“ประชา” เผย ผลเจรจาผู้ว่าฯ กทม.ยินยอมเปิดประตูระบายน้ำคลองมหาสวัสดิ์ 1 เมตร 3 ประตู ชี้ หากคนใต้น้ำรับหนักเกิน ค่อยหารือใหม่ ชี้ ต้องเห็นใจทั้งคนเหนือน้ำ-ใต้น้ำ ปรามเสื้อแดงยุให้ปลด “สุขุมพันธุ์” วอนต้องเห็นใจ เพราะทำงานเหนื่อยเช่นกัน
วันที่ 23 พ.ย.ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะ ผอ.ศปภ.กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ว่า ถือว่าเป็นข่าวดี เนื่องจากตนได้เจรจากับทาง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เรียบร้อยแล้ว โดยยอมให้เปิดประตูระบายน้ำที่คลองมหาสวัสดิ์ จำนวน 3 ประตู ได้แก่ คลองควาย คลองซอย และคลองขุนศรีบุรีรักษ์ เป็น 1 เมตร หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นก็จะต้องมีการพูดคุยกันอีกครั้ง โดยขณะนี้ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี ซึ่งทางผู้ว่าฯ กทม.ก็ยินยอมแล้วที่จะเปิดประตูระบายน้ำ โดยขณะนี้เราต้องพิจารณาเป็นพื้นที่เป็นจุดๆ ไป และจะทำแบบทันทีทันใดแบบเร่งด่วนคงเป็นไปไม่ได้ เพราะประชาชนที่อยู่บริเวณเหนือน้ำก็ทุกข์อีกแบบหนึ่ง คนใต้น้ำก็ทุกข์อีกแบบหนึ่ง เพราฉะนั้นเราจะต้องมาพิจารณาว่าการจะปล่อยน้ำจากพื้นที่เหนือน้ำลงไปนั้น คนใต้น้ำรับได้ในปริมาณเท่าใด ไหวหรือไม่ ดังนั้นทุกขั้นทุกตอนต้องมีการพิจารณาหารือกันตลอดเวลา เนื่องจากเห็นใจทุกฝ่าย อีกทั้งประชาชนที่อยู่เหนือน้ำก็ต้องทนกับน้ำที่ท่วมขังและเน่าเสีย กลิ่นเหม็น และยุงชุม ประชาชนใต้น้ำที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังอยู่เดิม หากมีน้ำเติมเข้ามาอีกก็ได้รับผลกระทบหนักเพิ่มขึ้นอีก เพราะฉะนั้นต้องมีการเห็นใจทั้งสองฝ่ายต้องเฉลี่ยกันและทำอย่างไรจึงจะเหมาะสมที่สุด
“วันนี้ทางผู้ว่าฯ กทม.ตัดสินใจ โดยได้ปรึกษากับผมค่อนข้างที่จะลึกในรายละเอียด เพราะคนที่อยู่เหนือน้ำกับใต้น้ำ เป็นเรื่องสำคัญ ผลสุดท้ายทางผู้ว่าฯก็เห็นด้วยในหลักการ ยอมที่จะเปิดประตูระบายน้ำเป็น 1 เมตรทันที แต่หากสถานการณ์มันหนักขึ้น คนท้ายน้ำรับหนักเกินไป เพิ่มเครื่องสูบน้ำไปแล้วแต่ก็ยังรับไม่ไหว ก็อาจมีการพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง”
เมื่อถามว่า กรณีที่มีชาวบ้านไปรื้อบิ๊กแบ็กบริเวณ คปอ.อีกครั้ง ประเมินว่า จะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชั้นในอีกหรือไม่ พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ตนก็ได้คุยกับทางผู้ว่าฯ กทม.อยู่ ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ยังไม่น่าห่วง
เมื่อถามว่า หากปล่อยให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นเรื่อยๆ จะเกิดพฤติกรรมเลียนแบบหรือไม่ พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ถามว่าเกิดไหม เกิดแน่นอน เพราะว่าน้ำท่วมขัง คนเหนือน้ำก็ลำบาก คนข้างลงล่างหากปล่อยลงไปก็ลำบาก เพราะฉะนั้นมันก็จะเกิดแบบนี้ทุกจุด ฉะนั้น ต้องค่อยๆ คุยกันไปในแต่ละจุดแต่ละพื้นที่ แต่สิ่งสำคัญที่สุด คือ การระบายน้ำลงสู่แม่น้ำท่าจีนและแม่น้ำเจ้าพระยาให้เร็วที่สุด ก่อนที่น้ำจะหนุนรอบที่ 2 ในวันที่ 25 พ.ย.นี้
เมื่อถามว่า ขณะนี้มีประชาชนยื่นร้องศาลปกครองขอให้คุ้มครองชั่วคราวแล้วนั้น พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ขอให้คุ้มคราวชั่วคราวก็คือขอให้เปิดประตูระบายน้ำ 1 เมตร ส่วนข้อหาดำเนินการวางแท่งปูนกอบกู้ถนนตลอดแนวทางหลวงที่ 340 (ถ.บางบัวทอง-สุพรรณบุรี) และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 (ถ.กาญจนาภิเษก) ช่วง อ.ไทรน้อย และ อ.บางบัวทอง และปิดประตูระบายน้ำ และเสริมกระสอบทรายตามแนวคลองมหาสวัสดิ์ที่เป็นเขตรอยต่อกับพื้นที่ จ.นนทบุรี เป็นเหตุให้การระบายน้ำท่วมล่าช้าเกินควร สร้างความเสียให้ให้ประชาชนใน จ.นนทบุรี กรณีดังกล่าวนี้ต้องพิจารณาเป็นกรณีๆ ไป เพราะมีหลายเรื่องที่ต้องเยียวยา แต่การกู้ถนนสายดังกล่าวนี้ก็ถือว่ามีความจำเป็น แต่สิ่งสำคัญคือ จะทำอย่างไรไม่ให้เกิดผลกระทบเท่านั้นเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ พล.ต.อ.ประชา กำลังให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวอยู่นั้น ได้มีกลุ่มคนเสื้อแดงตะโกนให้รัฐบาลปลดผู้ว่าฯ กทม.ไปเลย การระบายน้ำอาจจะทำได้เร็วกว่านี้ก็ได้ พล.ต.อ.ประชา กล่าวตอบว่า ขอให้ใจเย็น เพราะทางผู้ว่าฯ กทม.ก็ทำงานหนักอยู่แล้ว ฉะนั้น เราก็ต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน