xs
xsm
sm
md
lg

ตร.เร่งล่าอิหร่าน-หาสาเหตุบึ้ม เชื่อมีมากกว่า 3 คน!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

"ปานศิริ" เรียกประชุมถกคลี่คลายคดีบึ้มสุขุมวิท 71 ทั้งการติดตามไล่ล่า คนร้ายที่ยังหนีรอดไปได้อีก 1 คน การหาสาเหตุแรงจูงใจในการก่อเหตุ รวมถึงพยานแวดล้อมต่างๆ เพื่อขยายผลถึงการก่อการร้ายหรือไม่ ด้าน ผบช.น. มั่นใจคนร้ายน่าจะมีมากกว่า 3 คน ขณะที่ตำรวจ ตม.พัทยา บุกเข้าค้นรังผู้ต้องสงสัยชาวอิหร่านที่มาเข้าพักในโรงแรมเมืองพัทยา แต่เจ้าของห้องเช็กเอาต์เผ่นไปก่อนแล้ว

วันนี้ (15 ก.พ.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ สน.คลองตัน พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร. เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งรัดคลี่คลายคดีเหตุระเบิด 3 จุด ในซอยปรีดีพนมยงค์ (สุขุมวิท 71) เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (14 ก.พ.) โดยยังคงเร่งรัดในการสืบสวนขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการ ของผู้ต้องหาชาวอิหร่านที่ยังหลบหนีอีก 1 คน รวมถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุและพยานแวดล้อมต่างๆ เพื่อขยายผลว่าคดีดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายหรือไม่ หรือมีเหตุจูงใจในการก่อเหตุอื่นๆ ส่วนคนร้ายชาวอิหร่าน ที่จับกุมได้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อช่วงค่ำวานนี้ ขณะนี้ยังถูกควบคุมตัวที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะเข้าไปสอบสวนผู้ต้องหา ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกระเบิดบาดเจ็บที่หน้าโรงเรียนเกษมพิทยา ยังคงรักษาตัวอยู่ที่ รพ.จุฬาลงกรณ์

ด้าน พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. ให้สัมภาษณือีกครั้งโดยแสดงความเชื่อมั่นว่า คนร้ายที่ร่วมขบวนการก่อเหตุในครั้งนี้มีมากกว่า 3 คนอย่างแน่นอน พร้อมทั้งได้สั่งการเจ้าหน้าที่เร่งรัดติดตามตัวคนร้ายที่หลบหนีมาดำเนินคดีให้ได้ และขอความร่วมมือประชาชนแจ้งเบาะแสหากพบเห็นชายชาวตะวันออกกลางมีท่าทีต้องสงสัย และลักษณะคล้ายคนร้ายในภาพวงจรปิด ให้รีบแจ้งตำรวจทันที

ผบช.น.กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังได้แจ้งไปยังสถานพยาบาลต่างๆ ว่ามีชายตะวันออกกลางได้รับบาดเจ็บไปรักษาตัวหรือไม่ หากใครพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที เพราะมีคนเจ็บจากการผิดพลาดจึงระเบิดก่อนในบ้าน และจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบแต่ละลูกเป็นซีโฟร์อัดในวิทยุเครื่องละ 2-3 ปอนด์ โดยใช้วิธีดึงสลักก่อนปา ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่น่าจะใช้บ้านเช่าหลังดังกล่าวประกอบระเบิด แต่น่าจะประกอบมาจากที่อื่น

ขณะที่ จ.ชลบุรี พ.ต.อ.ชูศักดิ์ พนัสอัมพร ผกก.ตม.จ.ชลบุรี พ.ต.ท.นพพล กุลดิลก สว.ตม.จ.ชลบุรี ร.ต.อ.ธนูศิลป์ ดวงแก้วงาม รอง สว.ตม.จ.ชลบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ตม.จ.ชลบุรีจำนวนหนึ่งเข้าตรวจสอบภายในห้อง 310 ชั้นที่ 3 ของท็อปไทยโฮเต็ล ตั้งอยู่บริเวณซอยโรงแรมไวท์เฮ้าส์ ถนนวอล์กกิ้งสตรีท พัทยาใต้ หลังทราบว่าเป็นโรงแรมที่สามผู้ต้องสงสัยชาวอิหร่านเข้าพักที่โรงแรมก่อนก่อเหตุระเบิดในกรุงเทพฯ

จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องสงสัยได้เช็กเอาต์ไปก่อนตั้งแต่วันที่ 13 ก.พ.55 เวลาประมาณ 11.58 น. ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดพบว่า มีชาวอิหร่าน 1 คน ได้เข้ามาเปิดห้อง 310 ที่โรงแรมตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ.55 แล้วมีชาวอิหร่านอีก 2 คนเข้ามาพักด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรายชื่อทั้งหมดมาตรวจสอบแล้ว พร้อมนำภาพวงจรปิดมาเปรียบเทียบหน้าตากับผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้ที่ถูกจับได้ที่สนามบินว่าเป็นคนเดียวกันหรือไม่ ส่วนอีกคนยังไม่สามารถทราบได้ว่าหลบหนีไปที่ไหน

ทั้งนี้ พ.ต.อ.ชูศักดิ์เตรียมดำเนินคดีกับเจ้าของโรงแรมในข้อหาไม่แจ้งการเข้าพักของชาวต่างชาติภายใน 24 ชม. ซึ่งตามกฎหมายทางโรงแรม เกสต์เฮาส์ อพาร์ตเมนต์ต้องแจ้งที่พักภายใน 24 ชม.หลังชาวต่างชาติเข้าพัก
บ้านเช่าที่ชาวอิหร่านพักอาศัยถูกระเบิดได้รับความเสียหาย
สภาพหนุ่มอิหร่านที่โยนระเบิดแต่พลาดหล่นโดนขาตัวเองขาด
กำลังโหลดความคิดเห็น