ส่งตัวนายมาซูด เซดากัต ซาเด อายุ 31 ปี สัญชาติอิหร่าน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ 91/2555 ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่สตม.มาเลเซีย ควบคุมตัวไว้ได้ ขณะหลบหนีไปหลังเกิดเหตุระเบิด เมื่อวันที่ 14 ก.พ.55 เป็นผู้ร้ายข้ามแดน
ด้านวันชัย รุจนวงศ์ อธิบดีอัยการฝ่ายต่างประเทศ เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการขอตัวผู้ร้ายข้ามแดน นายมาซุด เซดากาห์ ซาเดห์ ชาวอิหร่าน ที่ถูกจับกุมตัวได้ที่ประเทศมาเลเซียว่า หลังจากสำนักงานอัยการสูงสุดรับหนังสือประสานความร่วมมือ และพยานเอกสาร หลักฐานทางคดีจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา ก็ร่วมประชุมปรึกษาหารือกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งพนักงานอัยการฝ่ายต่างประเทศ พนักงานสอบสวน สตช. และเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ เกี่ยวกับเอกสาร พยานหลักฐาน หมายจับทุกวัน แม้จะเป็นวันหยุดราชการ จนถึงขณะนี้คดีมีความคืบหน้ามากพอสมควร โดยเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายกำลังเร่งพิจารณาทั้งการร่างคำร้องขอตัว การแปลเอกสารเป็นภาษาอังกฤษ คาดว่าคณะทำงานจะเสนอเรื่องให้นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด ลงนาม เพื่อเสนอกระทรวงการต่างประเทศไทยยื่นคำร้องต่อกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซียขอตัว นายมาซุด เป็นผู้ร้ายข้ามแดนได้ภายในสัปดาห์หน้า
** ปชป.จี้เอาจริงเรื่องก่อการร้าย
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีรัฐมนตรีหลายคน ออกมาระบุว่า ผู้ก่อเหตุระเบิดที่ย่านซอยปรีดี พนมยงค์ เป็นจิ๊กโก๋ กุ๊ยข้างถนน หรือช่างกลอิหร่าน ที่ทะเลาะกันเองแล้วปาระเบิดใส่กันว่า เป็นการพูดที่ดูเหมือนเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กมาก ที่สำคัญที่สุดคือ รัฐบาลต้องเตือนประชาชน เพราะสถานการณ์สหรัฐฯ อิหร่าน และอิสราเอล เป็นไปอย่างตึงเครียด มีความพยายามแก้แค้นกันอย่างเปิดเผยจากกลุ่มอิหร่านฮิสบัลเลาะห์ มีการพูดชัดว่า เป้าหมายคือ ประเทศอินเดีย จอเจีย และไทย ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่
" อยากเห็นนายกฯ และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ออกมาเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ และยกเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อทำให้ประเทศหลุดพ้นจากศูนย์กลางการก่อการร้าย และเป็นทางผ่านของการก่อการร้าย หรือเป็นจุดรวมพลของการก่อการร้าย แต่หากจะใช้วิธีของนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ที่จะใช้วิธีบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผมคิดว่า ขอให้ไปบนอย่างอื่นจะดีกว่า ตอนนี้สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ ทั้งการจับกุมตัว และการพูดจาในลักษณะถากถาง ดูถูกการทำงานของคนเหล่านี้ อาจจะทำประเทศไทยเข้าสู่วังวนของความขัดแย้งโดยไม่จำเป็น" นายชวนนท์ กล่าว
**รพ.จุฬาฯ ระบุมือระเบิดอาการดีขึ้น
รศ.นพ.ประเสริฐ ตรีวิจิตรศิลป์ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เปิดเผยความคืบหน้าอาการบาดเจ็บของ นายซาอิฟ โมราบี อายุ 28 ปี ชาวอิหร่าน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ก่อเหตุระเบิด 3 จุด บริเวณซอยปรีดีพนมยงค์ 31 - 33 ถนนสุขุมวิท 71 กรุงเทพฯ จนเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ ขาทั้ง 2 ข้างขาด เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้อาการของ นายซาอิฟ ดีขึ้นตามลำดับ โดยคณะแพทย์ได้ถอดเครื่องช่วยหายใจออกแล้ว นายซาอีฟ รู้สึกตัวดี และตอบสนองได้ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจรักษา ยังไม่พบอาการแทรกซ้อน หรือติดเชื้อแต่อย่างใด.
เมื่อเวลา 12.00 น. วานนี้ (19 ก.พ.) ที่สน.คลองตัน พ.ต.อ.สุนทร เขมะประภา รองผบก.น.5 กล่าวถึงความคืบหน้า คดีเหตุระเบิด 3 จุด ภายในซอยปรีดีพนมยงค์ 31 และ 35 ว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อออกหมายจับผู้ต้องหารายที่ 5 ซึ่งเป็นบุคคลที่กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพไว้ได้ ขณะเดินลากกระเป๋าเดินทางออกจากบ้านเลขที่ 66 ภายในซอยปรีดีพนมยงค์ 31 ก่อนเกิดเหตุระเบิดขึ้น โดยในภาพเป็นชายชาวตะวันออกกลาง ไม่ทราบชื่อและนามสกุล มีรูปร่างท้วม สูงประมาณ 170 ซม. ในข้อกล่าวหาร่วมกันทำและมีไว้ซึ่งวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้
โดยศาลได้อนุมัติออกหมายจับให้ตามที่พนักงานสอบสวนได้ร้องขอต่อศาลเป็นที่เรียบร้อย ตามหมายจับเลขที่ 106/2555 ลงวันที่ 18 ก.พ. 55
ทั้งนี้ ทางพนักงานสอบสวน ยังไม่สามารถยืนยันว่า ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับในครั้งนี้ ใช่นายนิคคาฟาร์ด จาวัด อายุ 52 ปี ชาวตะวันออกกลาง ซึ่งก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า เป็นผู้ต้องสงสัยเกี่ยวพันกับขบวนการระเบิด 3 จุดหรือไม่
***นำผู้ต้องหาใน ตม.สอบขยายผล
ขณะที่ในวันนี้ (20 ก.พ.) ทางพนักงานสอบสวนจะประสานไปที่ สตม. เพื่อขอรับตัว นายมูฮัมหมัด คาซาอิ ผู้ต้องหาชาวอิหร่าน ที่ถูกจับกุมตัวที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มายังกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยพล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร. จะเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ทั่วไปที่เกี่ยวข้องในวันนี้ (20 ก.พ.) เวลา 09.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล
"จะนำตัวไปทำการสอบปากคำ เนื่องจากนายมูฮัมหมัด มีอาการเครียดอย่างมากและไม่ยอมให้การอะไรใดๆแก่เจ้าหน้าที่แต่อย่างใด สาเหตุส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเนื่องจากสถานกักตัวที่ ตม.มีความคับแคบและแออัด จึงย้ายมาสอบสวนที่ บชน. และมีการประสานล่ามชาวอิหร่านพร้อมทนายความมาร่วมสอบปากคำด้วย"
ในส่วนความคืบหน้าการติดตามตัว นายมาซูด เซดากัต ซาเด อายุ 31 ปี ชาวอิหร่าน ผู้ต้องหาอีกรายซึ่งถูกทางการมาเลเซียควบคุมตัวไว้ได้นั้น พนักงานสอบสวนได้นำหมายศาล เพื่อประสานไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดในการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนแล้ว
** เร่งขอตัวผูต้องหาจากมาเลย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าวานนี้ ที่ สน.คลองตัน พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี และชุดสืบสวนที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว เดินทางไปที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก พร้อมนำหมายจับ เพื่อขอให้อัยการประสานกับทางการมาเลเซียเพื่อขอให้ส่งตัวนายมาซูด เซดากัต ซาเด อายุ 31 ปี สัญชาติอิหร่าน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ 91/2555 ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่สตม.มาเลเซีย ควบคุมตัวไว้ได้ ขณะหลบหนีไปหลังเกิดเหตุระเบิด เมื่อวันที่ 14 ก.พ.55 เป็นผู้ร้ายข้ามแดน
ด้านวันชัย รุจนวงศ์ อธิบดีอัยการฝ่ายต่างประเทศ เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการขอตัวผู้ร้ายข้ามแดน นายมาซุด เซดากาห์ ซาเดห์ ชาวอิหร่าน ที่ถูกจับกุมตัวได้ที่ประเทศมาเลเซียว่า หลังจากสำนักงานอัยการสูงสุดรับหนังสือประสานความร่วมมือ และพยานเอกสาร หลักฐานทางคดีจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา ก็ร่วมประชุมปรึกษาหารือกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งพนักงานอัยการฝ่ายต่างประเทศ พนักงานสอบสวน สตช. และเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ เกี่ยวกับเอกสาร พยานหลักฐาน หมายจับทุกวัน แม้จะเป็นวันหยุดราชการ จนถึงขณะนี้คดีมีความคืบหน้ามากพอสมควร โดยเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายกำลังเร่งพิจารณาทั้งการร่างคำร้องขอตัว การแปลเอกสารเป็นภาษาอังกฤษ คาดว่าคณะทำงานจะเสนอเรื่องให้นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด ลงนาม เพื่อเสนอกระทรวงการต่างประเทศไทยยื่นคำร้องต่อกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซียขอตัว นายมาซุด เป็นผู้ร้ายข้ามแดนได้ภายในสัปดาห์หน้า
** ปชป.จี้เอาจริงเรื่องก่อการร้าย
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีรัฐมนตรีหลายคน ออกมาระบุว่า ผู้ก่อเหตุระเบิดที่ย่านซอยปรีดี พนมยงค์ เป็นจิ๊กโก๋ กุ๊ยข้างถนน หรือช่างกลอิหร่าน ที่ทะเลาะกันเองแล้วปาระเบิดใส่กันว่า เป็นการพูดที่ดูเหมือนเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กมาก ที่สำคัญที่สุดคือ รัฐบาลต้องเตือนประชาชน เพราะสถานการณ์สหรัฐฯ อิหร่าน และอิสราเอล เป็นไปอย่างตึงเครียด มีความพยายามแก้แค้นกันอย่างเปิดเผยจากกลุ่มอิหร่านฮิสบัลเลาะห์ มีการพูดชัดว่า เป้าหมายคือ ประเทศอินเดีย จอเจีย และไทย ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่
" อยากเห็นนายกฯ และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ออกมาเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ และยกเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อทำให้ประเทศหลุดพ้นจากศูนย์กลางการก่อการร้าย และเป็นทางผ่านของการก่อการร้าย หรือเป็นจุดรวมพลของการก่อการร้าย แต่หากจะใช้วิธีของนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ที่จะใช้วิธีบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผมคิดว่า ขอให้ไปบนอย่างอื่นจะดีกว่า ตอนนี้สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ ทั้งการจับกุมตัว และการพูดจาในลักษณะถากถาง ดูถูกการทำงานของคนเหล่านี้ อาจจะทำประเทศไทยเข้าสู่วังวนของความขัดแย้งโดยไม่จำเป็น" นายชวนนท์ กล่าว
**รพ.จุฬาฯ ระบุมือระเบิดอาการดีขึ้น
รศ.นพ.ประเสริฐ ตรีวิจิตรศิลป์ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เปิดเผยความคืบหน้าอาการบาดเจ็บของ นายซาอิฟ โมราบี อายุ 28 ปี ชาวอิหร่าน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ก่อเหตุระเบิด 3 จุด บริเวณซอยปรีดีพนมยงค์ 31 - 33 ถนนสุขุมวิท 71 กรุงเทพฯ จนเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ ขาทั้ง 2 ข้างขาด เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้อาการของ นายซาอิฟ ดีขึ้นตามลำดับ โดยคณะแพทย์ได้ถอดเครื่องช่วยหายใจออกแล้ว นายซาอีฟ รู้สึกตัวดี และตอบสนองได้ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจรักษา ยังไม่พบอาการแทรกซ้อน หรือติดเชื้อแต่อย่างใด.
