เอเอฟพี - นักประดาน้ำรัสเซียเมื่อวันอังคาร(12)ดึงศพเด็กกลุ่มแรกออกจากห้องนั่งเล่นของเรือท่องเที่ยวของรัสเซียซึ่งอับปางในแม่น้ำวอลกา โดยเหยื่อรายนี้นับเป็นหนึ่งในเด็กจำนวนหลายสิบคนที่คาดว่าน่าจะเสียชีวิตในโศกนาฏกรรมทางแม่น้ำครั้งเลวร้ายที่สุดของประเทศ ขณะยอดผู้เสียชีวิตรวมล่าสุดขยับเพิ่มเป็นอย่างน้อย 116 ราย
ทั่วประเทศมีการลดธงครึ่งเสาและรายการเพลงถูกถอดออกจากสถานีโทรทัศน์เพื่อแสดงความเคารพและไว้อาลัยแก่เหยื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เรือ "บัลแกเรีย" อายุ 56 ปี อัปปางสู่เบื้องล่างของแม่น้ำวอลกาเมื่อบ่ายวันอาทิตย์(10)
คณะกรรมการสืบสวนทรงอำนาจของรัสเซียกล่าวในคำแถลงว่าความละเลยไม่เอาใจใส่ของบริษัททัวร์เป็นส่วนหนึ่งที่นำไปสู่หายนะทางแม่น้ำที่คร่าชีวิตผู้โดยสารไปอย่างน้อย 116 คน พร้อมระบุว่าประธานบริษัททัวร์ AgroRechTurและหัวหน้าศูนย์ตรวจตราความปลอดภัยท้องถิ่นถูกควบคุมตัวและมีสิทธิ์โดนลงโทษสูงสุดคือจำคุก 10 ปี
การค้นหาผู้รอดชีวิตได้ปรับเปลี่ยนเป็นปฏิบัติการกู้ภัยซึ่งเหล่านักประดาน้ำใช้เสื้อชูชีพดึงศพผู้เสียชีวิตขึ้นจากส่วนลึกของแม่น้ำกว่า 20 เมตร ขณะที่นักประดาน้ำรายงานว่าความหวั่นกลัวของพวกเขามีทีท่าว่าจะเป็นจริงเมื่อพบห้องโกดังสินค้าที่ดัดแปลงเป็นห้องดนตรีและห้องนั่งเล่นสำหรับเด็กๆ
ก่อนหน้านี้เหล่าผู้รอดชีวิตเล่าว่ามีเด็กหลายสิบคนถูกนำเข้าไปหลบในห้องนี้หลังเกิดฝนตกลงมาอย่างหนักไม่กี่อึดใจก่อนหน้าที่เรือจะประสบอุบัติเหตุ "นักประดาน้ำเจอเรือแล้วและพบเด็กราว 30 ถึง 40 คนในโกดัง" สมาชิกหน่วยกู้ภัยรายหนึ่งกล่าว
ขณะที่สำนักข่าวท้องถิ่นระบุว่าในรายชื่อผู้โดยสารมีเด็กอายุ 14 ปีหรือน้อยกว่านั้นราว 30 คนบนเรือ อย่างไรก็ตามคาดหมายว่าตัวเลขที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านี้เพราะหลายคนขึ้นเรือโดยไม่ต้องซื้อตั๋วอย่างเป็นทางการ"เรากู้ศพเด็ก 5 คนออกจากห้องดนตรี" เจ้าหน้าที่กู้ภัยบอกกับสำนักข่าวอาร์ไอเอ ไม่นานหลังสามารถเข้าไปถึงห้องโกดังสินค้า
เจ้าหน้าที่หลายคนคาดหมายว่ายังไม่สามารถกู้ศพอีกจำนวนมากได้จนกว่าจะใช้เครนยักษ์ 2 ตัว ยกเรือขึ้นจากก้นแม่น้ำเสียก่อน ซึ่งปฏิบัติการนี้กำหนดไว้ในวันเสาร์(16)
ด้านทีมสืบสวนกำลังเตรียมตัวสืบสวนทางอาชญากรรมถึงข้อสงสัยว่าทำไมเรือลำนี้ถึงสามารถแล่นได้ทั้งที่ไม่มีใบอนุญาตที่ถูกต้องและข้อสันนิษฐานว่าอุบัติเหตุครั้งนี้เกี่ยวข้องกับความประมาทเลินเล่อหรือไม่
ขณะเดียวกันทางรัฐมนตรีคมนาคมของรัสเซียบอกว่าเขามีแผนเข้าสืบสวนเช่นกันต่อกรณีที่เรือลำเลียงลำหนึ่งและเรือบรรทุกน้ำมันอีกลำแล่นผ่านเรือที่ประสบอุบัติเหตุนี้ไปอย่างหน้าตาเฉยโดยไม่ได้หยุดให้ความช่วยเหลือเหล่าผู้โดยสารที่ตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอดในแม่น้ำแต่อย่างใด หลังจากผู้รอดชีวิตรายหนึ่งบอกกับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นว่า "เรือสองลำแล่นผ่านไปเลยทั้งที่เราพยายามโบกมือขอความช่วยเหลือ"
