เมื่อเวลา 21.10 น. นายธงทอง จันทรางศุ โฆษก ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ศปภ.) แถลงสถานการณ์อุทกภัย ระบุว่า ศปภ.ได้ประชุมหารือร่วมกับกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดหาเครื่องสูบน้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานครได้จำนวน 71 เครื่อง โดยจะสามารถสูบน้ำได้รวม 132 ลูกบาศก์เมตร ต่อ วินาที รวมถึงยังได้รับการสนับสนุนจากสาธารณรัฐประชาชนจีนมอบเครื่องสูบน้ำขนาดกลางและขนาดเล็ก จำนวน 255 เครื่อง ซึ่งจะมอบให้กรุงเทพมหานครดำเนินการติดตั้งภายใน 2 วัน เชื่อว่าจะสามารถทำให้สถานการณ์น้ำในกรุงเทพมหานครดีขึ้น
พร้อมยืนยันว่าการวางบิ๊กแบ็กสามารถช่วยชะลอมวลน้ำที่จะไหลเข้ากรุงเทพทางทิศเหนือได้ ซึ่งสถานการณ์น้ำในขณะนี้ทางฝั่งตะวันออกมีปริมาณน้ำขยายวงกว้างมากขึ้น ขณะที่ทางฝั่งตะวันตกพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังคือ บริเวณถนนพระราม 2 โดยกระทรวงคมนาคมได้เตรียมแผนเส้นทางสำรองหากน้ำล้นทะลักเข้าท่วมถนนพระราม 2 ไว้แล้ว โดยใช้ทางหลวงสาย 9 และทางหลวงสาย 340 เพื่อเดินทางลงภาคใต้ได้
ส่วนการตรวจสอบคุณภาพและราคาของถุงยังชีพ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะ ผู้อำนวยการ ศปภ.ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว คาดว่าจะมีความคืบหน้าภายใน 3 วัน หากประชาชนมีข้อมูลสามารถแจ้งมาที่ ศปภ.หมายเลขโทรศัพท์ 1111 กด 5
พร้อมยืนยันว่าการวางบิ๊กแบ็กสามารถช่วยชะลอมวลน้ำที่จะไหลเข้ากรุงเทพทางทิศเหนือได้ ซึ่งสถานการณ์น้ำในขณะนี้ทางฝั่งตะวันออกมีปริมาณน้ำขยายวงกว้างมากขึ้น ขณะที่ทางฝั่งตะวันตกพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังคือ บริเวณถนนพระราม 2 โดยกระทรวงคมนาคมได้เตรียมแผนเส้นทางสำรองหากน้ำล้นทะลักเข้าท่วมถนนพระราม 2 ไว้แล้ว โดยใช้ทางหลวงสาย 9 และทางหลวงสาย 340 เพื่อเดินทางลงภาคใต้ได้
ส่วนการตรวจสอบคุณภาพและราคาของถุงยังชีพ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะ ผู้อำนวยการ ศปภ.ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว คาดว่าจะมีความคืบหน้าภายใน 3 วัน หากประชาชนมีข้อมูลสามารถแจ้งมาที่ ศปภ.หมายเลขโทรศัพท์ 1111 กด 5
