xs
xsm
sm
md
lg

ตร.วอนอย่ายิงปืนขึ้นฟ้า หวั่นอันตรายฉลองปีใหม่

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

เส้นทางที่ตำรวจแนะนำให้ใช้
สตช.รณรงค์ขับขี่ปลอดภัย ควรเลี่ยงเส้นทางรถติดหนึบ กำชับทุกหน่วยบังคับใช้กฎหมายเคร่งครัดรับปีใหม่ พร้อมสกัดกั้นประชาชนเมาแล้วขับ ถ้าเจอจะถูกยึดรถไว้ เชื่อ จะช่วยลดอุบัติเหตุได้ ย้ำ ฉลองปีใหม่ห้ามยิงปืนขึ้นฟ้า หวั่นเป็นอันตราย แนะสำรวจเส้นทางก่อนออกเดินทางกลับภูมิลำเนาได้ที่สายด่วน 1157 หรือ 1193

วันนี้ (28 ธ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่ปรึกษา (สบ10) กำกับดูแลงานจราจรช่วงเทศกาลปีใหม่ พล.ต.ต.นรบุญ แน่นหนา ผบก.ทล และพล.ต.ต.อุทัยวรรณ แก้วสะอาด ผบก.จร.แถลงถึงการอำนวยจราจรให้กับประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2554

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า หลังจากหลายจังหวัดของประเทศไทยประสบอุทกภัยอย่างหนัก ส่งผลให้ถนนหนทางต่างๆ ได้รับความเสียหายจำนวนมาก ซึ่งเพื่อให้ประชาชนที่กำลังจะเดินทางกลับภูมิลำเนารู้สภาพถนนหนทางต่างๆ ว่าเป็นอย่างไร โดยตนร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้ร่วมกันตรวจสอบเส้นทางที่จะออกสู่ต่างจังหวัด ดังนี้

ทิศตะวันออก คือ ถนนมุ่งหน้าสุขุมวิท ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ไม่มีปัญหา เนื่องจากได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมไม่มากนัก คาดว่า การเดินทางจะเหมือนทุกปี แต่จะมีบางช่วงที่รถติด เนื่องจากการจราจรหนาแน่นเท่านั้น

ด้านทิศใต้ หรือ เพชรเกษม แต่เดิมมีความหนักใจ ถนนพระราม 2 และถนนพุทธมณฑล ถนนบรมราชชนนี ปัจจุบันน้ำลดแล้ว และกรมทางหลวงได้แก้ไขถนนหนทางให้อยู่ในสภาพดี

ส่วนถนนบางบัวทอง-สุพรรณบุรี หรือ ถนนสาย 340 แม้น้ำลดแล้ว แต่เจ้าหน้าที่มีความเป็นห่วงเนื่องจากกรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้สร้างคันกั้นดินและนำบิ๊กแบ็กไปวางไว้ทำให้ถนนถูกบังคับ หรือถูกบีบด้วยคันบิ๊กแบ็ก หรือคันดินเป็นระยะทางยาว ซึ่งตรงนี้เป็นอุปสรรคของการจราจรเมื่อบนไหล่ทางเสียไป เนื่องจากบิ๊กแบ็ก ประกอบกับการจราจรช่วงปีใหม่หนาแน่น หากมีรถเสีย หรือรถเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งปกติจะสามารถจอดบนไหล่ทางได้ แต่ปีนี้หากรถเสียรถจะติดมาก หากเกิดอุบัติเหตุจะไม่สามารถหาที่ให้รถจอด และรถยกก็จะเดินทางไปลำบากเช่นกัน จึงประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนทราบไว้ล่วงหน้า

สำหรับทิศเหนือ เดิมที่ลงทางด่วนที่โทลล์เวย์ ถนนหนทาง หรือคันกั้น หรือ แบริเออร์ ยังไม่สามารถนำออกไปหมด เรื่อยไปจนถึงถนนสายเอเชีย ก่อนถึง อ.สรรพยา ทางหลวงหมายเลข 32 กม.127 สะพานขาด ซึ่งตรงนี้เป็นปัญหายังสร้างไม่เสร็จอีก 3 เดือนก็คงไม่เสร็จ โดยตรงนี้การจราจรจะติดขัดแน่นอน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง พยายามหาวิธีแก้ไขให้ดีที่สุดอย่างน้อยลดการจราจรติดขัด สำหรับ อ .อินทร์บุรี -เขาทราย ตากฟ้า พิษณุโลก ซึ่งสามารถใช้เส้นทางนี้มุ่งหน้า จ.แพร่ ลำปาง และเชียงใหม่ มีสะพานขาด 2 ช่วง ซึ่งเมื่อรถวิ่งสวนกัน 2 ช่องทาง จะถูกบีบให้เหลือเลนเดียว หากรถไม่มากจะไม่มีปัญหา หากรถหนาแน่นจะทำให้รถติด

สำหรับจังหวัดนครสวรรค์ เส้นทางเลี่ยงเมืองที่พี่น้องประชาชนเคยใช้เลี่ยงไม่ผ่านตัวเมืองนครสวรรค์ สะพานขาดในเส้นทางขาขึ้น การจราจรชะลอตัว เนื่องจากเคยใช้ได้ 2 เลนเมื่อถึงจุดที่มีปัญหาจะถูกบีบให้เหลือเพียงเลนเดียวเช่นกัน

สำหรับเส้นทางหลักก่อนที่จะออกตัวเมืองนครสวรรค์ มีสะพานขาดช่วงขาล่อง แต่สามารถใช้สะพานชั่วคราวได้ ต่อมาช่วง อ.โกรกพระ จ.อุทัยธานี ไหล่ทางถูกน้ำกัดเซาะพัง หากกลางวัน กลางคืนไม่ทราบเส้นทางจะอันตราย ทาง ผบก.จว.นครสวรรค์ได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ล่าสุด เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา ยังไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งเส้นทางขึ้นภาคเหนือ โดยเฉพาะเมื่อผ่านจ.นครสวรรค์ เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นห่วงมากที่สุด เพราะไม่มีทางเลี่ยงไปได้ โดยเส้นทางสู่ภาคอีสาน ใช้การได้ดี แต่รถจะติดช่วงทางขึ้นสูงชัน บริเวณ อ.มวกเหล็ก รถจะต้องชะลอความเร็ว ซึ่งเมื่อสภาพการจราจรหนาแน่นรถจะติด ซึ่งจุดนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจะตั้งจุดอำนวยความสะดวก กับพี่น้องประชาชน

ทั้งนี้ บก.ทล.จะอัปเดตเส้นทางจราจรทาง www.highwaypolice.org. แบบวันต่อวัน

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวต่อว่า ปีนี้รัฐบาลตั้งเป้าลดการเสียชีวิตด้านการจราจรลง 5 เปอร์เซ็นต์ จากสถิติที่ผ่านมา ซึ่งอุบัติเหตุเกิดขึ้นบนถนนสายหลักเพียง 5 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 95 เปอร์เซ็นต์เกิดบนถนนสายรอง และเกิดอุบัติเหตุมีการเฉลิมฉลองกันอย่างสนุกสนาน โดยสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุพบว่ามีการดื่มสุราและขับขี่ยวดยานพาหนะ และเกิดอุบัติเหตุกับผู้ขี่รถจยย.มากที่สุด โดยปัญหานี้ ทาง ผบ.ตร.มอบนโยบายไปสู่ตำรวจ บช.ภ.ต่างๆ ให้ใช้นโยบายขอความร่วมมือจากผู้นำท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน และฝ่ายปกครองต่างๆ ร่วมกันตั้งด่านบนถนนสายรอง หรือบริเวณหมู่บ้าน เพื่อสกัดกั้นประชาชนที่เมาเหล้าและขับรถ หากพบผู้ขับขี่เมาสุรา เจ้าหน้าที่จะยึดรถไว้และให้มารับกลับเมื่อหายเมาหรือให้ญาติมารับกลับ ซึ่งเชื่อว่ามาตรการนี้จะลดอุบัติเหตุได้ ทั้งนี้ หากไม่ได้รับความร่วมมือก็จับและยึดรถไว้ เพื่อให้ท่านปลอดภัย นอกจากนี้ ตร.มอบหมายให้ จเรตำรวจ ตรวจสอบการทำงานของตำรวจพื้นที่ ตำรวจทางหลวง ที่ต้องปฎิบัติหน้าที่การจราจรได้ดำเนินการตามนโยบายที่ ตร.สั่งการลงไปหรือไม่ นอกจากนี้ รณรงค์ไม่ให้มีการยิงปืนขึ้นฟ้าด้วย

พล.ต.ต.อุทัยวรรณ กล่าวว่า การจราจรในกทม.จะคับคั่งวันที่ 29-30 ธ.ค.ซึ่งบริษัทห้างร้านต่างๆ จะปิดทำการเพื่อให้พี่น้องประชาชนเตรียมตัวเดินทางกลับ เพื่อให้ถึงภูมิลำเนาวันที่ 31 ธ.ค.และเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่กัน ทางด้านสายใต้ ใช้เส้นทางคู่ขนานลอยฟ้าออกไปได้ และถนนพระราม 2 ถนนเพชรเกษมใช้ได้ สายตะวันออกไม่มีปัญหา ที่มีปัญหา คือ เส้นสายเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ มีปริมาณรถมาก ยกระดับโทลล์เวย์ใช้ได้ปกติ

ผบก.จร.กล่าวด้วยว่า เจ้าหน้าที่ได้ตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์กับผู้ขับขี่รถสาธารณะทุกคันตามสถานีขนส่งทุกแห่งและเพิ่มความเข้มในการตรวจวัดวันที่ 28-30 ธ.ค.ซึ่งเมื่อพ้นวันที่ 30 ธ.ค.แล้ว กทม.จะโล่ง 80 เปอร์เซ็นต์ และรถหนาแน่นจุดที่จัดงานเคานต์ดาวน์ ซึ่ง กทม.มี 3 จุดใหญ่ คือ หน้าลานเซ็นทรัลเวิล์ด ศูนย์การค้าพาราไดซ์ปาร์ค ถ.ศรีนครินทร์ และ ซีคอนสแควร์

นอกจากนี้ ขอแนะนำให้สำรวจเส้นทางก่อนออกเดินทาง หรือสอบถาม บก.จร.ที่สายด่วน 1157 หรือ บก.ทล.หรือสายด่วน 1193 ได้ และสำหรับผู้ที่เดินทางยังภาคเหนือ ขอให้ระมัดระวังบางจุดจะมีหมอกจัดทำให้ทัศนะวิสัยไม่ดี หากไม่ชำนาญทางไม่ควรขับขี่รถช่วงกลางคืน

ด้าน พล.ต.ต.นรบุญ กล่าวว่า ในการทำงานของตำรวจทางหลวง 2 หน้าที่หลักๆ คือ อำนวยความสะดวกจราจรและตั้งจุดบริการ และหน้าที่ที่ 2 คือ บังคับใช้กฎหมาย โดยแบ่งความเข้มการทำงานเป็นช่วงๆ โดยตั้งแต่วันที่ 17-27 ธ.ค.ที่ผ่านมาได้รณรงค์ให้ประชาชน ให้เครารพกฎหมายและลดอุบัติเหตุ และตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค.-5 ม.ค.เน้นการอำนวยความสะดวกจราจรและตั้งจุดบริการ ซึ่งมีทั้ง 4 ภาค กำหนดระยะห่างจากทม.ซึ่งเป็นศูนย์กลางประมาณ 100-150 กม.ยกตัวอย่าง กำหนดจุดบริการทับกวาง ภาคเหนือ จุดบริการ น้ำอ้อ ที่ จ.นครสวรรค์ เชื่อมกับชัยนาท ใต้ สถานีวังมะนาว ตะวันออกกำหนด 2 จุด คือ สถานีบริการเขาบิน ทางหลวงหมายเลข 7 และ จ.ระยอง ด่านปลายทางมีที่ภูเก็ต เชียงใหม่ ร้อยเอ็ด กาญจนบุรี ตรงนี้ เป็นเรืองการบริการให้สะดวกสบาย นอกจากนี้ เพิ่มความเข้มในการประชาสัมพันธ์ โดยการเพิ่มคู่สายโดยจ้างเอาท์สอร์ช มารับโทรศัพท์โดยตรง และสามารถอัปเดตข้อมูลการจราจรได้ทุกวันบนเว็บไซต์ตำรวจทางหลวง www.highwaypolice.org.ซึ่งจะมีวิธีโหลดแอปพลิเคชัน เพื่อใช้กับโทรศัพท์สมาร์ทโฟน แอนดรอยด์ หรือ ไอโอเอส ของแอปเปิลได้ตามคำแนะนำในเว็บไซต์
กำลังโหลดความคิดเห็น