เคยเขียนบอกไปแล้วว่า “บิ๊กน้อย” พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.คนที่ 7 และเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการหลังการโปรดเกล้าฯ เมื่อวันที่ 7 ก.ย.2553 และมีสำนักงานตั้งอยู่บนชั้น 7 ก็ต้องถือว่า เลข 7 เป็นเลขนำโชค เข้าตำรา “เลข 7 เสร็จวิเชียร” แต่มาถึงปัจจุบัน ผบ.ตร.คนที่ 7 มีอันต้องเสร็จ “เฉลิม” ไปเรียบร้อยแล้ว โดยคาดกันว่า “บิ๊กน้อย” จะขอยื่นใบลาออกในวันที่ 7 ก.ย. 2554 นี้เช่นกัน ถือเป็นการปิดฉาก ผบ.ตร.คนที่ 7 ลงในวันที่ 7 ก.ย. หลังดำรงตำแหน่งมาครบ 1 ปีบริบูรณ์
หากย้อนกลับไป กว่าที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะสามารถแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนที่ 7 ได้นั้น แสนจะกระอัก ทั้ง พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ ก็พลาดหวัง พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย ก็ไม่ได้รับการพิจารณา จนกระทั่งมาถึงคิว พล.ต.อ.วิเชียร ซึ่งก็เกือบจะถูก พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมืองแซงไปอีก แต่ในที่สุด ผบ.ตร.คนที่ 7 ก็ชื่อ “วิเชียร”
คำขวัญที่ว่า “บริการดุจญาติ พิทักษ์ราษฎร์ดุจครอบครัว” ซึ่งติดกันอยู่ที่หน้าโรงพักนั้น ก็อาจจะต้องมีการทำกันใหม่ แล้วแต่นโยบายของ ผบ.ตร.คนใหม่ ซึ่งหนีไม่พ้น “บิ๊กออฟ” พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ จะคิดคำขวัญขึ้นมาใหม่หรือไม่
ขอย้อนกลับไปดูเกียรติประวัติของ พล.ต.อ.วิเชียร เพื่อเป็นเกียรติกันหน่อย ....วันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2553 คือวันที่พลิกผันชีวิตของ “บิ๊กน้อย” พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เมื่อเขาได้รับความไว้วางใจจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ หรือ ก.ต.ช. ด้วยคะแนนเอกฉันท์ 8 ต่อ 0 ให้เขาขึ้นนั่ง ผบ.ตร.คนที่ 7 ตามที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รัฐมนตรีเสนอ หลังจากก่อนหน้านี้ เก้าอี้ ผบ.ตร.คนที่ 7 เกิดอาถรรพ์ นายกฯ อภิสิทธิ์ไม่สามารถตั้งใครคนใดคนหนึ่ง ระหว่าง “พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ” และ “พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย” ขึ้นนั่ง ผบ.ตร.แบบอำนาจเต็มได้
จะว่าไปแล้วชื่อของ พล.ต.อ.วิเชียรถูกเก็บเข้าลิ้นชักไปพักหนึ่ง เมื่อถูก “บิ๊กวิน” พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร.ขึ้นมาเบียดแย่งความสนใจไปจากนายกฯ อภิสิทธิ์ แต่ครั้นเมื่อไม่สามารถดัน พล.ต.ท.อัศวิน ติดยศ พล.ต.อ.ได้ก่อนเดือนสิงหาคม ซึ่งก็หมายความว่าโอกาสที่จะให้ พล.ต.ท.อัศวินขึ้นมาเป็นผู้นำสีกากีเท่ากับศูนย์ ชื่อของ พล.ต.อ.วิเชียรจึงกลับมาเป็นตัวเลือกของนายกฯ อภิสิทธิ์ อีกครั้ง
ย้อนกลับไป พล.ต.อ.วิเชียร เคยได้รับความไว้วางใจอย่างสูงจากนายกฯ อภิสิทธิ์ ให้ดำรงตำแหน่ง รรท.ผบ.ตร. ระหว่างวันที่ 4 ส.ค. - 14 ส.ค.2552 ในช่วงที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.(ในสมัยนั้น) ไปราชการต่างประเทศ และครั้งที่ 2 ระหว่างที่ พล.ต.อ.พัชรวาท ไปตรวจราชการพื้นที่ภาคใต้ระหว่าง วันที่ 13-18 ส.ค.2552 ซึ่ง พล.ต.อ.วิเชียรก็สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี
พล.ต.อ.วิเชียรยังได้รับแรงสนับสนุนจาก พล.ต.อ.ปทีป ซึ่งทำงานเข้าขากันมาโดยตลอด โดยได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งรองผบ.ตร.(บร 1) รับผิดชอบงานสำคัญๆ หลายเรื่อง เรียกได้ว่าหากมีภารกิจสำคัญๆ พล.ต.อ.วิเชียร มักจะเป็นคนแรกที่ พล.ต.อ.ปทีปจะนึกถึง
ด้านหัวจิตหัวใจ พล.ต.อ.วิเชียร ได้ชื่อว่าเป็นตำรวจที่มีระเบียบวินัยสูง ถือเป็นตำรวจน้ำดี ,มีความซื่อสัตย์สุจริต ไม่มีประวัติด่างพร้อย และด้วยบุคลิกที่เป็นคนที่ประนีประนอมสูง รวมถึงให้เกียรติผู้อื่นจึงเป็นที่รักของเพื่อนร่วมรุ่น และผู้ใต้บังคับบัญชา
ด้านหน้าที่การงาน พล.ต.อ.วิเชียร เติบโตมาในสายนายตำรวจราชสำนัก โดยได้รับการติดยศ พล.ต.อ. ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 ในตำแหน่งหัวหน้านายตำรวจราชสำนักประจำ (หน.นรป.) ซึ่งถือว่าครองยศ พล.ต.อ. ก่อนรอง ผบ.ตร. และผู้ดำรงตำแหน่งเทียบเท่าคนอื่นๆ ในขณะนี้
ต่อมา พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ถูกโยกมาดำรงตำแหน่งประจำ ตร. ทำหน้าที่รอง ผบ.ตร.ฝ่ายความมั่นคง และรับผิดชอบงานด้านรักษาความสงบเรียบร้อยในการเลือกตั้ง (ศรส.ลต.ตร.) ตลอดจนงานดูแลความสงบในการชุมนุมทางการเมือง ซึ่ง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี สามารถโชว์ผลงานคุมเกมวันลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2550 ได้เด็ดขาดจนได้รับการยกย่อง
กระทั่งเมื่อต้นปี พ.ศ. 2552 พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ได้ขยับเข้าสู่ตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ10) ดูแลการเลือกตั้ง และการรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยาน ทั้งนี้ แม้จะดูงานด้านความมั่นคงและมีหลายครั้งที่ต้องควบคุมการชุมนุมทางการเมือง แต่ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ยังไม่มีประวัติเรื่องการวางตัวไม่เป็นกลาง หรือเข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เรียกได้ว่าขึ้นชื่อในเรื่องความเป็นกลางคนหนึ่ง
พล.ต.อ.วิเชียร เกิดเมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2496 เป็นชาว อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น จบการศึกษาโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 28 พ่วงด้วยปริญญาโท จาก 3 สถาบัน คือ ปริญญาโท คณะพัฒนบริหารศาสตร์ จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า), ปริญญาโทคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และปริญญาโท ด้านกฎหมายเศรษฐกิจ คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นอกจากนี้ยังผ่านหลักสูตร F.B.I. รุ่น 159, หลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 388 และหลักสูตรบริหารงานตำรวจ จากประเทศอังกฤษอีกด้วย
ประวัติการรับราชการตำรวจ
พ.ศ. 2518 รอง สว.ผ.5 กก.สส.น.พระนครเหนือ
พ.ศ. 2519 รอง สว.ผ.ศึกษาอบรม กก.นผ.บก.อก.บช.น.
พ.ศ. 2521 รอง สว.ผ.1 กก.สส.น.พระนครใต้
พ.ศ. 2522 ผู้ช่วยนายเวร อธิบดีกรมตำรวจ
พ.ศ. 2524 นายตำรวจราชสำนักประจำ (เทียบเท่า รอง ผกก.)
พ.ศ. 2526 นายตำรวจราชสำนักประจำ (เทียบเท่า ผกก.)
พ.ศ. 2530 นายตำรวจราชสำนักประจำ (เทียบเท่า รอง ผบก.)
พ.ศ. 2533 นายตำรวจราชสำนักประจำ (เทียบเท่า ผบก.)
พ.ศ. 2537 นายตำรวจราชสำนักประจำ (เทียบเท่า ผู้ช่วย ผบช.)
พ.ศ. 2538 นายตำรวจราชสำนักประจำ (เทียบเท่า รอง ผบช.)
พ.ศ. 2539 รองหัวหน้านายตำรวจราชสำนักประจำ (เทียบเท่า ผบช.)
พ.ศ. 2540 รองหัวหน้านายตำรวจราชสำนักประจำ (เทียบเท่าผู้ช่วย ผบ.ตร.)
พ.ศ. 2545 หัวหน้านายตำรวจราชสำนักประจำ (เทียบเท่า รอง ผบ.ตร.)
พ.ศ. 2549 ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปฏิบัติหน้าที่ รองผู้บัญชาตำรวจแห่งชาติ ( ฝ่ายความมั่นคง)
พ.ศ.2552 ที่ปรึกษา(สบ 10) (ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ)
งานพิเศษอื่น ๆ
-ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายตำรวจราชสำนักพิเศษ ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลง 7 ตุลาคม 2537 (ราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ 111 หน้าที่ 45 ง )
-อนุกรรมการพิจารณาตอบแทนคุณงามความดีผู้ทำคุณงามความดีในการป้องกันหรือปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (2536 - 2538)
-ประธานมูลนิธิมงคลสารวิสุทธิ์อนุสรณ์ อำเภอ บ้านไผ่ จังหวัด ขอนแก่น (2535 - ปัจจุบัน)
-อนุกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน 2 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (2538 - 2542)
-นายกสมาคมฟันดาบ (สากล) สมัครเล่นแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ( 2540 - 2542)
-ประธานจัดการแข่งขันกีฬาฟันดาบสากล เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13
-ผู้แทนกรมราชองครักษ์ชี้แจงคณะกรรมการกฤษฎีกาเรื่อง แก้ไข ป.วิ อาญา มาตรา 81/1 เรื่อง การจับการค้นในเขตพระราชฐาน (2544)
-เป็นประธานคณะกรรมการปรับปรุงระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการถวายความปลอดภัยสำหรับองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พระบรมวงศานุวงศ์ ผู้แทนพระองค์ และพระราชอาคันตุกะ พ.ศ.2548 ลักษณะที่ 25 บทที่ 22 ซึ่งใช้มาจนถึงปัจจุบัน
-กรรมการมูลนิธิบุณยะจินดาเพื่อข้าราชการตำรวจและครอบครัว (2547 - ปัจจุบัน)
-ประธานอนุกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติด้านการถวายความปลอดภัย องค์พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ ตามคำสั่งคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ ที่ 3/2548 ลง 24 ส.ค. 48 ( 2548 - 2549 )
-กรรมการองค์การสวนสัตว์ ตามมติคณะรัฐมนตรี (18 ต.ค. 2547 - 18 ต.ค. 2549)
- กรรมการอำนวยการเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกร ปี 2550
-ประธานอนุกรรมการด้านการรักษาความสงบเรียบร้อย ศูนย์อำนวยการออกเสียงประชามติ ร่างรัฐธรรมนูญ 2550
- ที่ปรึกษาประจำกรรมการการเลือกตั้ง (นายประพันธ์ นัยโกวิท ) ( 13 มิ.ย.2550 - ปัจจุบัน)
- ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ( 16 ก.ค.2550 - ปัจจุบัน )
-ประธานคณะอนุกรรมการด้านการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร 2550
-ได้รับรางวัลเป็นพ่อตัวอย่างแห่งชาติ ประจำปี 2550 จาก ฯพณฯองคมนตรีผู้แทนพระองค์ฯ
-อุปนายกสมาคมครู-ผู้ปกครอง โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พ.ศ.2550 - ปัจจุบัน
-คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พ.ศ.2551- ปัจจุบัน
-อุปนายกสมาคมนักเรียนเก่าเตรียมอุดมศึกษาในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำปี 2551 -2552
-ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา
-ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ประจำคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน
-ผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจการรักษาความปลอดภัยและการจราจรการจัดการประชุมสุดยอดอาเซียนและการประชุมที่เกี่ยวข้องในช่วงที่ไทยดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน
ขอให้คุณพระคุ้มครองพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.คนที่ 7 ซึ่งยังเหลืออายุราชการอีก 2 ปี และขอให้ผบ.ตร.คนที่ 8 โชคดี !
หากย้อนกลับไป กว่าที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะสามารถแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนที่ 7 ได้นั้น แสนจะกระอัก ทั้ง พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ ก็พลาดหวัง พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย ก็ไม่ได้รับการพิจารณา จนกระทั่งมาถึงคิว พล.ต.อ.วิเชียร ซึ่งก็เกือบจะถูก พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมืองแซงไปอีก แต่ในที่สุด ผบ.ตร.คนที่ 7 ก็ชื่อ “วิเชียร”
คำขวัญที่ว่า “บริการดุจญาติ พิทักษ์ราษฎร์ดุจครอบครัว” ซึ่งติดกันอยู่ที่หน้าโรงพักนั้น ก็อาจจะต้องมีการทำกันใหม่ แล้วแต่นโยบายของ ผบ.ตร.คนใหม่ ซึ่งหนีไม่พ้น “บิ๊กออฟ” พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ จะคิดคำขวัญขึ้นมาใหม่หรือไม่
ขอย้อนกลับไปดูเกียรติประวัติของ พล.ต.อ.วิเชียร เพื่อเป็นเกียรติกันหน่อย ....วันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2553 คือวันที่พลิกผันชีวิตของ “บิ๊กน้อย” พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เมื่อเขาได้รับความไว้วางใจจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ หรือ ก.ต.ช. ด้วยคะแนนเอกฉันท์ 8 ต่อ 0 ให้เขาขึ้นนั่ง ผบ.ตร.คนที่ 7 ตามที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รัฐมนตรีเสนอ หลังจากก่อนหน้านี้ เก้าอี้ ผบ.ตร.คนที่ 7 เกิดอาถรรพ์ นายกฯ อภิสิทธิ์ไม่สามารถตั้งใครคนใดคนหนึ่ง ระหว่าง “พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ” และ “พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย” ขึ้นนั่ง ผบ.ตร.แบบอำนาจเต็มได้
จะว่าไปแล้วชื่อของ พล.ต.อ.วิเชียรถูกเก็บเข้าลิ้นชักไปพักหนึ่ง เมื่อถูก “บิ๊กวิน” พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร.ขึ้นมาเบียดแย่งความสนใจไปจากนายกฯ อภิสิทธิ์ แต่ครั้นเมื่อไม่สามารถดัน พล.ต.ท.อัศวิน ติดยศ พล.ต.อ.ได้ก่อนเดือนสิงหาคม ซึ่งก็หมายความว่าโอกาสที่จะให้ พล.ต.ท.อัศวินขึ้นมาเป็นผู้นำสีกากีเท่ากับศูนย์ ชื่อของ พล.ต.อ.วิเชียรจึงกลับมาเป็นตัวเลือกของนายกฯ อภิสิทธิ์ อีกครั้ง
ย้อนกลับไป พล.ต.อ.วิเชียร เคยได้รับความไว้วางใจอย่างสูงจากนายกฯ อภิสิทธิ์ ให้ดำรงตำแหน่ง รรท.ผบ.ตร. ระหว่างวันที่ 4 ส.ค. - 14 ส.ค.2552 ในช่วงที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.(ในสมัยนั้น) ไปราชการต่างประเทศ และครั้งที่ 2 ระหว่างที่ พล.ต.อ.พัชรวาท ไปตรวจราชการพื้นที่ภาคใต้ระหว่าง วันที่ 13-18 ส.ค.2552 ซึ่ง พล.ต.อ.วิเชียรก็สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี
พล.ต.อ.วิเชียรยังได้รับแรงสนับสนุนจาก พล.ต.อ.ปทีป ซึ่งทำงานเข้าขากันมาโดยตลอด โดยได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งรองผบ.ตร.(บร 1) รับผิดชอบงานสำคัญๆ หลายเรื่อง เรียกได้ว่าหากมีภารกิจสำคัญๆ พล.ต.อ.วิเชียร มักจะเป็นคนแรกที่ พล.ต.อ.ปทีปจะนึกถึง
ด้านหัวจิตหัวใจ พล.ต.อ.วิเชียร ได้ชื่อว่าเป็นตำรวจที่มีระเบียบวินัยสูง ถือเป็นตำรวจน้ำดี ,มีความซื่อสัตย์สุจริต ไม่มีประวัติด่างพร้อย และด้วยบุคลิกที่เป็นคนที่ประนีประนอมสูง รวมถึงให้เกียรติผู้อื่นจึงเป็นที่รักของเพื่อนร่วมรุ่น และผู้ใต้บังคับบัญชา
ด้านหน้าที่การงาน พล.ต.อ.วิเชียร เติบโตมาในสายนายตำรวจราชสำนัก โดยได้รับการติดยศ พล.ต.อ. ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 ในตำแหน่งหัวหน้านายตำรวจราชสำนักประจำ (หน.นรป.) ซึ่งถือว่าครองยศ พล.ต.อ. ก่อนรอง ผบ.ตร. และผู้ดำรงตำแหน่งเทียบเท่าคนอื่นๆ ในขณะนี้
ต่อมา พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ถูกโยกมาดำรงตำแหน่งประจำ ตร. ทำหน้าที่รอง ผบ.ตร.ฝ่ายความมั่นคง และรับผิดชอบงานด้านรักษาความสงบเรียบร้อยในการเลือกตั้ง (ศรส.ลต.ตร.) ตลอดจนงานดูแลความสงบในการชุมนุมทางการเมือง ซึ่ง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี สามารถโชว์ผลงานคุมเกมวันลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2550 ได้เด็ดขาดจนได้รับการยกย่อง
กระทั่งเมื่อต้นปี พ.ศ. 2552 พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ได้ขยับเข้าสู่ตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ10) ดูแลการเลือกตั้ง และการรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยาน ทั้งนี้ แม้จะดูงานด้านความมั่นคงและมีหลายครั้งที่ต้องควบคุมการชุมนุมทางการเมือง แต่ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ยังไม่มีประวัติเรื่องการวางตัวไม่เป็นกลาง หรือเข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เรียกได้ว่าขึ้นชื่อในเรื่องความเป็นกลางคนหนึ่ง
พล.ต.อ.วิเชียร เกิดเมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2496 เป็นชาว อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น จบการศึกษาโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 28 พ่วงด้วยปริญญาโท จาก 3 สถาบัน คือ ปริญญาโท คณะพัฒนบริหารศาสตร์ จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า), ปริญญาโทคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และปริญญาโท ด้านกฎหมายเศรษฐกิจ คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นอกจากนี้ยังผ่านหลักสูตร F.B.I. รุ่น 159, หลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 388 และหลักสูตรบริหารงานตำรวจ จากประเทศอังกฤษอีกด้วย
ประวัติการรับราชการตำรวจ
พ.ศ. 2518 รอง สว.ผ.5 กก.สส.น.พระนครเหนือ
พ.ศ. 2519 รอง สว.ผ.ศึกษาอบรม กก.นผ.บก.อก.บช.น.
พ.ศ. 2521 รอง สว.ผ.1 กก.สส.น.พระนครใต้
พ.ศ. 2522 ผู้ช่วยนายเวร อธิบดีกรมตำรวจ
พ.ศ. 2524 นายตำรวจราชสำนักประจำ (เทียบเท่า รอง ผกก.)
พ.ศ. 2526 นายตำรวจราชสำนักประจำ (เทียบเท่า ผกก.)
พ.ศ. 2530 นายตำรวจราชสำนักประจำ (เทียบเท่า รอง ผบก.)
พ.ศ. 2533 นายตำรวจราชสำนักประจำ (เทียบเท่า ผบก.)
พ.ศ. 2537 นายตำรวจราชสำนักประจำ (เทียบเท่า ผู้ช่วย ผบช.)
พ.ศ. 2538 นายตำรวจราชสำนักประจำ (เทียบเท่า รอง ผบช.)
พ.ศ. 2539 รองหัวหน้านายตำรวจราชสำนักประจำ (เทียบเท่า ผบช.)
พ.ศ. 2540 รองหัวหน้านายตำรวจราชสำนักประจำ (เทียบเท่าผู้ช่วย ผบ.ตร.)
พ.ศ. 2545 หัวหน้านายตำรวจราชสำนักประจำ (เทียบเท่า รอง ผบ.ตร.)
พ.ศ. 2549 ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปฏิบัติหน้าที่ รองผู้บัญชาตำรวจแห่งชาติ ( ฝ่ายความมั่นคง)
พ.ศ.2552 ที่ปรึกษา(สบ 10) (ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ)
งานพิเศษอื่น ๆ
-ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายตำรวจราชสำนักพิเศษ ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลง 7 ตุลาคม 2537 (ราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ 111 หน้าที่ 45 ง )
-อนุกรรมการพิจารณาตอบแทนคุณงามความดีผู้ทำคุณงามความดีในการป้องกันหรือปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (2536 - 2538)
-ประธานมูลนิธิมงคลสารวิสุทธิ์อนุสรณ์ อำเภอ บ้านไผ่ จังหวัด ขอนแก่น (2535 - ปัจจุบัน)
-อนุกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน 2 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (2538 - 2542)
-นายกสมาคมฟันดาบ (สากล) สมัครเล่นแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ( 2540 - 2542)
-ประธานจัดการแข่งขันกีฬาฟันดาบสากล เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13
-ผู้แทนกรมราชองครักษ์ชี้แจงคณะกรรมการกฤษฎีกาเรื่อง แก้ไข ป.วิ อาญา มาตรา 81/1 เรื่อง การจับการค้นในเขตพระราชฐาน (2544)
-เป็นประธานคณะกรรมการปรับปรุงระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการถวายความปลอดภัยสำหรับองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พระบรมวงศานุวงศ์ ผู้แทนพระองค์ และพระราชอาคันตุกะ พ.ศ.2548 ลักษณะที่ 25 บทที่ 22 ซึ่งใช้มาจนถึงปัจจุบัน
-กรรมการมูลนิธิบุณยะจินดาเพื่อข้าราชการตำรวจและครอบครัว (2547 - ปัจจุบัน)
-ประธานอนุกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติด้านการถวายความปลอดภัย องค์พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ ตามคำสั่งคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ ที่ 3/2548 ลง 24 ส.ค. 48 ( 2548 - 2549 )
-กรรมการองค์การสวนสัตว์ ตามมติคณะรัฐมนตรี (18 ต.ค. 2547 - 18 ต.ค. 2549)
- กรรมการอำนวยการเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกร ปี 2550
-ประธานอนุกรรมการด้านการรักษาความสงบเรียบร้อย ศูนย์อำนวยการออกเสียงประชามติ ร่างรัฐธรรมนูญ 2550
- ที่ปรึกษาประจำกรรมการการเลือกตั้ง (นายประพันธ์ นัยโกวิท ) ( 13 มิ.ย.2550 - ปัจจุบัน)
- ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ( 16 ก.ค.2550 - ปัจจุบัน )
-ประธานคณะอนุกรรมการด้านการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร 2550
-ได้รับรางวัลเป็นพ่อตัวอย่างแห่งชาติ ประจำปี 2550 จาก ฯพณฯองคมนตรีผู้แทนพระองค์ฯ
-อุปนายกสมาคมครู-ผู้ปกครอง โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พ.ศ.2550 - ปัจจุบัน
-คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พ.ศ.2551- ปัจจุบัน
-อุปนายกสมาคมนักเรียนเก่าเตรียมอุดมศึกษาในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำปี 2551 -2552
-ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา
-ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ประจำคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน
-ผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจการรักษาความปลอดภัยและการจราจรการจัดการประชุมสุดยอดอาเซียนและการประชุมที่เกี่ยวข้องในช่วงที่ไทยดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน
ขอให้คุณพระคุ้มครองพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.คนที่ 7 ซึ่งยังเหลืออายุราชการอีก 2 ปี และขอให้ผบ.ตร.คนที่ 8 โชคดี !