“พร้อมพงศ์” เดินทางทวนกระแสน้ำท่วม ยื่นหนังสือร้องขอให้ “เพรียวพันธ์” ตรวจสอบวินัย 2 นายพล “พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ และ พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม” อ้างมีพฤติกรรมส่อทำผิดระเบียบราชการ
วันนี้ (20 ต.ค.) เวลา 11.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รรท.ผบ.ตร.รับเรื่องร้องเรียนจาก นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และ พ.ต.อ.บวรศักดิ์ ประภาวัฒน์ อดีต ผกก.ฝอ.4 บก.อก.กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ให้ดำเนินการทางวินัย พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.กมค.กับพวก โดยอ้างว่ามีพฤติกรรมเข้าข่ายทุจริตจัดซื้อจัดจ้างผิดระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
นายพร้อมพงศ์ เปิดเผยว่า ตนได้รับร้องเรียนจาก พ.ต.อ.บวรศักดิ์ ว่า สมัยที่ พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ เป็น ผบช.ภ.8 มีการถูกกล่าวหา 2 กรณี คือ ซ่อมแซมบ้านพักของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และซ่อมแซมห้องทำงานของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค8 โดยขัดต่อระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งการสืบสวนข้อเท็จจริงยังไม่ได้คืบหน้า โดยเป็นเวลากว่า 2 ปีเศษแล้ว ซึ่งยังไม่มีข้อสรุป และแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรง ตามมาตรา 84 มาตรา 86 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 และยังไม่มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสอบสวนและการให้ออกจากราชการไว้ก่อนฯ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีการช่วยเหลือผู้ถูกกล่าวหา
นอกจากนี้ นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า ขอให้ดำเนินการทางวินัยต่อ พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม อดีต ผบช.ภ.5 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับพวก โดยอ้างว่าได้ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวอันเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย และร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อปกปิดการกระทำความผิดอื่นของตนและเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ กรณีการหายตัวของ นายมูฮัมหมัด อัลรูไวลี นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย เมื่อปี 2533 โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ควรจะดำเนินการทางวินัย ไม่ควรยุติไว้ก่อน หากไม่มีการดำเนินการต่อ ผู้มีอำนาจหน้าที่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้ง ผบ.ตร.คณะกรรมการสอบสวนทางวินัย จเรตำรวจแห่งชาติ อนุคณะกรรมการข้าราชการตำรวจด้านกฎหมาย รวมถึงคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ อาจมีความผิดมาตรา 157
“เมื่อมีผู้มาร้องเรียนแล้วไม่มีความคืบหน้า การที่ผมเป็น ส.ส.จึงได้มายื่นหนังสือร้องเรียนต่อพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ในฐานะ ผบ.ตร.คนใหม่ รวมทั้งเป็นประธานข้าราชการตำรวจระดับรองผบ.ตร. ผู้ช่วย ผบ.ตร. และจเรตำรวจแห่งชาติ เชื่อว่า จะทำให้เรื่องนี้เกิดความเป็นธรรมและเกิดความคืบหน้าต่อไป เพื่อปราบปรามตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อีกทั้งฟื้นฟูภาพลักษณ์ของตำรวจไทยให้มีความโปร่งใส ไม่ใช่มีการหมกเม็ดเพื่อช่วยเหลือพรรคพวกเดียวกัน” นายพร้อมพงศ์กล่าว