การเลือกตั้งสมาคมวอลเลย์บอลเป็นไปตามคาดเหล่าบรรดาสมาชิกสโมสรและคณะกรรมการฯ ต่างชูมือกว่า 60 เสียง เลือก นายสมพร ใช้บางยาง นั่งเก้าอี้เป็นนายกสมาคมวอลเลย์บอล เป็นสมัยแรก ตั้งแต่พ.ศ.2554-2555 หลังจาก นายพงศ์โพยม วาศภูติ อดีตนายกสมาคมฯ 2 สมัยวางมือ พร้อมสืบทอดเจตนารมณ์นโยบายงานเก่า ตั้งเป้าพาทีมหญิงไปโอลิมปิคเกมส์ 2012 และพาทีมชายคว้าชัยศึกซีเกมส์ ที่อินโดนีเซีย
เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันจันทร์ที่ 28 มีนาคม 2554 นายพงศ์โพยม วาศภูติ นายกสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย เป็นประธานในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2553 ที่โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน (เรดิสัน) พระราม 9 โดยมีวาระสำคัญคือ การเลือกตั้งนายกสมาคมฯ โดยมีสมาชิกสโมสรเข้าร่วมประชุม 43 เสียง จาก 45 เสียง และ กรรมการบริหารสมาคมฯ 18 เสียง จาก 19 เสียง
สำหรับงบดุลของสมาคมฯ สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2553 นั้น มีรายได้สูงกว่ารายจ่าย 9,804,239.23 บาท ด้านปฏิทินปฎิบัติงานประจำปี 2554 ครั้งต่อไป คือ การแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาด "ขนอม เอเชียน บีช วอลเลย์บอล ทัวร์ ครั้งที่ 3" ระหว่างวันที่ 9-11 เม.ย.2554 ที่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งตอนนี้สนามบิน จ.นครศรีธรรมราช ไม่สามารถเดินทางได้เพราะน้ำท่วม ต้องรอว่าน้ำจะลดหรือไม่ ส่วนปีนี้ปกติจะจัดที่ จ.พัทลุง เป็น 3 สนาม แต่ปีนี้ไม่สามารถจัดได้เพราะติดปัญหาเรื่องน้ำท่วม ซึ่งปีหน้าต้องจัด 3 สนามเหมือนเดิม ต่อด้วยวอลเลย์บอลชายหาด "สมิหลา เอเชียน บีช วอลเลย์บอล ทัวร์ ครั้งที่ 12" ระหว่างวันที่ 14-16 เม.ย.2554 ที่หาดสมิหลา จ.สงขลา
นอกจากนี้เพื่อให้ประเทศไทยมีโอกาสเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระดับนานาชาติได้ตั้งแต่ปี 2555 คณะกรรมการฯ จึงมอบให้ เรืออากาศโทชาญฤทธิ์ วงษ์ประเสริฐ เสนอตัวเป็นเจ้าภาพการแข่งขันรายการต่างๆ อย่างไรก็ตามในส่วนของตำแหน่งรองประธานสหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเชีย และประธานสภาการจัดการแข่งขันสหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเชีย จะหมดวาระและมีการประชุมใหญ่ ในเดือนก.ย.ปีนี้ ก็ได้ถอนตัวออกจากการลงสมัครรับเลือกตั้งเช่นกัน แต่ทางสมาคมฯ ก็ได้ส่งใบสมัครเสนอตัวดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการเทคนิคฝ่ายต่างๆ ไปแล้ว ได้แก่ นายทรงศักดิ์ เจริญพงศ์ ฝ่ายผู้ตัดสิน, นายแพทย์เรืองศักดิ์ ศิริผล ฝ่ายการแพทย์ และนายกฤษฎา ปาณะเสรี ฝ่ายวอลเลย์บอลชายหาด
จากนั้น เวลา 18.00 น. ถึงวาระการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ ซึ่งที่ประชุมมีมติเลือก อ.เกรียงไกร นพสงค์ เป็นประธานชั่วคราว หลังจากที่ นายพงศ์โพยม วาศภูติ ได้ขอยุติการเป็นนายกสมาคมฯ ในสมัยนี้ เนื่องจากเป็นมาแล้ว 2 สมัย สมัยละ 2 ปี รวม 4 ปี โดยที่ประชุมได้เสนอชื่อ นายสมพร ใช้บางยาง อุปนายกสมาคมฯ ในสมัยที่แล้ว ให้เป็นนายกสมาคมฯ เพียงคนเดียว ซึ่งที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์เลือก นายสมพร เป็นนายกสมาคมฯ อย่างท่วมท้นกว่า 60 เสียง จาก 61 เสียง
หลังการเลือกตั้ง นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมวอลเลย์บอลป้ายแดง เปิดเผยว่า "ขอบคุณทุกๆ ฝ่าย ที่ไว้วางใจให้ผมทำหน้าที่นายกสมาคมฯ แต่ผมก็ยังยืนยันในหลักการว่าไม่อยากรับตำแหน่งในการทำงาน แต่ช่วงนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของวงการวอลเลย์บอล เนื่องจากทางสมาคมฯ ผูกยึดติดกับการที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในการเป็นนายกสมาคมฯ แต่การเมืองค่อนข้างมีการเปลี่ยนแปลงทำให้ทางสมาคมวอลเลย์บอลฯ ต้องเปลี่ยนธรรมเนียมปฏบัติ แต่ยังหาบุคคลที่มาเป็นนายกฯ ที่มีความผูกพันกับทางกระทรวงมหาดไทย ซึ่งผมก็มีความผูกพันกับสมาคมฯ เหมือนกับเป็นครอบครัว เมื่อหลายๆ ฝ่ายพร้อมใจกันที่จะร่วมมือกันทำงาน และให้ผมเป็นนายกฯ ผมก็ตอบรับ การทำงานของสมาคมวอลเลย์บอลฯ เป็นการทำงานด้วยความเป็นพี่เป็นน้อง เป็นครอบครัว"
"ผมจะทำงานสืบทอดต่อจากผู้ที่วางรากฐานสมาคมฯ จนก้าวมาสู่ความเป็นแนวหน้าอย่างทุกวันนี้ และสานต่อเพิ่มพูนในสิ่งที่ทำให้กีฬาวอลเลย์บอลมีความก้าวหน้า ซึ่งกีฬาวอลเลย์บอลจะก้าวหน้าได้ต้องอาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะ การสนับสนุนจาก บ.ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ที่เป็นผู้สนับสนุนหลัก รวมทั้ง การกีฬาแห่งประเทศไทย และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค รวมทั้งสปอนเซอร์รายอื่นๆ ด้วย การทำงานของผมจะคิดถึงแต่ประโยชน์ส่วนรวมของสมาคมวอลเลย์บอลฯ เป็นที่ตั้ง เพื่อนำพากีฬาวอลเลย์บอลให้ก้าวหน้า ซึ่งกีฬาวอลเลย์บอลไม่ได้ผูกยึดติดกับกระทรวงมหาดไทยและใครคนหนึ่ง ถ้ามีคนที่มีความตั้งใจและสนใจพัฒนากีฬาวอลเลย์บอล ก็ยินดีรับความหวังดี เพื่อให้มีการพัฒนากีฬาวอลเลย์บอลให้ประสบความสำเร็จ ขอให้เข้ามาเพื่อประโยชน์ของกีฬวอลเลย์บอล คนที่เข้ามาทำงานเป็นครอบครัววอลเลย์บอลจะเข้ามาทำงานด้วยความเสียสละ เป็นวัฒนธรรมของกีฬาวอลเลย์บอล ไม่ใช่ต้องการตำแหน่งและประโยชน์ส่วนตัว"
ท้ายนี้ นายกส.ลูกยาง ให้คำมั่นว่า "ผมจะพยายามกระจายกีฬาจากรากหญ้าสู่ระดับชาติ เช่นเดียวกับนโยบายเดิม อีกทั้งเพิ่มการจัดการแข่งขันในประเทศ และส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันในต่างประเทศ เพื่อเป็นการเพิ่มประสบการณ์ ในส่วนของทีมชาตินั้น แบ่งเป็น ทีมหญิงผมจะพยายามผลักดันให้นักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิคเกมส์ 2012 ขณะที่ ทีมชายต้องได้เหรียญทองในกีฬาซีเกมส์ ที่อินโดนีเซียให้ได้ รวมทั้งเดินหน้าสร้างศูนยกีฬาวอลเลย์บอลหลังจากที่วางรากฐานมานานแล้ว แต่ติดที่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก อย่างไรก็ตามผมจะพยายามดูแลสวัสดิการของอดีตนักกีฬาทีมชาติไทย ที่พิการและได้รับความเดือดร้อน"