ปตท. ปิดวาล์วท่อส่งก๊าซฯ ในทะเลได้แล้ว เมื่อคืนนี้ พร้อมเร่งตรวจสอบซ่อมแซมระบบ เพื่อให้ส่งก๊าซได้ตามปรกติโดยเร็วที่สุด
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่ ปตท. ได้ส่งนักประดาน้ำลงไปปิดวาล์ว เพื่อตัดแยกระบบท่อกิ่ง (24 นิ้ว) ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุท่อส่งก๊าซฯ รั่ว เพื่อให้การจัดส่งก๊าซธรรมชาติของท่อประธานในทะเลขนาด 34 นิ้ว (ท่อเส้นที่ 1) สามารถกลับมาดำเนินการตามปกติได้เร็วที่สุด นั้น
ทั้งนี้ นักประดาน้ำได้ปิดวาล์วดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว เมื่อเวลา 01.15 น. วันที่ 4 กรกฎาคม 2554 ซึ่งทาง ปตท. อยู่ระหว่างการตรวจสอบความเสียหายของท่อประธาน คาดว่าจะมีน้ำทะเลอยู่ในท่อทำให้ต้องใช้เวลาดำเนินการเพื่อกำจัดน้ำและความชื้นออกจากระบบอีกสักระยะหนึ่ง หลังจากนั้นจึงจะทำการทดสอบระบบ และกลับมาส่งก๊าซได้ตามปกติ
สำหรับการจัดหาเชื้อเพลิงทดแทน ปตท. ได้ดำเนินการจัดหาและจัดส่งน้ำมันเตาให้แก่โรงไฟฟ้าได้อย่างเพียงพอ แบ่งเป็นน้ำมันเตาที่ผลิตได้ภายในประเทศ และเป็นน้ำมันเตากำมะถันต่ำที่นำเข้าจากต่างประเทศ ปริมาณ 30 ล้านลิตร
นอกจากนั้น ปตท. ยังจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ในเดือนกรกฎาคมนี้เพิ่มขึ้นอีก 70,000 ตัน เพื่อให้มีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการ รวมทั้งยังได้บริหารการผลิตของโรงแยกก๊าซธรรมชาติให้สอดคล้องกับความต้องการ โดยไม่มีการหยุดเดินเครื่อง
อนึ่ง เหตุท่อส่งก๊าซธรรมชาติรั่วนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2554 ที่ผ่านมา เป็นท่อฯ ต่อเชื่อมระหว่างท่อฯประธานในทะเลขนาด 34 นิ้ว (ท่อเส้นที่ 1) กับท่อกิ่ง (24 นิ้ว) ที่ส่งก๊าซมาจากแหล่งปลาทอง ซึ่ง ปตท. สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตกระแสไฟฟ้าของประเทศ