ฝากขัง “หนุ่มคู่ขา” ฆ่า “เกย์จอมแบล็กเมล์”

ตร.พหลโยธิน ฝากขัง “หนุ่มคู่ขา” ใช้ปืนปากกาจ่อยิงหัว “เกย์หนุ่มใหญ่” ลูกชายประธานชุมชนพหลโยธิน ดับหน้าบ้านพัก พร้อมค้านประกันกลัวหนี

วันนี้ (17 ก.ค.) ที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ควบคุมตัว นายจักรพงศ์ โภคเสถียร อายุ 26 ปี ชาว จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้ต้องหาคดีฆ่าผู้อื่นมายื่นคำร้องฝากขังต่อศาลครั้งแรก โดยคำร้องฝากขังสรุปว่า

เมื่อวันที่ 15 ก.ค.54 เวลาประมาณ 02.30 น.ผู้ต้องหาซึ่งรู้จักสนิทสนมกับ นายนชาดล เกิดพุ่ม อายุ 39 ปี ลูกชายประธานชุมชนพหลโยธิน ได้ชักชวน นายนชาดล ผู้ตายเดินทางด้วยรถแท็กซี่จากถนนแฮปปี้แลนด์ ไปที่ ซอยรัชดาภิเษก 36 แยกเลียบคลองลาดพร้าว แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม.ก่อนผู้ต้องหาจะใช้อาวุธปืนปากกาไทยประดิษฐ์ จ่อยิง นายนชาดล ที่บริเวณท้ายทอย 1 นัด จนถึงแก่ความตาย ขณะกำลังจะเปิดประตูเข้าบ้านพักเลขที่ 34/10 ซอยพหลโยธิน 32 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม.แล้วหลบหนีไป ก่อนที่พนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญาที่ 1164/2554 ลงวันที่ 16 ก.ค.2554 ติดตามจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดี ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พ.ร.บ.อาวุธปืน โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพโดยตลอด

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหามาครบกำหนดแล้ว แต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานเพิ่มเติมอีก 7 ปาก รอผลการตรวจพิสูจน์ของกลาง รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหาและอื่นๆ ด้วยความจำเป็นดังกล่าวจึงขออำนาจศาลฝากขังผู้ต้องหาไว้เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 28 ก.ค.นี้ ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนยังขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง หากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี

ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้ อย่างไรก็ดีไม่ปรากฏว่า มีญาติผู้ต้องหามายื่นคำร้อง และหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราวแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงนำตัวผู้ต้องหาไปควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า มีอาชีพเป็นช่างซ่อมเครื่องซักผ้า และเครื่องปรับอากาศ โดยรู้จักกับผู้ตายผ่านทางแคมฟร็อก โซนเกย์คาเฟ่ ได้ 6 เดือนแล้ว โดยผู้ตายเข้ามาซื้อบริการให้ไปร่วมหลับนอนด้วย ในราคาครั้งละ 1,500 บาท ซึ่งตนมีแฟนสาวอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่อยากได้เงินมาใช้จ่าย จึงยอมคบหาและหลับนอนกับผู้ตายแบบชายรักชาย โดยระหว่างที่อยู่ด้วยกัน ผู้ตายเคยขอถ่ายรูปเก็บไว้ ตนก็ยอมให้ถ่าย แต่ต่อมาตนขาดการติดต่อไป ผู้ตายจึงไม่พอใจ และขู่ว่าจะส่งภาพลับระหว่างตนกับผู้ตายไปให้แฟนสาว และมารดาของตนดูหากไม่กลับไปคบหาด้วย ทำให้ตนรู้สึกถูกกดดันมากจึงตัดสินใจวางแผนฆ่าผู้ตายดังกล่าว