“กิตติรัตน์” ปัดรัฐบาลเร่งฟื้น 6 นิคมฯ จมน้ำ ไม่ได้เอาใจเอกชน เตรียมสั่งเครื่องจักรฟื้นฟูภาคธุรกิจ ส่วนกรณีสื่อต่างประเทศวิจารณ์ ความเสียหายรุนแรง เกิดจากความผิดพลาดในการบริหารงานของรัฐบาล ยืนยันว่า การทำงานอย่างหนักจะเป็นเครื่องพิสูจน์ รัฐบาลจะไม่โทษใครทั้งสิ้น เพราะเชื่อว่าการปฏิบัตินั้นสำคัญกว่าคำพูดชี้แจง “พาณิชย์” จัดรถโมบายธงฟ้าลงพื้นที่ประสบภัย ขณะที่ 30 รง.ในนิคมฯ บางชัน ระทึก
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สัปดาห์หน้าจะเป็นช่วงที่ทุกฝ่ายทำงานหนัก เพราะนิคมอุตสาหกรรมบางแห่งระดับน้ำเริ่มทรงตัว สามารถนำอุปกรณ์เครื่องมือเข้าสูบน้ำออก เพื่อเริ่มต้นกระบวนการฟื้นฟูนิคมได้แล้ว โดยจะเริ่มกันที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะเป็นแห่งแรก เพราะเป็นจุดที่ประสบอุทกภัยก่อนที่อื่น ขณะเดียวกัน กำลังพล และอุปกรณ์บางส่วน จะต้องถูกแบ่งไปปกป้องพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมที่ยังไม่ถูกน้ำท่วม เช่น ที่ลาดกระบัง และบางชัน โดยผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เข้าพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์น้ำ และวางแผนรับมืออุทกภัยร่วมกับภาคเอกชนในนิคมต่างๆ อย่างใกล้ชิด
ส่วน กระทรวงพลังงาน เตรียมสั่งเครื่องจักร และอุปกรณ์สำหรับใช้ฟื้นฟูภาคธุรกิจ เข้ามาช่วยในภารกิจฟื้นฟู ซึ่งการร่วมกันทำงานอย่างหนักครั้งนี้ไม่ใช่เป็นการเอาใจภาคเอกชน แต่เป็นเพราะว่าความเสียหายของภาคธุรกิจ ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ เช่นเดียวกันกับพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน ซึ่งบางจุดมีความเสียหายเกิดขึ้น แต่ทาง ศปภ.ยืนยันจะสู้กับน้ำ เพื่อปกป้องพื้นที่ทางเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ อย่างเต็มที่
นายกิตติรัตน์ กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่าย หรือสื่อต่างประเทศวิจารณ์ ว่า ความเสียหายรุนแรงนั้นมาจากความผิดพลาดในการบริหารงานของรัฐบาลนั้นว่า การทำงานอย่างหนักจะเป็นเครื่องพิสูจน์ รัฐบาลจะไม่โทษใครทั้งสิ้น เพราะเชื่อว่าการปฏิบัตินั้นสำคัญกว่าคำพูดชี้แจง
**จัดรถโมบายธงฟ้าลงพื้นที่ประสบภัย
กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ จัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น ไข่ไก่ ข้าวสาร น้ำมันพืช รวมทั้งของใช้ในชีวิตประจำวัน โดยนำรถธงฟ้าเคลื่อนที่ออกให้บริการกับประชาชนในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม และมีปัญหาในการเดินทางออกมาซื้อสินค้า ซึ่งวันนี้ได้เปิดจำหน่าย 7 จุด คือ หลังสถานีรถไฟดอนเมือง แยกประชาสงเคราะห์ ซอยช่างอากาศบำรุง เชิงสะพานพระปิ่นเกล้า ฝั่งพระนคร ถนนรามอินทรา กม.4 บริเวณธนาคารทหารไทย ชุมชนวัดสามพระยา เขตพระนคร วัดบางเตยกลาง อ.สามโคก จ.ปทุมธานี และหน้าวัดไทรใหญ่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี
**30 รง.ในนิคมฯ บางชัน ระทึก
ด้านศูนย์ประสานงานและป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรมบางชัน ประชุมร่วมกับผู้ประกอบการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามรายงานสถานการณ์ล่าสุด และการวางแผนการเตรียมรับมือกับมวลน้ำที่มาถึงอย่างรวดเร็วและมีจำนวนมาก โดยได้มีการพิจารณาการเพิ่มเครื่องสูบน้ำที่บริเวณบึงกระเทียม จำนวน 2 เครื่อง เพื่อดึงน้ำลงสู่คลองบางชัน คลองหลอแหล และคลองแสนแสบ ซึ่งจะต้องมีการขอจากทาง กทม.วันนี้ให้เร็วที่สุด เพื่อเร่งระบายน้ำ เนื่องจากขณะนี้ น้ำภายในบึงกระเทียม ที่ส่วนหนึ่งรับมาจากคลองพระยาสุเรนทร์ เริ่มปริ่มแล้ว ซึ่งหากเกิดการเอ่อล้น จะส่งผลต่อนิคมอุตสาหกรรมเฟสสาม ซึ่งมีโรงงานอยู่เกือบ 30 โรงงาน นอกจากนั้น ยังพิจารณาการขอผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการระบายน้ำ เพื่อให้ขอมูลที่ถูกต้องและชัดเจนมากยิ่งขึ้น
