xs
xsm
sm
md
lg

อุทธรณ์ยืน! คุก 50 ปี อดีต ตร.บึงกุ่มยักยอกเงินโรงพัก 5 แสน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ)
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำคุก 882 ปี 6 เดือน อดีตตำรวจธุรการ สน.บึงกุ่ม แต่ตามกฎหมายให้จำคุกจำเลยไว้ 50 ปี พร้อมสั่งจ่ายคืนเงินค่าปรับที่ยักยอกจากโรงพัก 504,932 บาท

วันนี้ (6 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 715 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ อ.3522/2552 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ฟ้อง ส.ต.อ.โกศล จอมพงศ์ อายุ 40 ปี อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายธุรการ สน.บึงกุ่ม เป็นจำเลยในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใดๆ เบียดบังทรัพย์เป็นของตนเองโดยทุจริต และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

คดีนี้โจทก์ฟ้องสรุปว่า ระหว่างวันที่ 10 ก.พ.46 - 30 เม.ย.47 ต่อเนื่องกัน จำเลยซึ่งมีหน้าที่ทำบัญชีรายรับรายจ่าย นำเงินค่าเปรียบเทียบปรับต่างๆ ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก, พ.ร.บ.รถยนต์ เงินรางวัล เงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตจัดให้มีการเล่นการพนัน อันเป็นรายได้ของแผ่นดินส่งเข้ารัฐ แต่จำเลยกลับปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเบียดบังเงินทรัพย์รวม 353 ครั้ง เป็นเงินจำนวน 504,932 บาท เป็นของตนเองโดยทุจริต ทำให้ สน.บึงกุ่ม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการคลัง ได้รับความเสียหาย ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91, 147 และ 157 ด้วย จำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดหลายกรรมต่างกันให้เรียงกระทงลงโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 ฐานเป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 รวม 353 กระทง จำคุกกระทงละ 5 ปี รวมจำคุก 1,765 ปี คำรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 882 ปี 6 เดือน แต่ตามกฎหมายให้จำคุกจำเลยไว้ 50 ปี และให้คืนเงิน จำนวน 504,932 บาทแก่รัฐด้วย

จำเลยอุทธรณ์ อ้างว่ารู้ เท่าไม่ถึงการณ์ ขาดทักษะ ความรู้เรื่องการเงินการคลัง เพราะไม่เคยได้รับมอบหมายให้ทำงานด้านธุรการการเงินมาก่อน จึงขอให้ศาลรอการลงโทษ

ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้ว เห็นว่า จำนวนเงินของกลางสูงถึง 5 แสนบาทเศษ ส่งผลให้แผ่นดินและหน่วยงานท้องถิ่นขาดรายได้ที่จะนำเงินไปพัฒนาประเทศและท้องถิ่น การกระทำของจำเลยมุ่งแต่ประโยชน์ส่วนตนเป็นหลักไม่คำนึงถึงส่วนรวมและผู้ร่วมปฏิบัติงาน พฤติการณ์ของจำเลยจึงเป็นเรื่องร้ายแรง ไม่มีเหตุสมควรรอการลงโทษ ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วยอุทธรณ์จำเลยฟังไม่ขึ้นพิพากษายืน
กำลังโหลดความคิดเห็น