รวบสองผัวเมียขับสองแถวส่งยาบ้า-ไอซ์ ยึดของกลางยาบ้า 1 หมื่นเม็ด ยาไอซ์กว่าพันกรัม ซุกซ่อนในช่องเก็บของภายในรถ พร้อมขยายผลยึดทรัพย์สินเกี่ยวเนื่อง ทั้งรถเก๋ง-รถสองแถว รวมทั้งบัญชีเงินฝากที่มีเงินหมุนเวียนกว่า 5 ล้าน ผู้ต้องหาอ้างเป็นเพียงคนนำส่งยา โดยจะมีนักโทษในเรือนจำบางขวางโทษสั่ง ได้ค่าจ้างครั้งละ 2 หมื่น
วันนี้ (16 ธ.ค.) เมื่อเวลา 02.30 น.พ.ต.ท.ณรงค์ชัย ฉายแสง รองผกก.สส.3 บก.สส.ภ.1 นำกำลังเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดและเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนภูธรภาค 1 จับกุม นายประสิทธิ์ หรือ บอย สงวนลานนท์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 171/4 ม.2 ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ และ นางเกตุวลี หรือ แก้ม ปิ่นทอง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 396 ถ.สุทธิสารแยก 1 แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม.สองสามีภรรยา ขณะขับรถสองแถว วิ่งระหว่างวัดคู่สร้าง-บิ๊กซีพระประแดง โดยจับได้ที่บ้านพักข้างหมู่บ้านวิเศษสุขนคร ซ.ประชาอุทิศ 90 หมู่ที่ 10 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เมื่อตรวจค้นภายในรถสองแถวพบ ยาบ้าเม็ดสีส้มอยู่ในถุงพลาสติกมัดแน่นด้วยเทปกาวสีดำ จำนวน 5 ก้อนๆ ละ 10 ถุง รวม 10,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในถุงกระดาษสีแดง ยี่ห้อ TAYWIN วางอยู่บริเวณที่วางเท้าด้านข้างคนขับ และ ยาไอซ์ บรรจุอยู่ในถุงบรรจุชายี่ห้อหนึ่ง พันรอบด้วยกระดาษกาวและหนังยาง น้ำหนักรวม 1,161.03 กรัม ที่ซุกซ่อนอยู่ในช่องเก็บของด้านซ้ายของคนขับ
นอกจากนี้ ยังตรวจยึดของกลางที่เป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องจากการกระทำความผิด เช่น รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีเทา หมายเลขทะเบียน สช 3123 กทม.รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว หมายเลขทะเบียนป้ายแดง ฐ 9299 กทม.และรถยนต์สองแถวยี่ห้อ มิตซูบิชิ สีเขียวหมายเลขทะเบียนป้ายเหลือง 13-9366 กทม.วิ่งระหว่าง วัดคู่สร้าง-บิ๊กซีพระประแดง สมุดบัญชีเงินฝากของธนาคารต่างๆ รวม 3 เล่ม มีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 5 ล้านบาท จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดมาส่งพนักงานสอบสวนที่ สภ.พระสมุทรเจดีย์
จาการสอบสวน นายประสิทธิ์ อ้างว่า ของกลางทั้งหมดเป็นของนายเอ๋ย ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง เป็นนักโทษอยู่ในเรือนจำบางขวาง โดยโทรศัพท์มาให้ตนและภรรยาเป็นคนนำยาไปส่งในแต่ละครั้ง และได้ค่าส่งครั้งละ 2-3 หมื่นบาท ส่วนมากจะนัดส่งกันในเขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร และเขต อ.พระประแดง อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ และในวันเสาร์ที่จะถึงนี้จะมีลูกค้ารายใหญ่มารับของในย่านทุ่งครุอีก แต่มาถูกจับก่อน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนขยายผลการจับกุมพรรคพวกร่วมขบวนการต่อไป โดยเบื้องต้นแจ้งข้อหาว่า ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ยาบ้า และยาไอซ์ ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
วันนี้ (16 ธ.ค.) เมื่อเวลา 02.30 น.พ.ต.ท.ณรงค์ชัย ฉายแสง รองผกก.สส.3 บก.สส.ภ.1 นำกำลังเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดและเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนภูธรภาค 1 จับกุม นายประสิทธิ์ หรือ บอย สงวนลานนท์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 171/4 ม.2 ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ และ นางเกตุวลี หรือ แก้ม ปิ่นทอง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 396 ถ.สุทธิสารแยก 1 แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม.สองสามีภรรยา ขณะขับรถสองแถว วิ่งระหว่างวัดคู่สร้าง-บิ๊กซีพระประแดง โดยจับได้ที่บ้านพักข้างหมู่บ้านวิเศษสุขนคร ซ.ประชาอุทิศ 90 หมู่ที่ 10 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เมื่อตรวจค้นภายในรถสองแถวพบ ยาบ้าเม็ดสีส้มอยู่ในถุงพลาสติกมัดแน่นด้วยเทปกาวสีดำ จำนวน 5 ก้อนๆ ละ 10 ถุง รวม 10,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในถุงกระดาษสีแดง ยี่ห้อ TAYWIN วางอยู่บริเวณที่วางเท้าด้านข้างคนขับ และ ยาไอซ์ บรรจุอยู่ในถุงบรรจุชายี่ห้อหนึ่ง พันรอบด้วยกระดาษกาวและหนังยาง น้ำหนักรวม 1,161.03 กรัม ที่ซุกซ่อนอยู่ในช่องเก็บของด้านซ้ายของคนขับ
นอกจากนี้ ยังตรวจยึดของกลางที่เป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องจากการกระทำความผิด เช่น รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีเทา หมายเลขทะเบียน สช 3123 กทม.รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว หมายเลขทะเบียนป้ายแดง ฐ 9299 กทม.และรถยนต์สองแถวยี่ห้อ มิตซูบิชิ สีเขียวหมายเลขทะเบียนป้ายเหลือง 13-9366 กทม.วิ่งระหว่าง วัดคู่สร้าง-บิ๊กซีพระประแดง สมุดบัญชีเงินฝากของธนาคารต่างๆ รวม 3 เล่ม มีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 5 ล้านบาท จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดมาส่งพนักงานสอบสวนที่ สภ.พระสมุทรเจดีย์
จาการสอบสวน นายประสิทธิ์ อ้างว่า ของกลางทั้งหมดเป็นของนายเอ๋ย ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง เป็นนักโทษอยู่ในเรือนจำบางขวาง โดยโทรศัพท์มาให้ตนและภรรยาเป็นคนนำยาไปส่งในแต่ละครั้ง และได้ค่าส่งครั้งละ 2-3 หมื่นบาท ส่วนมากจะนัดส่งกันในเขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร และเขต อ.พระประแดง อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ และในวันเสาร์ที่จะถึงนี้จะมีลูกค้ารายใหญ่มารับของในย่านทุ่งครุอีก แต่มาถูกจับก่อน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนขยายผลการจับกุมพรรคพวกร่วมขบวนการต่อไป โดยเบื้องต้นแจ้งข้อหาว่า ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ยาบ้า และยาไอซ์ ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
