จำคุก 8 ปี สาวใหญ่ สกุล “เอ่งฉ้วน” ตุ๋นเงิน ร.ร.สาธิตราม ฯ 8.3 แสนบาท รับสารภาพเหลือติด 4 ปี ไม่รอลงอาญา
วันนี้ ( 26 ต.ค.) ที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.3949/54 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ฟ้องนางอำภา หรือปทิตตา เอ่งฉ้วน อายุ 40 ปี ชาว จ.กระบี่ เป็นจำเลยในความผิดฐานฉ้อโกง ปลอมและใช้ตั๋วเงิน(เช็ค)ปลอม
คดีนี้โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 54 จำเลย ได้เจตนาทุจริตโดยการหลอกลวงนางลัคนา ตรีอุดม และนางอินทุรัตน์ วีรเดชะ ผู้มีอำนาจให้ลงนามสั่งจ่ายเงินในตั๋วเงิน(เช็ค)ในบัญชีกระแสรายวันของ ร.ร.สาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง จำนวน 335,000 บาท อ้างว่าเป็นค่าใช้จ่าย ดำเนินโครงการค่ายพัฒนาภาษาอังกฤษของ ร.ร.สาธิตฯ ประจำปี 2549 ซึ่งเป็นความเท็จ นอกจากนี้ในวันที่ 8 พ.ค. 54 จำเลยยังได้หลอกลวงนางลัคนาให้ลงลายมือชื่อในตั๋วเงิน(เช็ค) ธนาคารออมสิน สาขารามคำแหง จำนวน 500,000 บาทอ้างว่า เพื่อยืมทดลองจ่าย ค่าดำเนินการโครงการค่ายภาษาอังกฤษ ของ ร.ร.สาธิต ฯ ซึ่ง ล้วนเป็นเท็จอีก เพราะความจริงแล้ว จำเลยได้จัดทำต้นเรื่องในการเบิกจ่ายดังกล่าวขึ้นมาเอง เพื่อเจตนาหลอกลวง แล้วนำเช็คไปขึ้นเงินเป็นของตนเองโดยทุจริต รวมทั้งสิ้น 835,000 บาท ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หัวหมากจับกุมตัวจำเลยแจ้งข้อหาดำเนินคดี จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริงตาม ระมวลกฎหมายอาญา มาตรา 266 (4),268 วรรคแรก ประกอบมาตรา 341 เป็นความผิดหลายกรรม พิพากษา ฐานฉ้อโกง 2กระทง จำคุกกระทงละ 1 ปี รวม 2 ปี และฐานปลอมและใช้ตั๋วเงิน(เช็ค)ปลอม จำคุก 6 ปี รวมจำคุก 8 ปี คำรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารรา ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลยไว้ 4 ปี อย่างไรก็ตามเมื่อพิเคราะห์ พฤติการณ์แห่งคดี ประกอบรายงานสืบเสาะและพินิจของจำเลยเกี่ยวกับสถานภาพครอบครัว การศึกษา และอื่น ๆ แล้วไม่มีเหตุสมควรรอการลงโทษ และให้จำเลยชดใช้เงิน จำนวน 835,000 บาท แก่ร.ร.สาธิตฯผู้เสียหายด้วย
