พลโทอรรควุฒิ โพธิแพทย์ ส่งมอบเก้าอี้นายกสมาคมปันจักสีลัตแห่งประเทศไทยให้ พลตรี พรชัย เอี่ยมสนิทอมร นายกสมาคมฯ คนใหม่ พร้อมสานโยบายเก่า วางเป้าหมาย 2 ทอง ซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่อินโดนีเซีย
เมื่อวันพุธที่ 8 พ.ค.54 พลตรี พรชัย เอี่ยมสนิทอมร นายกสมาคมปันจักสีลัตแห่งประเทศไทย เป็นประธานในการประชุมประจำเดือนของสมาคมปันจักสีลัตแห่งประเทศไทย โดยมีวาระสำคัญ คือการส่งมอบหน้าที่นายกสมาคมฯ จากพลโทอรรควุฒิ โพธิแพทย์ นายกสมาคมฯ คนเก่า มอบต่อให้ พลตรี พรชัย เอี่ยมสนิทอมร นายกสมาคมฯ คนใหม่ ซึ่งเป็นคนที่ 8 ณ ห้องประชุมกองบัญชาการมณฑลทหารบก ที่ 11 เชิงสะพานเกษะโกมล
โดย พลตรี พรชัย เอี่ยมสนิทอมร นายกสมาคมปันจักสีลัตแห่งประเทศไทยป้ายแดง กล่าวถึงการเข้ามารับตำแหน่งนายกสมาคมฯ ว่า "ถือเป็นที่ดี ซึ่งสิ่งแรกที่จะทำคือช่วยเหลือสังคม และเยาวชนของประเทศชาติ ในส่วนของนโยบายการทำงานจะส่งเสริมกีฬาปันจักสีลัตตั้งแต่ยุวชน เยาวชน และ ประชาชน โดยมีการวางแผนยุทธศาสตร์ 3 -5 ปี และ มีวัตถุประสงค์ให้กีฬาปันจักสีลัตเป็นกีฬาจริงๆ เพราะกีฬาชนิดนี้เป็นศิลปะการป้องกันตัว จะต้องมีการพัฒนาเรื่องกรรมการ ผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสิน ให้มีประสบการณ์ มีการจัดการอบรมเพื่อพัฒนาให้ถูกต้อง ให้เป็นแนวทางเดียวกัน ต้องการกระจายทุกภาค ตั้งศูนย์ เปิดตัวให้เรียนรู้มากกว่านี้"
สำหรับความหวังในซีเกมส์ ครั้งที่ 26 นายกสมาคมฯ คนใหม่ กล่าวว่า "ต้อง 2 เหรียญทองขึ้นไป ทั้งนี้อินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพด้วยจึงรู้สึกหนักใจเหมือนกัน แต่ครั้งก่อนที่ลาวเป็นเจ้าภาพ ไทยได้ 2 ทอง และตอนที่ไทยเป็นเจ้าภาพเมื่อ 4 ปีที่แล้วได้ 4 ทอง ซึ่งตอนนี้ผู้เล่นทีมชาติที่เป็นรุ่นเจเนอเรชั่นใหม่จะมีการฝึกวินัยที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าในอดีตที่ผ่านมา เพื่อให้เป็นนักกีฬาที่มีคุณภาพ ด้านโปรแกรมการแข่งขันต่างประเทศ ทางสมาคมฯ จะส่งนักกีฬาไปแข่งขันปันจักสีลัตยุวชน-เยาวชนชิงแชมป์โลก ที่สิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 16-19 มิ.ย. ส่วนชุดใหญ่จะมีการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่อินโดนีเซีย ส่วนในประเทศ จะมีการแข่งขันรอบคัดเลือกตัวแทนภาคต่างๆ 4 ภาคเพื่อเป็นตัวแทนในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ที่ขอนแก่นเป็นเจ้าภาพ"
ส่วน พลโทอรรควุฒิ โพธิแพทย์ นายกสมาคมฯ คนเก่า กล่าวฝากงานให้แก่นายกสมาคมฯ คนใหม่ว่า "อยากให้ทำงานโดยเน้นนโยบายเดิมที่ผมวางไว้ จะต้องกวาดบ้านให้สะอาด โดยสมาคมฯ ต้องจัดการการแข่งขันในประเทศไทยให้เรียบร้อย และประสานงานกับสหพันธ์ปันจันสีลัตนานาชาติ พร้อมเพิ่มผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสินนานาชาติ ส่วนนักกีฬาทีมชาติไทยต้องปรับปรุงเรื่องวินัย เช่นเดียวกับ สิงคโปร์และเวียดนาม รวมทั้งเรื่องของงบประมาณด้วย เพราะกีฬาปันจักสีลัตเป็นกีฬาที่มีงบประมาณน้อย ซึ่งหลังจากนี้แม้ผมจะไม่ได้เป็นนายกสมาคมฯ แต่ก็จะคอยช่วยเหลือประสานงานกับทางต่างประเทศไทยก่อน เพราะผมมีตำแหน่งเป็นคณะมนตรีสหพันธ์กีฬาปันจักสีลัตนานาชาติ"