เชียงราย - ผู้ว่าฯนำทีมโชวฺผลงานจับขบวนการค้ายาเสพติดชุดใหญ่ รายแรกรวบหนุ่มแม่สลองยาแก้หวัดต้องห้ามกว่า 1.5 ล้านเม็ด นัดส่งคนซื้อที่ชายแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก เผยหากหลุดไปได้ใช้ผลิตยาบ้าได้ถึง 3 ล้าน หรือไอซ์ ได้ไม่น้อยกว่า 67.5 กก. ขณะที่อีกคดี จนท.ขยายผลรวบยกแก๊ง ได้ทั้งผู้ต้องหา-ของกลางยาบ้า-ไอซ์มหาศาล
เมื่อเวลา 18.00 น.วันนี้(19 ม.ค.55)นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ,พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ โทปุญญานนท์ รักษาการ ผบก.ภ.เชียงราย ,พ.ต.อ.ภพกร คูณเจริญสุข ผกก.สภ.เชียงแสน ,พ.ต.อ.สุนทร จันทรางกูร ผกก.สภ.เชียงของ ,พ.ต.อ.ไพโรจน์ ริมประโคน ผกก.ตชด.32 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด พร้อมของกลางจำนวนมาก
โดยรายแรกเป็นคดีสารตั้งต้นผู้ต้องหาเป็นชาย 1 คนชื่อนายคิด ทวีอภิรดีบำรุง อายุ 26 ปี อยู่ 11/11 ม.13 ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย พร้อมของกลางเป็นยาแก้หวัดชนิดเม็ดที่มีสารซูดูอีเฟรดีนจำนวน รวม 1,569,000 เม็ด
การจับกุมมีขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบจะมีการขนสารตั้งต้นเข้าไปส่งให้โรงงานผลิตยาเสพติดที่ชายแดนด้าน อ.แม่สาย จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตู้ยามแม่มะ ม.1 ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน ตรวจตรารถบนถนนสายเชียงแสน-แม่สาย ต่อมาพบรถยนต์บเก๋งยี่ห้อเซฟโลเล็ต รุ่นแคปติวา สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ข-9988 กรุงเทพฯ มีนายคิด ขับมุ่งหน้าจะไปทาง อ.แม่สาย ตามลำพัง ท่าทางส่อพิรุธจึงตรวจค้นที่ด้านหลัง
เมื่อเปิดกระโปรงหลังรถพบกล่องเบียร์วางอยู่เต็ม ภายในมีถุงพลาสติดอยู่ เมื่อเปิดออกดูตัวอย่าง ปรากฏว่า พบยาแก้หวัดสีต่างๆ จำนวนมาก บรรจุอยู่ภายในถุงพลาสติด ระบุว่า ผลิตจากประเทศมาเลเซีย เมื่อสอบถามแหล่งที่มานายคิด ให้การสับสนและไม่มีใบอนุญาตใดๆ จึงได้ควบคุมตัวไว้ และนำยาไปตรวจสอบพบมีสารซูดูอีเฟรดีนผสมอยู่ สารดังกล่าวมีฤทธิ์เป็นสารตั้งต้นเพื่อการผลิตยาเสพติดประเภทต่างๆ และประเทศไทยมีกฎหมายห้ามขนหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยแต่ละถุงมีสีสันแตกต่างกันไป แต่ตรวจสอบพบมีจำนวน 7 ลักษณะและสี เช่น ขาว เหลือง ส้ม ฯลฯ รวมทั้งเป็นเม็ด กลม เหลี่ยม แตกต่างกัน
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมตัวนายคิด เอาไว้ สอบสวนเบื้องต้นให้การว่า รับจ้างจากเพื่อนชื่ออาหัว ไม่ทราบนามสกุลชาวจีนที่อยู่ในฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า เป็นเงิน 15,000 บาท ให้ขนยาดังกล่าวจากสามเหลี่ยมทองคำ บ้านสบรวก ม.1 ต.เวียง อ.เชียงแสน ไปส่งที่ชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.แม่สาย โดยไปพบกันที่ อ.แม่สาย จากนั้นนัดหมายให้นายคิด นำรถไปไว้ที่สามเหลี่ยมทองคำ ก่อนที่นายอาหัว จะขับรถเปล่าไปนำยาแก้หวัดใส่ในรถ แล้วให้นายคิด ขับจากสามเหลี่ยมทองคำเพื่อไปส่งให้ลูกค้าที่ อ.แม่สาย แต่ยังไม่ทันได้รับเงินค่าจ้าง ก็ถูกตำรวจตู้ยามแม่เมาะ จับกุมได้เสียก่อน
สำหรับสารตั้งต้นดังกล่าวสามารถนำไปผลิตยาบ้าได้ 4.5 ล้านเม็ด ผลิตยาไอซ์ได้ 67.5 กิโลกรัม แต่หากจำหน่ายกันตามปกติจะมีราคายาแก้หวัดเม็ดละเพียง 3-4 บาท ดังนั้นของกลางจึงมีมูลค่าประมาณ 6 ล้านบาท แต่ถ้าผลิตยาบ้าจะมีมูลค่าถึง 900 ล้านกว่าบาท และยาไอซ์มูลค่ากว่า 67.5 ล้านบาท
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวนายคิด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชียงแสน ดำเนินคดีข้อหาครอบครองวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 ไว้เพื่อขาย และข้อหามียาแผนปัจจุบันไว้ในครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต
ส่วนอีกรายซึ่งล่าสุดได้มีการแถลงข่าวที่กรุงเทพฯต่อไปด้วยนั้น ได้มีการตรวจยึดยาไอซ์และยาบ้า โดยมีของกลางยาไอซ์ 61 กิโลกรัม และยาบ้า 366,000 เม็ด มีผู้ต้องหา จำนวน 3 ราย รวมทั้งหมด 5 คน รายแรกมี 2 คนคือ น.ส.อุลชา ประสูตรนาวิน อายุ 25 ปี บ้านเลขที่ 35 ม.3 ต.คลองข่อย อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ,นายบัณฑิต พัฒนอำไพวงศ์ อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 378 ซ.วัดจันทร์ใน แขวงและเขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ รายที่สองคือนายวรศักดิ์ ศรีเจริญ อายุ 34 ปี เลขที่ 175 ซ.ร่วมฤดี แขวงลุมพินี เขตลุมพินี กรุงเทพฯ และรายที่สามมี 2 คนคือนายสมยศ ไพบูลย์พูนทรัพย์ อายุ 36 ปี เลขที่ 143 ซ.สุขุมวิท 40 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ นายสุชาติ ปึงสุพรรณ อายุ 35 ปี เลขที่ 1116/1 ถ.ริมทางรถไฟสายปากน้ำ แขวงพระโขนง
การจับกุมมีขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขยายผลจากคดียาเสพติดในพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค.55 จากนั้นขยายผลตามจับกุมกลุ่มคนที่เชื่อว่าจะเกี่ยวข้องกับคดีก่อนหน้านี้ โดยคนแรกจับกุมได้ที่ปั้มน้ำมัน ปตท.สาขาห้าแยกลาดพร้าว ถ.วิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 18 ม.ค.ส่วนคนที่สองจับกุมได้บนถนนรัชดาภิเษก ใต้สะพานพระราม 9 ของวันเดียวกัน พร้อมของกลางเป็นยาไอซ์ 20 กิโลกรัม ยาบ้า 366,000 เม็ด พร้อมรถยนต์เก๋ง 1 คัน รายที่สองจับกุมได้ที่ลานจอดรถหน้าสวนหลวง ร.9 ถ.ศรีนครินทร์ กรุงเทพฯ พร้อมยาไอซ์ 31 กิโลกรัม รถยนต์เก๋ง 1 คัน ส่วนรายสุดท้ายจับกุมได้ที่ลานจอดรถห้างเทสโก้โลตัส สาขารังสิต กรุงเทพฯ พร้อมของกลางยาไอซ์ 10 กิโลกรัม รถยนต์กระบะ 1 คัน