“เหลิม” แถลงโชว์จับยาล็อตใหญ่ 3 คดีรวด จับผู้ต้องหาได้รวม 6 ราย ยึดยาไอซ์ร่วม 90 กก.ยาบ้า 3.6 แสนเม็ด หลัง จนท.สืบสวนติดตามจากข้อมูลเก่า ก่อนเฝ้าติดตามพฤติการณ์และตามจับกุมมาได้ ด้าน “เหลิม” เตรียมถกนายกฯเปลี่ยนแนวทางแก้ไขปัญหายาเสพติดจากเดิมวาระแห่งชาติ ให้ยกระดับเป็นวาระแห่งภูมิภาค เพื่อให้ภูมิภาคได้มีส่วนร่วมแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจรัง
วันนี้ (19 ม.ค.) เมี่อเวลา 13.30 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รองผบ.ตร. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองผบ.ตร.และเลขาธิการป.ป.ส. พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภ.5 พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผบช.ปส.แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติด 3 ราย รายแรกเจ้าหน้าที่จับกุม น.ส.อุลชา หรือ ปราง ประสูตินาวิน อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 ม.3 ต.คลองข่อย อ.โพธาราม จ.ราชบุรี นายบัณฑิต หรือ เอก พัฒนอำไพวงศ์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 178 ซ.วัดจันทร์ แขวงและเขตบางคอแหลม กทม.พร้อมของกลางยาไอซ์ น้ำหนัก 20 กก.ยาบ้า 366,000 เม็ด รถเก๋งยี่ห้อเบนซ์ สีดำ 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง โดยจับกุมได้ น.ส.อุลชา ได้ที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.สาขาห้าแยกลาดพร้าว ถ.วิภาวดีรังสิต เมื่อเวลา 06.40 น.วันที่ 18 ม.ค.ต่อมาเวลา 08.00 น.วันเดียวกันสามารถจับกุมนายบัณฑิต ได้บริเวณจุดกลับรถใต้สะพานพระราม 9 ถ.รัชดาภิเษก
รายที่ 2 เจ้าหน้าที่จับกุมนายวรศักดิ์ หรือ อู๋ ศรีเจริญ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 175 ซ.ร่วมฤดี แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม พร้อมของกลางยาไอซ์ น้ำหนัก 31 กก.รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง โดยจับกุมได้ที่ลานจอดรถ หน้าสวนหลวง ร.9 ถ.ศรีนครินทร์ เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 19 ม.ค.ตรวจค้นภายในรถพบยาไอซ์น้ำหนัก 30 กก.ก่อนควบคุมตัวไปตรวจค้นบ้านพักเลขที่ 386/244 ถ.กาญจนาภิเษก แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม. พบยาไอซ์ อีก 1 กก.ซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านพัก
รายที่ 3 เจ้าหน้าที่จับกุม นายสุชาติ ปิงสุวรรณ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1116/1 ถ.ริมทางรถไฟสายปากน้ำ แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม.และ นายสมยศ ไพบูลย์พูนทรัพย์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลที่ 143 ซ.สุขุมวิท 40 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม.พร้อมของกลางยาไอซ์ น้ำหนัก 10 กก.รถกระบะเชฟโรเลตสีดำ 1 คัน โดยจับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถ ห้างโลตัส สาขารังสิต เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า หลังจากที่ตำรวจได้เพิ่มความเข้มในการปราบปรามยาเสพติด และมีการขยายผลยึดทรัพย์ ทำให้สามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งผู้ค้าและผู้เสพได้จำนวนมาก แต่พบว่ายังคงมีการลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งตนจะเสนอต่อ น.ส.ยิงลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อกำหนดการแก้ไขปัญหายาเสพติดจากเดิมที่เป็นวาระแห่งชาติ ให้ยกระดับเป็นวาระแห่งภูมิภาค เพื่อให้ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้ได้มีส่วนช่วยกันในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง
พล.ต.ท.สุเทพ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการสืบสวนติดตามจากข้อมูลเก่าที่ตำรวจมี และทราบว่า จะมีการลำเลียงยาเสพติดไปส่งกับผู้ค้าเสพติดยังภาคกลางจึงได้ประสานกับสำนักงานป.ป.ส. บช.ปส.พล.ท.วรรณทิพย์ ว่องไว แม่ทัพภาค 3 พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ โทปุญญานนท์ รรท ผบก.ภ.จ.เชียงราย และ พ.ต.อ.นับวัฒนะ เดิมชิต รรท.ผบก.สส.ภ.5 จัดชุดสืบสวนติดตามการเคลื่อนที่ของคนร้ายจนสามารถจับกุมตัวได้ ทั้งนี้ กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดในภาคเหนือที่มีการเคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้มีทั้งหมด 6 กลุ่ม ซึ่งตำรวจกำลังเฝ้าจับตาพฤติกรรมของเครือข่ายยาเสพติดเหล่านี้มาโดยตลอด สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ในครั้งนี้ 2 รายแรก มีการสั่งซื้อยาเสพติดจากผู้ค้ายาเสพติดรายเดียวกัน ขณะที่ราย 3 สั่งซื้อยาเสพติดจากผู้ค้าอีกราย ขณะเดียวกัน จากการตรวจสอบพบว่า นายวรศักดิ์ เคยถูกดำเนินคดีจำหน่ายยาเสพติด แต่ศาลยกฟ้อง
พล.ต.ท.สุเทพ กล่าวต่อไปว่า สำหรับมาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของยาเสพติด ได้มีการประสานกับกองทัพบกให้มีการรั้วลวดหนามมากั้นบริเวณแนวชายแดนที่กลุ่มขบวนการค้าเสพติดใช้ในการลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในประเทศ ได้แก่ อ.แม่สาย อ.แม่ฟ้าหลวง และอ.แม่จัน จ.เชียงราย ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ได้สั่งการให้มีการตั้งด่าน 5 จุด ในพื้นที่ จ.แพร่ จ.ลำปาง จ.แพร่ และ จ.สุโขทัย เพื่อสกัดกั้นเส้นทางลำเลียงยาเสพติด