ผบ.ตร.เผย “โมฮัมหมัด คาซาอี” ชาวอิหร่านให้การภาคเสธ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดกลางกรุง 3 จุด ย้ำ พยานหลักฐาน ทั้งบุคคล-นิติวิทยาศาสตร์-กล้องวงจรปิด เชื่อแน่นหนา ไม่น่าจะมีปัญหา ชี้ เหตุครั้งนี้เหมือนเหตุการณ์ระเบิดในอินเดีย เป้าสังหารบุคคล ไม่ใช่ตามสถานที่ ส่วนผู้ต้องหาอีกรายหลบหนีไปกบดานมาเลเซีย โดยได้ประสานทางการมาเลย์เพื่อติดตามจับกุมต่อไป
วันนี้ (15 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.เดินทางติดตามความคืบหน้าการสอบสวน นายโมฮัมหมัด คาซาอี(Mohammad Khazaei) อายุ 42 ปี สัญชาติอิหร่าน ถูกจับกุมตัวได้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิขณะเตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ โดย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ พร้อมด้วย พล.ต.ท.วิบูลย์ บางท่าไม้ ผบช.สตม พล.ต.ต.วรินทร์ บุญยเกียรติ รองผบช.สตม พล.ต.ต.วรเทพ เมธาวัจน์ รองผบช.สตม เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง เจ้าหน้าที่สถานทูตอิหร่าน พร้อมล่ามแปลภาษา ได้ร่วมกันสอบปากคำ นายโมฮัมหมัด โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า จากการสอบสวน นายโมฮัมหมัด ได้ให้การภาคเสธ ว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิดดังกล่าว แต่จากพยานหลักฐาน บุคคล และหลักฐานจากทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมถึงภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพนายโมฮัมหมัด ได้ขณะเดินออกมาจากบ้าน พร้อมกับพวก หลังเกิดเหตุระเบิดจุดแรกภายในบ้านเลขที่ 66 ภายในซอยปรีดีพนมยงค์ 31 รวมทั้งจากแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ สตม.และทาง บช.น.มีพยานหลักฐานรัดกุม จึงทำให้เชื่อได้ว่าคดีนี้มีพยานหลักฐานพอเพียง และไม่น่าจะมีปัญหา
ผบ.ตร.กล่าวต่อไปว่า ลักษณะระเบิดเหมือนกับเหตุการณ์ระเบิดที่ประเทศอินเดีย โดยย้ำว่า การกระทำในครั้งนี้เป็นการมุ่งสังหารส่วนบุคคล ไม่ใช่ก่อเหตุตามสถานที่ พร้อมกันนี้ ได้จัดให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานที่ต่างๆ ที่มีชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายอยู่เป็นจำนวนมาก ส่วนผู้ต้องสงสัยอีกคนหนึ่งที่เดินออกมาจากบ้านหลังที่เกิดระเบิด และสามารถหลบหนีออกไปนอกประเทศ ทราบชื่อต่อมาคือ นายมาซูด (Masoud Sedaghatzadeh) ชาวอิหร่าน ล่าสุด ทราบว่า หลบหนีไปประเทศมาเลเซียแล้ว ด้วยสายการบินแอร์เอเชีย โดยเช็กอินเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น.และขึ้นเครื่องประมาณ 20.20 น.ซึ่งได้ประสานงานกับทางการมาเลเซีย เพื่อติดตามจับกุมตัวแล้ว
ด้าน พล.ต.ท.วิบูลย์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถแจ้งข้อกล่าวหากับนายโมฮัมหมัด ได้ ซึ่ง สตม.เพียงแต่เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหาจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน ว่า มีความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดดังกล่าว จึงจะแจ้งข้อกล่าวหาได้ อย่างไรก็ตาม สตม.สามารถควบคุมตัวได้ตามกรอบของความจำเป็น ซึ่งไม่กำหนดระยะเวลา โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า วัตถุระเบิดที่เกิดขึ้นคล้ายคลึงกับเหตุการณ์ระเบิดที่ ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ ทางแพทย์จาก รพ.ตำรวจ ได้เดินทางมาตรวจร่างกาย นายโมฮัมหมัด เพื่อประกอบสำนวนในการใช้เป็นหลักฐานต่อไป