กู้ ถ.340 ใกล้ความจริง! รถกระบะวิ่งปร๋อทั้งสาย ตั้งแต่แยกนพวงศ์ ลาดหลุมแก้ว ยันเข้า ถ.ตลิ่งชัน - สุพรรณบุรี แม้ยังมีน้ำขังเล็กน้อยบางจุด ส่วนกู้ลาดปลาดุก จนท.เร่งสูบน้ำใกล้เสร็จแล้ว เหลือแค่แยกบางใหญ่ ด้าน ผอ.แขวงการทางนนท์ รับรถจอดเพียบบนสะพานข้ามแยกบางใหญ่อุปสรรคทำงาน จี้ตำรวจจัดการ ยันเปิดคันดินให้น้ำผ่านตามคำเรียกร้องแล้ว
วันนี้ (18 พ.ย.) ที่ จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสำรวจการกู้ถนนทางหลวงสาย 340 และ ถ.ตลิ่งชัน - สุพรรณบุรี ขาออก พบว่า ถนนทางหลวงสาย 340 ตั้งแต่ช่วงแยกนพวงศ์ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี มาจนถึงสะพานคลองเจ๊ก เจ้าหน้าที่ได้ทำคันดินกั้นไว้เสร็จสิ้นแล้ว รถยนต์สามารถวิ่งผ่านได้ตามปกติ แม้จะมีน้ำท่วมขังและดินโคลนเล็กน้อย ขณะที่ตั้งแต่สะพานคลองเจ็ก ฝั่ง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ไปจนถึงแยกบางบัวทอง ซึ่งเป็นทางเชื่อมไปสู่ ถ.ตลิ่งชัน - สุพรรณบุรี หรือ ถ.กาญจนาภิเษก ก็ได้มีคันดินกั้นน้ำไว้รอบหมดแล้วเช่นกัน ทำให้รถยนต์ รวมถึงรถจักรยานยนต์สามารถวิ่งผ่านได้ตามปกติ แม้บางจุดจะยังมีน้ำขังบ้างแต่ก็อยู่ที่ระดับ 5 - 20 ซม.
ส่วน ถ.ตลิ่งชัน - สุพรรณบุรี ในช่วงคลองลำรี หน้าหมู่บ้านสมบัติบุรี - คลองแยกไทรน้อย นั้น ล่าสุดรถยนต์ปกติสามารถวิ่งผ่านได้แล้ว แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่เล็กน้อย ราว 5 - 25 ซม. โดยเจ้าหน้าที่แขวงการทางยังคงสูบน้ำออกอยู่เรื่อยๆ แต่ใช่เครื่องสูบน้ำเหลือเพียงแค่ 1 เครื่องเท่านั้น ด้านช่วงคลองบ้านกล้วย ปากซอยวัดลาดปลาดุก เจ้าหน้าที่ได้ระดมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 1 เครื่อง และเครื่องสูบน้ำขนาดกลางอีก 4 เครื่อง สูบน้ำออกไปทางฝั่งหมู่บ้านจันทิมา โดยระดับน้ำบนถนนได้ลดลงไปมากจากเดิมที่น้ำสูงเกือบ 1 เมตร เหลืออยู่ที่ราว 5 - 40 ซม. โดยเจ้าหน้าที่ยังคงคอยนำกระสอบทรายมาอุดรอยรั่วซึมบนถนนและตามท่อระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ช่วงแยกบางใหญ่ - ทางเชื่อม ถ.รัตนาธิเบศร์ ด้านฝั่ง ถ.กาญจนาภิเษก ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้นำท่อคอนกรีตเสริมเหล็กมาวางเป็นแนวกั้นสะพานข้ามแยกบางใหญ่ทั้งขาเข้าและขาออก พร้อมนำถุงกระสอบทรายอัดประกบไม่ให้น้ำเข้า รวมทั้งใช้ถุงทรายขนาดใหญ่หรือบิ๊กแบ๊กมาเป็นแนวกั้นอีกด้วย โดยในช่วงขาออกได้นำหินคลุกมาเทเพื่อทำทางขึ้นสู่ทางหลักของถนนแทนทางคู่ขนานที่จะถูกปิดการจราจรบริเวณดังกล่าว ซึ่งตรงจุดนี้ระดับน้ำอยู่ที่ 30 - 70 ซม. และยังไม่มีการสูบน้ำออก ส่วนทางฝั่งทางเชื่อม ถ.รัตนาธิเบศร์ ด้านขาออกได้มีการนำกระสอบทรายลงอุดรอยรั่วจากถังยางมะตอยที่วางเป็นแนวกั้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามพบว่าบนสะพานดังกล่าวได้มีรถยนต์มาจอดอยู่เป็นจำนวนมาก รวมทั้งบริเวณทางเชื่อม ถ.รัตนาธิเบศร์ และจุดกลับรถหน้าหมู่บ้านกฤษดานคร 10 ทำให้การจราจรติดขัดพอสมควร ขณะที่ ถนนทั้งสายน้ำเริ่มลดลงแล้วจนแห้งสนิทในบางจุด
ด้านนายชนินทร ชูขวัญ ผู้อำนวยการแขวงการทาง จ.นนทบุรี กรมทางหลวง เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ตนยอมรับว่ารถยนต์ที่จอดอยู่บนสะพานเป็นอุปสรรคในการทำงานพอสมควร ซึ่งถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถมาเคลียร์พื้นที่ได้ก็จะทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปได้เร็วขึ้น ขณะที่การกู้ถนนระยะทางกว่า 12 กม.ก็ไม่ได้เป็นการทำให้น้ำแห้งหมดทุกจุด แต่เป็นการกั้นให้มีระดับน้ำอยู่แต่แตกต่างจากภายนอกบ้างเพื่อให้รถสามารถสัญจรไปมาได้และไม่ให้น้ำที่สูบออกเข้าไปสู่พื้นที่ของชาวบ้านมากเกินไป โดยการกู้ในจุดปากซอยวัดลาดปลาดุกก็เริ่มที่จะเสร็จสิ้นลงแล้ว ส่วนกรณีที่มีชาวบ้านบางหนึ่งไปร้องเรียนผู้ว่าราชการ จ.นนทบุรี เพื่อขอให้รื้อคันดินกั้นน้ำบน ถ.340 นั้น ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เปิดช่องคันดินบางจุดมีระยะทางยาวกว่า 50 เมตร เพื่อให้น้ำไหลข้ามผ่านถนนไปได้แล้ว แต่้ก็ไม่ได้ทำให้กระทบต่อการสัญจรแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้สอบถามชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่อ.บางบัวทอง ที่เป็นเส้นทางผ่านของการกู้ถนนทั้งสองสายหลายคนพบว่า ส่วนใหญ่เห็นด้วยที่จะให้มีการกู้ถนนเนื่องจากจะทำการสัญจรในพื้นที่ได้ดีขึ้น ขณะที่ชาวบ้านหมู่บ้านบัวทองธานีรายหนึ่งยอมรับว่า การสูบน้ำกู้ถนนไม่ได้ทำให้ระดับน้ำในบ้านของตนเพิ่มขึ้น