รวบหนุ่มช่างซ่อมแอร์คู่ขาเกย์ สารภาพทนแรงกดดันที่ถูกผู้ตายข่มขู่จะนำภาพลับส่งให้แฟนสาวและแม่ดู กลัวแม่และแฟนจะรู้ว่าขายบริการให้เพศเดียวกันจึงก่อเหตุดังกล่าว เผยรู้จักกันผ่านทางแคมฟร็อกได้ 6 เดือน ได้ค่าหลับนอนครั้งละ 1.5 พันบาท ขณะที่ตำรวจคุมตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
วันนี้ (16 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ สน.พหลโยธิน พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบก.น.2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผบก.น.2 พ.ต.อ.ชาตรี กาญจนขันติ ผกก.สน.พหลโยธิน พ.ต.ท.สุรจิตร เปลี่ยนประเสริฐ สว.สส.สน.พหลโยธิน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.พหลโยธิน แถลงการจับกุม นายจักรพงศ์ หรือกัน โภคเสถียร อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่5/4 หมู่ 8 ต.พุทเลา อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1164/2554 ลงวันที่ 16 ก.ค.54 ในข้อหาฆ่าผู้อื่น พร้อมของกลางเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว กระสุนปืนขนาด .38 สเปเชียล จำนวน 4 นัด และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง
พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเช้ามืดของวันที่ 15 ก.ค. 54 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน ได้รับแจ้งเหตุพบศพนายนชาดล เกิดพุ่ม อายุ 38 ปี ภายในซอยรัชดาภิเษก 36 แยกเลียบคลองลาดพร้าว โดยผู้ตายถูกคนร้ายยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ท้ายทอยจนเสียชีวิต ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงได้สืบสวนจนทราบว่าผู้ตายมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ และมักจะซื้อบริการจากชายหนุ่มทางแคมฟร็อก ฝ่ายสืบสวนจึงติดตามคู่ขาทั้งหมดของผู้ตายมาสอบสวน กระทั่งพบว่านายจักรพงศ์เป็นหนึ่งในบุคคลที่เคยถูกผู้ตายซื้อบริการ และพบกันในคืนเกิดเหตุก่อนที่ผู้ตายจะถูกยิง ซึ่งนายจักรพงศ์ก็ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือยิงผู้ตายเอง สาเหตุมาจากความโกรธแค้นเนื่องจากผู้ตายขู่ว่าจะนำภาพลับส่งให้แฟนสาวและมารดาของนายจักรพงศ์ดู
จากการสอบสวน นายจักรพงษ์ให้การรับสารภาพว่ามีอาชีพเป็นช่างซ่อมเครื่องซักผ้าและซ่อมแอร์ และเป็นคนลงมือยิงผู้ตายโดยใช้ปืนปากกาที่ซื้อต่อมาจากเพื่อนในราคา 1,200 บาท ยิงจากด้านหลัง ซึ่งตนรู้จักกับผู้ตายทางแคมฟร็อก โซนเกย์คาเฟ่ ได้ 6 เดือนแล้ว โดยผู้ตายเข้ามาซื้อบริการให้ไปร่วมหลับนอนด้วย ให้เงินครั้งละ1,500 บาท ซึ่งตนก็มีแฟนเป็นผู้หญิงอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่อยากได้เงินมาใช้จ่ายจึงยอมคบหาและหลับนอนกับผู้ตายโดยที่แฟนสาวไม่รู้ ระหว่างที่อยู่ด้วยกันผู้ตายเคยขอถ่ายรูปเก็บไว้ ตนก็ยอมให้ถ่ายโดยไม่ได้คิดอะไร กระทั่งตนไม่ได้โทรศัพท์หาผู้ตายและหายหน้าไป ทำให้ผู้ตายไม่พอใจและขู่ว่าจะส่งภาพลับระหว่างตนกับผู้ตายไปให้แฟนสาวและแม่ดูทางโทรศัพท์ เพราะผู้ตายแอบเอาเบอร์แฟนสาวไปจากโทรศัพท์
“ผมรักแฟนสาวคนนี้มาก ไม่อยากให้เขารู้ว่าผมขายบริการกับเพศเดียวกัน แต่ผู้ตายกดดันและข่มขู่ผมมาตลอด จนผมทนไม่ไหว กลัวแฟนและแม่จะรู้ เลยไปซื้อปืนปากกามาจากเพื่อนและวางแผนอยู่ 2 สัปดาห์ จนวันเกิดเหตุผมนัดผู้ตายออกมาเจอที่ร้านอินเทอร์เน็ตย่านแฮปปี้แลนด์ จากนั้นก็นั่งแท็กซี่มาที่บ้านของผู้ตาย จังหวะที่ผู้ตายเดินนำหน้าจะเข้าบ้าน ผมจึงตัดสินใจยิง ก่อนจะวิ่งออกมาที่ถนนและโยนปืนทิ้งไปในคลองแล้วหลบหนีไปซ่อนตัวที่บ้าน ที่ผมทำเพราะทนถูกข่มขู่ไม่ไหว ถ้าเขาไม่ขู่ผมก็คงไม่ทำอย่างนี้” นายจักรพงศ์กล่าว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณจุดเกิดเหตุ โดยมีญาติของผู้ตายและประชาชนในละแวกที่เกิดเหตุมามุงดูจำนวนมาก โดยจุดแรกเป็นจุดที่ผู้ต้องหากับผู้ตายลงจากแท็กซี่เพื่อเข้าบ้านของผู้ตาย จุดที่ 2 เป็นจุดที่ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายจากทางด้านหลังขณะที่เดินเข้าบ้าน และจุดที่ 3 เป็นจุดที่ผู้ต้องหาทิ้งอาวุธปืนลงไปในคลอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานนักประดาน้ำจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งมาที่เกิดเหตุด้วยเพื่องมหาปืนของกลางที่ผู้ต้องหาให้การว่าโยนทิ้งไป
จ่อยิง “เกย์หนุ่มใหญ่” ดับหน้าบ้าน
วันนี้ (16 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ สน.พหลโยธิน พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบก.น.2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผบก.น.2 พ.ต.อ.ชาตรี กาญจนขันติ ผกก.สน.พหลโยธิน พ.ต.ท.สุรจิตร เปลี่ยนประเสริฐ สว.สส.สน.พหลโยธิน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.พหลโยธิน แถลงการจับกุม นายจักรพงศ์ หรือกัน โภคเสถียร อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่5/4 หมู่ 8 ต.พุทเลา อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1164/2554 ลงวันที่ 16 ก.ค.54 ในข้อหาฆ่าผู้อื่น พร้อมของกลางเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว กระสุนปืนขนาด .38 สเปเชียล จำนวน 4 นัด และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง
พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเช้ามืดของวันที่ 15 ก.ค. 54 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน ได้รับแจ้งเหตุพบศพนายนชาดล เกิดพุ่ม อายุ 38 ปี ภายในซอยรัชดาภิเษก 36 แยกเลียบคลองลาดพร้าว โดยผู้ตายถูกคนร้ายยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ท้ายทอยจนเสียชีวิต ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงได้สืบสวนจนทราบว่าผู้ตายมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ และมักจะซื้อบริการจากชายหนุ่มทางแคมฟร็อก ฝ่ายสืบสวนจึงติดตามคู่ขาทั้งหมดของผู้ตายมาสอบสวน กระทั่งพบว่านายจักรพงศ์เป็นหนึ่งในบุคคลที่เคยถูกผู้ตายซื้อบริการ และพบกันในคืนเกิดเหตุก่อนที่ผู้ตายจะถูกยิง ซึ่งนายจักรพงศ์ก็ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือยิงผู้ตายเอง สาเหตุมาจากความโกรธแค้นเนื่องจากผู้ตายขู่ว่าจะนำภาพลับส่งให้แฟนสาวและมารดาของนายจักรพงศ์ดู
จากการสอบสวน นายจักรพงษ์ให้การรับสารภาพว่ามีอาชีพเป็นช่างซ่อมเครื่องซักผ้าและซ่อมแอร์ และเป็นคนลงมือยิงผู้ตายโดยใช้ปืนปากกาที่ซื้อต่อมาจากเพื่อนในราคา 1,200 บาท ยิงจากด้านหลัง ซึ่งตนรู้จักกับผู้ตายทางแคมฟร็อก โซนเกย์คาเฟ่ ได้ 6 เดือนแล้ว โดยผู้ตายเข้ามาซื้อบริการให้ไปร่วมหลับนอนด้วย ให้เงินครั้งละ1,500 บาท ซึ่งตนก็มีแฟนเป็นผู้หญิงอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่อยากได้เงินมาใช้จ่ายจึงยอมคบหาและหลับนอนกับผู้ตายโดยที่แฟนสาวไม่รู้ ระหว่างที่อยู่ด้วยกันผู้ตายเคยขอถ่ายรูปเก็บไว้ ตนก็ยอมให้ถ่ายโดยไม่ได้คิดอะไร กระทั่งตนไม่ได้โทรศัพท์หาผู้ตายและหายหน้าไป ทำให้ผู้ตายไม่พอใจและขู่ว่าจะส่งภาพลับระหว่างตนกับผู้ตายไปให้แฟนสาวและแม่ดูทางโทรศัพท์ เพราะผู้ตายแอบเอาเบอร์แฟนสาวไปจากโทรศัพท์
“ผมรักแฟนสาวคนนี้มาก ไม่อยากให้เขารู้ว่าผมขายบริการกับเพศเดียวกัน แต่ผู้ตายกดดันและข่มขู่ผมมาตลอด จนผมทนไม่ไหว กลัวแฟนและแม่จะรู้ เลยไปซื้อปืนปากกามาจากเพื่อนและวางแผนอยู่ 2 สัปดาห์ จนวันเกิดเหตุผมนัดผู้ตายออกมาเจอที่ร้านอินเทอร์เน็ตย่านแฮปปี้แลนด์ จากนั้นก็นั่งแท็กซี่มาที่บ้านของผู้ตาย จังหวะที่ผู้ตายเดินนำหน้าจะเข้าบ้าน ผมจึงตัดสินใจยิง ก่อนจะวิ่งออกมาที่ถนนและโยนปืนทิ้งไปในคลองแล้วหลบหนีไปซ่อนตัวที่บ้าน ที่ผมทำเพราะทนถูกข่มขู่ไม่ไหว ถ้าเขาไม่ขู่ผมก็คงไม่ทำอย่างนี้” นายจักรพงศ์กล่าว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณจุดเกิดเหตุ โดยมีญาติของผู้ตายและประชาชนในละแวกที่เกิดเหตุมามุงดูจำนวนมาก โดยจุดแรกเป็นจุดที่ผู้ต้องหากับผู้ตายลงจากแท็กซี่เพื่อเข้าบ้านของผู้ตาย จุดที่ 2 เป็นจุดที่ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายจากทางด้านหลังขณะที่เดินเข้าบ้าน และจุดที่ 3 เป็นจุดที่ผู้ต้องหาทิ้งอาวุธปืนลงไปในคลอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานนักประดาน้ำจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งมาที่เกิดเหตุด้วยเพื่องมหาปืนของกลางที่ผู้ต้องหาให้การว่าโยนทิ้งไป
จ่อยิง “เกย์หนุ่มใหญ่” ดับหน้าบ้าน