ตร.ตั้ง ศภจ.ส่วนหน้าคอยบริการ ปชช.น้ำท่วม

สถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้ ส่งผลให้สถานีตำรวจนครบาลถูกน้้ำท่วมไปแล้ว 36 สถานี คาดแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ สถานีตำรวจภูธรภาค 1, 7 ได้ตั้ง ศภจ.ส่วนหน้าไว้คอยบริการประชาชนถูกน้ำท่วม ส่วนประชาชนที่ต้องการที่จอดรถหนีน้ำท่วมติดต่อได้ที่ 081-949-0007

วันนี้ (7 พ.ย.) เวลา 11.30 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติในสถานการณ์อุทกภัย พล.ต.ต.อุทัยวรรณ แก้วสะอาด ผบก.จร. พ.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผบก.ทล.ร่วมแถลงความคืบหน้าในสถานการณ์น้ำท่วมหลังจากการประชุมศูนย์รักษาความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินและการจราจร (ศภจ.ตร.) กับทุกหน่วยงายที่เกี่ยวข้อง

พล.ต.ต.ปิยะ เปิดเผยว่า ใน กทม.ตอนนี้มีน้ำท่วมสถานีตำรวจนครบาลไปแล้ว 36 สถานี จากทั้งหมด 88 สถานี มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น ส่วน บช.ภ.1 มีน้ำท่วม จ.ปทุมธานี 7 อำเภอ จ.นนทบุรี 2 อำเภอ บช.ภ.7 จ.สมุทรสาคร 3 อำเภอ จ.สมุทรปราการ 3 อำเภอ จ.นครปฐม 4 อำเภอ ทั้งนี้ สถานีตำรวจภูธรภาค 1, 7 ได้ตั้ง ศภจ.ส่วนหน้าไว้คอยบริการประชาชน โดย บช.น.มีทั้งหมด 6 แห่ง ได้แก่ บก.น.2 อยู่บริเวณทางด่วนศรีสมานและถนนสุขาภิบาล 5 บก.น.3 บริเวณประตูระบายน้ำคลองสามวา บก.น.7 สะพานพระปิ่นเกล้าแยกอรุณอัมรินทร์ และเชิงสะพานซังฮี้ฝั่งธนบุรี น.9 กาญจนาภิเษก กม.20 ใกล้กับเดอะมอลล์บางแค ประชาชนสามารถเข้าไปให้ความช่วยเหลือได้ตลอด 24 ชั่วโมง

“ตำรวจนครบาลได้ย้ายที่ทำการ 5 แห่ง ได้แก่ น.2 ย่านดอนเมืองน้ำท่วมหมดแล้ว ได้ย้ายร่วมกับ สน.สุทธิสาร ส่วน สน.นิมิตรใหม่ ย้ายไปหน้าหมู่บ้านเคซีนิมิตรใหม่ น.7 บริเวณตลิ่งชัน ย้ายไปศูนย์ส่วนหน้าที่ศิริราช อีก 2 แห่ง คือ สน.บางพลัด ไปที่ตู้ยามบางพลัดเชิงสะพานซังฮี้ และ สน.หนองค้างพลู ไปที่ตู้ยามเพชรเกษม นอกจากนี้ ประชาชนที่จอดรถบริเวณทางด่วนต่างๆ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ผบ.ตร.และ พล.ต.อ.เอก อังศนานท์ รรท.ผบ.ตร.ได้ติดต่อบริษัท อมตะนคร จากบูรพาวิถีไปถนนบางนา-ตราด ซึ่งมีที่จอดประมาณ 6,000 คัน ตอนนี้มีไปจอด 400 กว่าคันเท่านั้น สามารถติดต่อคุณอัครเรศ 081-949-0007” พล.ต.ต.ปิยะ กล่าว

พ.ต.ต.อุทัยวรรณ กล่าวว่า เส้นทางการจราจรจากถนนรามอินทรา ปิดถึง กม.4.5 และไม่สามารถผ่านได้ แต่รถยนต์สามารถเลี่ยงซ้ายทางด่วนรามอินทราไป หากทางตะวันออกเฉียงเหนือ และตะวันออก ให้ใช้ทางด่วนบางนา-ตราด บูรพาวิถี หรือมอร์เตอร์เวย์ และบริเวณ 5 แยกลาดพร้าว เข้ามาปิดตั้งแต่แยกสุทธิสารเข้าไปถึงแยกรัชโยธิน ถนนพหลโยธินตัดถนนกำแพงเพชรรถเล็กไม่สามารถผ่านเข้ามาได้ แต่รถใหญ่ยังสามารถใช้ทางขาเข้าได้ตลอด เช่นเดียวกับถนนกำแพงเพชร 6 ซึ่งเป็นถนนคู่ขนานอีกเส้นทางหนึ่งออกไปทางด้านหลังหมอชิตรถเล็กผ่านเข้าออกลำบากมีเพียงรถใหญ่เท่านั้น ด้านถนนลาดพร้าวตั้งแต่ซอย 1-45 เลยแยกโชคชัย 4 สามารถให้กลับรถบริเวณแยกโชคชัย 4 ได้ นอกจากนี้ภาคใต้ให้ใช้เส้นทางของถนนพระราม 2 เส้นทางเดียว และ ถนนนวมินทร์ เริ่มมีระดับน้ำท่วมสูงขึ้นบริเวณที่ซอย 147 ห่างจากแยกบางกะปิ 3 กม.

พ.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เส้นทางที่กำลังประสบปัญหาน้ำท่วม หากจะใช้เส้นทางขึ้นไปยังภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ โดยเส้นทางแรก คือ ถนนพหลโยธินเริ่มตั้งแต่หน้าโรงกษาปณ์ ซึ่งเป็นทางลงโทลล์เวย์ดอนเมือง บริเวณนี้มีน้ำท่วมอยู่บริเวณช่องทางคู่ขนาน ทำให้การจราจรติดขัดมาหลายวัน เนื่องจากน้ำท่วมถนน ทางกรมทางหลวงและตำรวจทางหลวงจึงได้ถมหินขลุไปบริเวณเส้นทางขาออกไป 1 ช่องทาง เป็นระยะทาง 300 เมตร เพื่อกู้สถานการณ์ให้ใช้ช่องทางนี้ได้ ซึ่งบริเวณมธ.น้ำท่วมขังระยะทางยาว 5 กม. รถเล็กสามารถใช้ได้ เพราะน้ำท่วมสูงเพียง 30 ซม. บก.ทล.และบก.จว.ปทุมธานี จึงได้ช่วยกันเปิดช่องทางพิเศษสวนช่องทางขาเข้า 1 ช่องทาง เพื่อเบียดออกตั้งแต่ลงโทลล์เวย์ดอนเมืองจนถึงหน้า มธ.คาดการณ์ว่าประมาณ 5-6 วัน ระดับน้ำในจุดนี้จะลดลงอย่างต่อเนื่อง

ต่อมาวันเดียวกัน เมื่อเวลา 14.30 น. พล.ต.ท.บริหาร เสี่ยงอารมณ์ รรท.ผช.ผบ.ตร. ฐานะดูแลพื้นที่ บก.น. 2 เดินทางไปยังศปภ.ส่วนหน้า บริเวณแยกกำแพงเพชร เพื่อติดตามสถานการณ์ โดยพล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบก.น. 2 ให้การต้อนรับ

พล.ต.ท.บริหาร เปิดเผยว่า ศปภ.ส่วนหน้า แยกกำแพงเพชร เป็นจุดที่ 3 ในพื้นที่บก.น. 2 เป็นจุดในการเปลี่ยนเส้นทางจราจร จุดที่มีการรวมรถยกสูงทั้งจากทหารและเอกชนเข้าไปในเส้นงามวงศ์วาน ,รัชโยธิน ,เกษตรฯ ,วัดเสมียนนารี ,ไอทีสแควร์ ,ลาดพร้าวและโชคชัย4 ทั้งนี้ภารกิจหลักจะอยู่ที่ทหาร แต่ตำรวจจะเป็นผู้สนับสนุนในงานด้านต่างๆ ซึ่งยอมรับว่าอาจจะเริ่มต้นไปช้าบ้าง เพราะเครื่องมือของตำรวจไม่ได้มีการเตรียมไว้เพื่อเหตุภัยพิบัติ ซึ่งขณะนี้เทางตำรวจเริ่มตั้งหลักได้แล้ว พร้อมแสวงหาวัสดุอุปกรณ์เพื่อดูแลประชาชน ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนทั้งรถยกสูง น้ำมันเครื่อง ไฟฟ้าส่องสว่างและหน่วยแพทย์จากรพ.เปาโล ต้องขอบคุณด้วย

พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ตอนนี้พื้นที่บก.น. 2 มีการตั้งศปภ.ส่วนหน้าย่อย เพิ่มอีก 3 จุด คือ ที่มัยราภ รามอินทรา 14 ,ไอทีสแควร์ และเซ็นทรัลลาดพร้าว ซึ่งมีภารกิจเช่นเดียวกับศปภ. ส่วนหน้า