ตร.191 บุกจับแก๊งผลิตทองปลอม เปิดบ้านทำเป็นโรงงานย่อยผลิตสร้อยคอทอง แต่ขณะ ตร.เข้าจับกุมพบผู้ต้องหากว่า 10 รายจับกลุ่มเล่นการพนัน จึงจับดำเนินคดีพ่วงไปด้วย พร้อมยึดอุปกรณ์การผลิต อุปกรณ์การพนัน ผู้ต้องหารับสารภาพซื้อทองจริงมาแปรรูป มาหล่อแล้วหุ้มด้วยเงินทำเป็นสร้อยเส้นละ 1 บาท แล้วนำไปขายหรือเอาไปจำนำ
วันนี้ (25 ม.ค.) เวลา 11.30 น. พ.ต.ต.ดวงโชติ สุวรรณจรัส สว.งานสายตรวจ 2 พร้อมเจ้าหน้าที่ บก.สปพ.(191) นำกำลังตรวจค้นบ้านเลขที่ 69/16 ซ.จรัญวิลล่า 13 ถ.บางแวก แขวงบางแวก เขตภาษีเจริญ กทม.หลังได้รับแจ้งว่า มีการเล่นพนันและเป็นสถานที่ผลิตทองแปรรูป จึงรายงายผู้บังคับบัญชา และรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ รองผบช.น. พ.ต.อ.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผู้กำกับการ กองกำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) และ พ.ต.ท.พูลศํกดิ์ สุวรรณจินดา ผกก.สน.บางเสาธง โดยสามารถจับผู้ต้องหามากกว่า 10 ราย พร้อมของกลาง ทองคำแปรรูปพร้อมอุปกรณ์การผลิต อุปกรณ์เล่นการพนันและอุปกรณ์เสพยา
ที่เกิดเหตุเป็นลักษณะบ้านปูนชั้นเดี่ยว มีรั้วรอบขอบชิด ภายในบ้านมีแบ่งออกเป็นหลายห้อง บริเวณหลังบ้านพบโต๊ะทำทอง จำนวน 9 โต๊ะ พร้อมอุปกรณ์การผลิต สร้อยคอทองคำอยู่ในระหว่างการผลิตจำนวนหนึ่ง อุปกรณ์เล่นการพนันและอุปกรณ์เสพยา จากการตรวจค้นสามารถจับกุมเจ้าของบ้านได้ ทราบชื่อต่อมา คือ นายธนากร อาภรณ์ชัย อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1354/227 ซ.จรัญสนิทวงศ์ 57 แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กทม.พร้อมช่างทำทองอีก 5 คน ส่วนที่เหลือเป็นคนที่เล่นการพนันและมาเสพยาเสพติด
พล.ต.ต.สาโรจน์ เปิดเผยว่า พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น.ได้สั่งการให้ บก.สส.บช.น.ออกตรวจตามโรงงานที่มีการผลิตทอง ต่อมาทราบว่าที่แห่งนี้มีการผลิตทองพร้อมแอบลักลอบเล่นการพนัน จึงได้มีการมาตรวจค้นในวันนี้ พบว่า มีแท่นที่ทำทองและตราสัญลักษณ์ของร้านทอง ที่จริงตราสัญลักษณ์นั้นต้องอยู่ที่ร้านทองเท่านั้น ทั้งนี้ บริเวณที่นำไปขาย หรือจำนำมักจะอยู่ในย่านบางลำภู ประชาอุทิศ และสะพานควาย ส่วนบริเวณแยกคอกวัวและย่านบางกรวย นั้นเคยนำไปขายและจำนำ แต่ถูกตรวจเจอจึงทำการไม่ได้
พล.ต.ต.สาโรจน์ กล่าวว่า เมื่อก่อนผู้ต้องหาได้บอกว่าทำการผลิตแปรรูปต่างๆที่ทำด้วยเงิน หลังน้ำท่วมเกิดขึ้นจึงได้มาทำการดังกล่าว เบื้องต้นจะตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกที โดยผู้ต้องหาได้ซี้อทองแท่ง มาจากร้านทองจริง แต่จะมาหล่อแล้วหุ้มด้วยเงินทำเป็นสร้อยเส้นละ 1 บาท ออกไปขาย เพราะถ้าเกินกว่านี้จะผิดสังเกต และนำไปขายหรือจำนำตามที่ดังกล่าว
“ก่อนหน้านี้ ผู้ต้องหายังเคยถูกจับกุมได้ที่ร้านทอง ข้อหาฉ้อโกง แต่มีการเจรจากับทางเจ้าของร้านทองและเจ้าของร้านทองไม่เอาเรื่อง ทำให้เกิดการยอมความกันขึ้น แต่ทางที่ดีควรแจ้งให้ตำรวจรับทราบเพื่อขยายผลจับกุมรายใหญ่ต่อไปได้” รองผบช.น.กล่าว
ด้าน นายสมบูรณ์ ภุชงค์โสภาพันธุ์ กรรมการสมาคมค้าทองคำ อยู่ในอนุกรรมการปราบปรามทองคำปลอม เปิดเผยหลังการตรวจสอบ ปรากฏว่า สร้อยทองคำที่พบได้ใช้เครื่องเอกซเรย์ตรวจสอบเนื้อทองพบว่าด้านในหุ้มด้วยเงิน จำนวน 3 เส้น และยังที่ไม่ประกอบอีกจำนวนหนึ่งในขัน หลังจากนี้จะนำไปตรวจสอบหาผู้เสียหายและเจ้าของร้านทองที่มีตราสัญลักษณ์ตรงกันกับที่เจอในบ้านที่เกิดเหตุ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาปลอมแปลงเครื่องหมายการค้า ลักลอบเล่นการพนัน มีสารเสพติดไว้ในครอบครอง (ยาบ้า) และข้อหาฉ้อโกง พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (25 ม.ค.) เวลา 11.30 น. พ.ต.ต.ดวงโชติ สุวรรณจรัส สว.งานสายตรวจ 2 พร้อมเจ้าหน้าที่ บก.สปพ.(191) นำกำลังตรวจค้นบ้านเลขที่ 69/16 ซ.จรัญวิลล่า 13 ถ.บางแวก แขวงบางแวก เขตภาษีเจริญ กทม.หลังได้รับแจ้งว่า มีการเล่นพนันและเป็นสถานที่ผลิตทองแปรรูป จึงรายงายผู้บังคับบัญชา และรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ รองผบช.น. พ.ต.อ.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผู้กำกับการ กองกำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) และ พ.ต.ท.พูลศํกดิ์ สุวรรณจินดา ผกก.สน.บางเสาธง โดยสามารถจับผู้ต้องหามากกว่า 10 ราย พร้อมของกลาง ทองคำแปรรูปพร้อมอุปกรณ์การผลิต อุปกรณ์เล่นการพนันและอุปกรณ์เสพยา
ที่เกิดเหตุเป็นลักษณะบ้านปูนชั้นเดี่ยว มีรั้วรอบขอบชิด ภายในบ้านมีแบ่งออกเป็นหลายห้อง บริเวณหลังบ้านพบโต๊ะทำทอง จำนวน 9 โต๊ะ พร้อมอุปกรณ์การผลิต สร้อยคอทองคำอยู่ในระหว่างการผลิตจำนวนหนึ่ง อุปกรณ์เล่นการพนันและอุปกรณ์เสพยา จากการตรวจค้นสามารถจับกุมเจ้าของบ้านได้ ทราบชื่อต่อมา คือ นายธนากร อาภรณ์ชัย อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1354/227 ซ.จรัญสนิทวงศ์ 57 แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กทม.พร้อมช่างทำทองอีก 5 คน ส่วนที่เหลือเป็นคนที่เล่นการพนันและมาเสพยาเสพติด
พล.ต.ต.สาโรจน์ เปิดเผยว่า พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น.ได้สั่งการให้ บก.สส.บช.น.ออกตรวจตามโรงงานที่มีการผลิตทอง ต่อมาทราบว่าที่แห่งนี้มีการผลิตทองพร้อมแอบลักลอบเล่นการพนัน จึงได้มีการมาตรวจค้นในวันนี้ พบว่า มีแท่นที่ทำทองและตราสัญลักษณ์ของร้านทอง ที่จริงตราสัญลักษณ์นั้นต้องอยู่ที่ร้านทองเท่านั้น ทั้งนี้ บริเวณที่นำไปขาย หรือจำนำมักจะอยู่ในย่านบางลำภู ประชาอุทิศ และสะพานควาย ส่วนบริเวณแยกคอกวัวและย่านบางกรวย นั้นเคยนำไปขายและจำนำ แต่ถูกตรวจเจอจึงทำการไม่ได้
พล.ต.ต.สาโรจน์ กล่าวว่า เมื่อก่อนผู้ต้องหาได้บอกว่าทำการผลิตแปรรูปต่างๆที่ทำด้วยเงิน หลังน้ำท่วมเกิดขึ้นจึงได้มาทำการดังกล่าว เบื้องต้นจะตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกที โดยผู้ต้องหาได้ซี้อทองแท่ง มาจากร้านทองจริง แต่จะมาหล่อแล้วหุ้มด้วยเงินทำเป็นสร้อยเส้นละ 1 บาท ออกไปขาย เพราะถ้าเกินกว่านี้จะผิดสังเกต และนำไปขายหรือจำนำตามที่ดังกล่าว
“ก่อนหน้านี้ ผู้ต้องหายังเคยถูกจับกุมได้ที่ร้านทอง ข้อหาฉ้อโกง แต่มีการเจรจากับทางเจ้าของร้านทองและเจ้าของร้านทองไม่เอาเรื่อง ทำให้เกิดการยอมความกันขึ้น แต่ทางที่ดีควรแจ้งให้ตำรวจรับทราบเพื่อขยายผลจับกุมรายใหญ่ต่อไปได้” รองผบช.น.กล่าว
ด้าน นายสมบูรณ์ ภุชงค์โสภาพันธุ์ กรรมการสมาคมค้าทองคำ อยู่ในอนุกรรมการปราบปรามทองคำปลอม เปิดเผยหลังการตรวจสอบ ปรากฏว่า สร้อยทองคำที่พบได้ใช้เครื่องเอกซเรย์ตรวจสอบเนื้อทองพบว่าด้านในหุ้มด้วยเงิน จำนวน 3 เส้น และยังที่ไม่ประกอบอีกจำนวนหนึ่งในขัน หลังจากนี้จะนำไปตรวจสอบหาผู้เสียหายและเจ้าของร้านทองที่มีตราสัญลักษณ์ตรงกันกับที่เจอในบ้านที่เกิดเหตุ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาปลอมแปลงเครื่องหมายการค้า ลักลอบเล่นการพนัน มีสารเสพติดไว้ในครอบครอง (ยาบ้า) และข้อหาฉ้อโกง พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป