ตัวแทน หจก.ปู่อินทร์ฯ ผู้ได้รับสัมปทานเดินรถเส้นทางรามอินทรา และรถสองแถวป้ายเหลือง แจ้งจับ “เผด็จ แก้วอุดม” ผู้ประกอบการรถสองแถวป้ายดำ อ้างพาพวกวิ่งทับเส้นทางหน้าห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ เพราะจ่ายส่วย ตร.จึงทำให้รถสองแถวป้ายเหลืองถูกจับแทน ขณะที่ ผกก.บางชัน สั่งลูกน้องอย่าเลือกปฏิบัติ ว่าไปตามถูกผิด โดยจะออกหมายเรียก “เผด็จ” มารับทราบข้อกล่าวหา ด้าน สว.จร.บางชัน ชี้ จราจรทุกนายทำตามหน้าที่จับกุม เพราะมีผู้ร้องเรียน และที่จริงเขตสัมปทานสิ้นสุดแค่หน้า รพ.นพรัตน์ฯ เชื่อขัดแย้งกันเองแล้วโยง ตร.ไปเอี่ยว
วันนี้ (26 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่ สน.บางชัน นายอัครพัชร์ โชติเดชาชัยนันต์ กรรมการฝ่ายบริหาร หจก.ปู่อินทร์ ทรานสปอร์ต พร้อมด้วย น.ส.ฐิติพัชร์ โชติเดชาชัยนันต์ ตัวแทนผู้ประกอบการรถสองแถวที่ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.เหรียญชัย เหล่าที พนักงานสอบสวน (สบ2) สน.บางชัน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายเผด็จ แก้วอุดม ตัวแทนผู้ประกอบการรถสองแถวป้ายดำ ในข้อหานำรถป้ายดำเข้ามาวิ่งทับเส้นทาง ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.กรมการขนส่ง มาตรา 23 โดยมีกลุ่มผู้ประกอบการรถสองแถวกว่า 30 คน เดินทางมาให้กำลังใจ และชูป้ายร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายอัครพัชร์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวาน (25 ก.ค.) ที่ผ่านมานายเผด็จได้นำกลุ่มผู้ประกอบการรถสองแถวป้ายดำไปยื่นหนังสือร้องเรียนที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ว่าถูกรถสองแถวของตนไปวิ่งทับเส้นทาง ทั้งที่จ่ายส่วยให้กับ สว.จร.สน.มีนบุรี เดือนละ 2 หมื่นบาท ตนจึงอยากจะชี้แจงว่า หจก.ปู่อินทร์ ทรานสปอร์ต ต่างหากที่ได้รับการสัมปทานให้เดินรถในเส้นทางรามอินทราอย่างถูกต้อง และยังมีใบอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบกด้วย ซึ่งระยะเวลาในการวิ่งรถนั้นไล่เลี่ยกัน แต่หจก.ปู่อินทร์ ปฏิบัติตามมาตรฐานของกรมการขนส่งทางบก ติดก๊าซเอ็นจีวี และมีการตรวจสอบสภาพรถเป็นประจำ โดยก่อนหน้านี้ตนเคยเข้าแจ้งความที่ สน.มีนบุรี เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.53 และที่ สน.บางชัน วันที่ 8 พ.ค. 54 เกี่ยวกับเรื่องการถูกรถป้ายดำวิ่งทับเส้นทาง แต่คดีไม่มีความมคืบหน้า ซึ่งรถป้ายดำยังคงวิ่งเป็นปกติ แต่รถป้ายเหลืองที่ถูกกฎหมายมีใบอนุญาตถูกต้องกลับถูกตำรวจจับแทน อย่างไรก็ตาม ในวันนี้จึงมาติดตามความคืบหน้าของคดี และแจ้งข้อหาเพิ่มเติมแก่นายเผด็จ เพราะนายเผด็จออกมาแสดงตัวแล้วว่าเป็นแกนนำของกลุ่มรถสองแถวป้ายดำ
นายอัครพัชร์ กล่าวอีกว่า รถสองแถวป้ายเหลือง ของ หจก.ปู่อินทร์ ที่ถูกต้องมีอยู่ประมาณ 31 คัน ส่วนรถสองแถวป้ายดำมีประมาณ 25 คัน ซึ่งที่ผ่านมาตนเคยเจรจากับรถสองแถวป้ายดำ ว่า ให้เข้ามาร่วมกับ หจก.ปู่อินทร์ เพราะจะได้วิ่งอย่างถูกต้อง และไม่เกิดปัญหาการวิ่งทับเส้นทางกัน แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ และยังมีการข่มขู่พวกตนด้วย ซึ่งตนเลยอะลุ่มอล่วยไม่อยากมีเรื่อง กระทั่งเห็นนายเผด็จ เดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียน ว่าเราไปวิ่งทับเส้นทางและมีการใช้กลุ่มมวลชนมากดดัน ดังนั้น ในวันนี้ตนจึงต้องออกมาชี้แจงว่าใครกันแน่ที่วิ่งทับเส้นทาง และเป็นรถป้ายดำที่ผิดกฎหมาย ซึ่งเส้นทางดังกล่าวคาบเกี่ยวระหว่างท้องที่ สน.มีนบุรี และ สน.บางชัน จึงแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน และเคยแจ้งความดำเนินคดีกับ สว.จร.สน.บางชัน ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เมื่อวันที่ 6 พ.ค.54 ที่ผ่านมา เนื่องจากขณะที่รถป้ายดำไปจอดที่หน้าห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ ตำรวจกลับไม่จับกุม ทำเป็นมองไม่เห็น แต่พอรถสองแถวป้ายเหลืองที่ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งไปวิ่งกลับถูกจับ ซึ่งตนมีภาพถ่ายวิดีโอไว้เป็นหลักฐานทั้งหมดด้วย
“วันนี้ผมอยากจะถามว่าทำไมไม่จับรถป้ายดำ แต่มาจับรถที่ถูกต้อง จับวันละเกือบ 10 คัน หรือเป็นเพราะว่าผมไม่จ่ายส่วยหรือเปล่า ทำไมทุกวันนี้รถป้ายดำถึงยังวิ่งอยู่ได้” นายอัครพัชร์ กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ศราวุธ จิตต์ระเบียบ ผกก.สน.บางชัน กล่าวว่า หลังจากที่ตัวแทนของ หจก.ปู่อินทร์ ทรานสปอร์ต เข้ามาร้องเรียน ตนได้สั่งการให้ลูกน้องโดยเฉพาะฝ่ายจราจร ให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้อง ใครผิดก็ว่ากันไปตามผิด อย่าเลือกปฏิบัติ และหลังจากทำการสอบปากคำตัวแทน หจก.ปู่อินทร์ ทรานสปอร์ต เรียบร้อยแล้ว จะทำการออกหมายเรียก นายเผด็จ มารับทราบข้อกล่าวหาและให้ปากคำ ถ้าหากออกหมายเรียกไป 2 ครั้ง แล้วยังไม่มาจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับตามขั้นตอนต่อไป
ด้าน พ.ต.ท.ปราการ ยูวะนิยม สว.จร.สน.บางชัน กล่าวว่า ตนขอยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้เลือกปฏิบัติ แต่กลุ่มผู้ร้องได้วิ่งเลยเข้ามาในเส้นทางที่สัมปทานไว้ คือ บริเวณหน้าห้างแฟชั่น ไอส์แลนด์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของ สน.บางชัน โดยความเป็นจริงแล้วเขตสัมปทานจะสิ้นสุดแค่หน้าโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี ซึ่งเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องจับกุม เนื่องจากมีการร้องเรียนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรมาโดยตลอด ว่า การจราจรหน้าห้าง มีปัญหา ตนไม่รู้สึกวิตกกังวล หากมีการร้องเรียน เพราะตนและเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรทุกนายปฏิบัติตามหน้าที่ และเชื่อว่า เรื่องดังกล่าวน่าจะเป็นการขัดแย้งการวิ่งทับเส้นทางของกลุ่มผู้ประกอบการเอง แต่โยงตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
สารวัตรรับส่วย! สองแถวสุดทน ร้องนครบาลเอาผิด สว.จร.มีนบุรี
วันนี้ (26 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่ สน.บางชัน นายอัครพัชร์ โชติเดชาชัยนันต์ กรรมการฝ่ายบริหาร หจก.ปู่อินทร์ ทรานสปอร์ต พร้อมด้วย น.ส.ฐิติพัชร์ โชติเดชาชัยนันต์ ตัวแทนผู้ประกอบการรถสองแถวที่ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.เหรียญชัย เหล่าที พนักงานสอบสวน (สบ2) สน.บางชัน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายเผด็จ แก้วอุดม ตัวแทนผู้ประกอบการรถสองแถวป้ายดำ ในข้อหานำรถป้ายดำเข้ามาวิ่งทับเส้นทาง ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.กรมการขนส่ง มาตรา 23 โดยมีกลุ่มผู้ประกอบการรถสองแถวกว่า 30 คน เดินทางมาให้กำลังใจ และชูป้ายร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายอัครพัชร์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวาน (25 ก.ค.) ที่ผ่านมานายเผด็จได้นำกลุ่มผู้ประกอบการรถสองแถวป้ายดำไปยื่นหนังสือร้องเรียนที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ว่าถูกรถสองแถวของตนไปวิ่งทับเส้นทาง ทั้งที่จ่ายส่วยให้กับ สว.จร.สน.มีนบุรี เดือนละ 2 หมื่นบาท ตนจึงอยากจะชี้แจงว่า หจก.ปู่อินทร์ ทรานสปอร์ต ต่างหากที่ได้รับการสัมปทานให้เดินรถในเส้นทางรามอินทราอย่างถูกต้อง และยังมีใบอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบกด้วย ซึ่งระยะเวลาในการวิ่งรถนั้นไล่เลี่ยกัน แต่หจก.ปู่อินทร์ ปฏิบัติตามมาตรฐานของกรมการขนส่งทางบก ติดก๊าซเอ็นจีวี และมีการตรวจสอบสภาพรถเป็นประจำ โดยก่อนหน้านี้ตนเคยเข้าแจ้งความที่ สน.มีนบุรี เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.53 และที่ สน.บางชัน วันที่ 8 พ.ค. 54 เกี่ยวกับเรื่องการถูกรถป้ายดำวิ่งทับเส้นทาง แต่คดีไม่มีความมคืบหน้า ซึ่งรถป้ายดำยังคงวิ่งเป็นปกติ แต่รถป้ายเหลืองที่ถูกกฎหมายมีใบอนุญาตถูกต้องกลับถูกตำรวจจับแทน อย่างไรก็ตาม ในวันนี้จึงมาติดตามความคืบหน้าของคดี และแจ้งข้อหาเพิ่มเติมแก่นายเผด็จ เพราะนายเผด็จออกมาแสดงตัวแล้วว่าเป็นแกนนำของกลุ่มรถสองแถวป้ายดำ
นายอัครพัชร์ กล่าวอีกว่า รถสองแถวป้ายเหลือง ของ หจก.ปู่อินทร์ ที่ถูกต้องมีอยู่ประมาณ 31 คัน ส่วนรถสองแถวป้ายดำมีประมาณ 25 คัน ซึ่งที่ผ่านมาตนเคยเจรจากับรถสองแถวป้ายดำ ว่า ให้เข้ามาร่วมกับ หจก.ปู่อินทร์ เพราะจะได้วิ่งอย่างถูกต้อง และไม่เกิดปัญหาการวิ่งทับเส้นทางกัน แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ และยังมีการข่มขู่พวกตนด้วย ซึ่งตนเลยอะลุ่มอล่วยไม่อยากมีเรื่อง กระทั่งเห็นนายเผด็จ เดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียน ว่าเราไปวิ่งทับเส้นทางและมีการใช้กลุ่มมวลชนมากดดัน ดังนั้น ในวันนี้ตนจึงต้องออกมาชี้แจงว่าใครกันแน่ที่วิ่งทับเส้นทาง และเป็นรถป้ายดำที่ผิดกฎหมาย ซึ่งเส้นทางดังกล่าวคาบเกี่ยวระหว่างท้องที่ สน.มีนบุรี และ สน.บางชัน จึงแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน และเคยแจ้งความดำเนินคดีกับ สว.จร.สน.บางชัน ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เมื่อวันที่ 6 พ.ค.54 ที่ผ่านมา เนื่องจากขณะที่รถป้ายดำไปจอดที่หน้าห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ ตำรวจกลับไม่จับกุม ทำเป็นมองไม่เห็น แต่พอรถสองแถวป้ายเหลืองที่ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งไปวิ่งกลับถูกจับ ซึ่งตนมีภาพถ่ายวิดีโอไว้เป็นหลักฐานทั้งหมดด้วย
“วันนี้ผมอยากจะถามว่าทำไมไม่จับรถป้ายดำ แต่มาจับรถที่ถูกต้อง จับวันละเกือบ 10 คัน หรือเป็นเพราะว่าผมไม่จ่ายส่วยหรือเปล่า ทำไมทุกวันนี้รถป้ายดำถึงยังวิ่งอยู่ได้” นายอัครพัชร์ กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ศราวุธ จิตต์ระเบียบ ผกก.สน.บางชัน กล่าวว่า หลังจากที่ตัวแทนของ หจก.ปู่อินทร์ ทรานสปอร์ต เข้ามาร้องเรียน ตนได้สั่งการให้ลูกน้องโดยเฉพาะฝ่ายจราจร ให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้อง ใครผิดก็ว่ากันไปตามผิด อย่าเลือกปฏิบัติ และหลังจากทำการสอบปากคำตัวแทน หจก.ปู่อินทร์ ทรานสปอร์ต เรียบร้อยแล้ว จะทำการออกหมายเรียก นายเผด็จ มารับทราบข้อกล่าวหาและให้ปากคำ ถ้าหากออกหมายเรียกไป 2 ครั้ง แล้วยังไม่มาจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับตามขั้นตอนต่อไป
ด้าน พ.ต.ท.ปราการ ยูวะนิยม สว.จร.สน.บางชัน กล่าวว่า ตนขอยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้เลือกปฏิบัติ แต่กลุ่มผู้ร้องได้วิ่งเลยเข้ามาในเส้นทางที่สัมปทานไว้ คือ บริเวณหน้าห้างแฟชั่น ไอส์แลนด์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของ สน.บางชัน โดยความเป็นจริงแล้วเขตสัมปทานจะสิ้นสุดแค่หน้าโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี ซึ่งเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องจับกุม เนื่องจากมีการร้องเรียนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรมาโดยตลอด ว่า การจราจรหน้าห้าง มีปัญหา ตนไม่รู้สึกวิตกกังวล หากมีการร้องเรียน เพราะตนและเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรทุกนายปฏิบัติตามหน้าที่ และเชื่อว่า เรื่องดังกล่าวน่าจะเป็นการขัดแย้งการวิ่งทับเส้นทางของกลุ่มผู้ประกอบการเอง แต่โยงตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
สารวัตรรับส่วย! สองแถวสุดทน ร้องนครบาลเอาผิด สว.จร.มีนบุรี
