รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็น ปปง.หลอกอดีตข้าราชการบำนาญโอนเงินเกือบ 30 ล้านบาท สารภาพว่าจ้างครั้งละหมื่น เพื่อให้คนเปิดบัญชีรับโอนเงินฉ้อโกงครั้งนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่พบบัตรเอทีเอ็ม และสมุดบัญชีธนาคารตรงกับรายชื่อ 85 คนที่กำลังจะออกหมายจับผู้รับจ้างเปิดบัญชีรองรับขบวนการคอลเซ็นเตอร์
วันนี้ (20 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่กองปราบปราม พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก. พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. และพ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.1 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ได้ร่วมกันจับกุม นายวิชัย กองมงคล อายุ 46 ปี, นางอุสาห์ บุญเรือง อายุ 57 ปี, นายเบเบ เชียงหลี่ อายุ 29 ปี, นายธีระเกียรติ แซ่จู อายุ 24 ปี ทั้ง 4 รายเป็นชาว จ.เชียงใหม่ และนายดิลกพัฒน์ รายเรียงวนาขจี อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98/21 หมู่ 9 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กทม. ตามหมายศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 32.1-5 วันที่ 18 ม.ค. 2555 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่นหรือประชาชน พร้อมด้วยของกลางสมุดบัญชีธนาคาร 32 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 126 ใบ โทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา มีอดีตข้าราชการบำนาญหญิงรายหนึ่งซึ่งเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งอายุ 68 ปี เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน กองปราบปราม ว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างชื่อของ พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินว่ายุ่งเกี่ยวกับขบวนการค้ายาเสพติด ก่อนหลอกให้โอนเงินเข้าบัญชี จนต้องเสียเงินไปเกือบ 30 ล้านบาท
ต่อมาเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ป. สอบสวนนายดิลกพัฒน์ให้การรับสารภาพว่า ได้รับว่าจ้างจากนายไพโรจน์ (ไม่ทราบนามสกุล) ครั้งละ 1 หมื่นบาท ให้หาคนมาเปิดบัญชีธนาคารและเก็บบัตรเอทีเอ็มจากนั้นให้ตนเป็นคนโอนเงินเข้าบัญชีของนายไพโรจน์ โดยทำมาแล้ว 5 ครั้ง นอกจากนี้ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่าบัตรเอทีเอ็ม และสมุดบัญชีธนาคารตรงกับรายชื่อ 85 คนที่ตำรวจกองปราบปรามกำลังจะออกหมายจับอยู่หลายรายการจึงต้องสอบสวนต่อไป
สารภาพว่าจ้างครั้งละหมื่นเพื่อให้คนเปิดบัญชีรับโอนเงินฉ้อโกงครั้งนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่พบบัตรเอทีเอ็ม และสมุดบัญชีธนาคารตรงกับรายชื่อ 85 คนที่กำลังจะออกหมายจับผู้รับจ้างเปิดบัญชีรองรับขบวนการคอลเซ็นเตอร์
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ที่ผ่านมา ข้าราชการบำนาญวัย 68 ปี ได้เข้าพบพ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ รักษาการเลขาธิการ ปปง. เพื่อให้ปากคำ หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ปปง.โทรศัพท์หลอกให้โอนเงินผ่านตู้ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพ 75 บัญชี จำนวน 269 ครั้ง มูลค่าความเสียหาย 26,750,185 บาท โดยระบุว่าเหตุเกิดระหว่างวันที่ 21 ธ.ค.54-4 ม.ค.55 ซึ่งข้าราชการบำนาญคนดังกล่าวถูกแก๊งคอลฯหลอกว่า มีชื่ออยู่ในบัญชีเครือข่ายฟอกเงินของแก๊งยาเสพติดต้องโอนเงินนำไปตรวจสอบกับธนาคารแห่งประเทศไทย จึงทำให้หลงเชื่อและสูญเสียเงินจำนวนมาก
วันนี้ (20 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่กองปราบปราม พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก. พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. และพ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.1 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ได้ร่วมกันจับกุม นายวิชัย กองมงคล อายุ 46 ปี, นางอุสาห์ บุญเรือง อายุ 57 ปี, นายเบเบ เชียงหลี่ อายุ 29 ปี, นายธีระเกียรติ แซ่จู อายุ 24 ปี ทั้ง 4 รายเป็นชาว จ.เชียงใหม่ และนายดิลกพัฒน์ รายเรียงวนาขจี อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98/21 หมู่ 9 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กทม. ตามหมายศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 32.1-5 วันที่ 18 ม.ค. 2555 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่นหรือประชาชน พร้อมด้วยของกลางสมุดบัญชีธนาคาร 32 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 126 ใบ โทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา มีอดีตข้าราชการบำนาญหญิงรายหนึ่งซึ่งเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งอายุ 68 ปี เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน กองปราบปราม ว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างชื่อของ พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินว่ายุ่งเกี่ยวกับขบวนการค้ายาเสพติด ก่อนหลอกให้โอนเงินเข้าบัญชี จนต้องเสียเงินไปเกือบ 30 ล้านบาท
ต่อมาเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ป. สอบสวนนายดิลกพัฒน์ให้การรับสารภาพว่า ได้รับว่าจ้างจากนายไพโรจน์ (ไม่ทราบนามสกุล) ครั้งละ 1 หมื่นบาท ให้หาคนมาเปิดบัญชีธนาคารและเก็บบัตรเอทีเอ็มจากนั้นให้ตนเป็นคนโอนเงินเข้าบัญชีของนายไพโรจน์ โดยทำมาแล้ว 5 ครั้ง นอกจากนี้ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่าบัตรเอทีเอ็ม และสมุดบัญชีธนาคารตรงกับรายชื่อ 85 คนที่ตำรวจกองปราบปรามกำลังจะออกหมายจับอยู่หลายรายการจึงต้องสอบสวนต่อไป
สารภาพว่าจ้างครั้งละหมื่นเพื่อให้คนเปิดบัญชีรับโอนเงินฉ้อโกงครั้งนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่พบบัตรเอทีเอ็ม และสมุดบัญชีธนาคารตรงกับรายชื่อ 85 คนที่กำลังจะออกหมายจับผู้รับจ้างเปิดบัญชีรองรับขบวนการคอลเซ็นเตอร์
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ที่ผ่านมา ข้าราชการบำนาญวัย 68 ปี ได้เข้าพบพ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ รักษาการเลขาธิการ ปปง. เพื่อให้ปากคำ หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ปปง.โทรศัพท์หลอกให้โอนเงินผ่านตู้ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพ 75 บัญชี จำนวน 269 ครั้ง มูลค่าความเสียหาย 26,750,185 บาท โดยระบุว่าเหตุเกิดระหว่างวันที่ 21 ธ.ค.54-4 ม.ค.55 ซึ่งข้าราชการบำนาญคนดังกล่าวถูกแก๊งคอลฯหลอกว่า มีชื่ออยู่ในบัญชีเครือข่ายฟอกเงินของแก๊งยาเสพติดต้องโอนเงินนำไปตรวจสอบกับธนาคารแห่งประเทศไทย จึงทำให้หลงเชื่อและสูญเสียเงินจำนวนมาก