นักธุรกิจชาวจีน เดินทางเข้าร้องกองปราบฯให้ช่วยตามจับคนร้ายมาดำเนินคดี หลังถูกแก๊งชาติเดียวกันอุ้มเรียกค่าไถ่ 3 ล้าน แถมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บทั่วตัว อีกทั้งจิตใจก็บอบช้ำ เมื่อคนร้ายได้รับเงินโอนเข้าบัญชีจากญาติเหยื่อเรียบร้อยแล้วจึงปล่อยตัว
วันนี้ (1 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่ กองปราบปราม เจ้าหน้าที่สถานทูตจีน พร้อมด้วยตำรวจกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว (บก.ทท.) ได้พาตัว นายเจี่ย เซี่ยว กัง อายุ 43 ปี นักธุรกิจชาวจีน ซึ่งถูกแก๊งคนร้ายชาวจีนอุ้มตัวไปทำร้ายร่างกายและเรียกค่าไถ่ เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป.เพื่อประสานขอให้ตำรวจ บก.ป.ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุมาดำเนินคดี
พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า กรณีของ นายเจี่ย เซี่ยว กัง เท่าที่ได้รับข้อมูลในเบื้องต้นทราบว่า ทำธุรกิจเกี่ยวกับตู้เกมโดยเดินทางเข้าประเทศไทยมาแล้ว 5 ครั้ง ในฐานะนักท่องเที่ยว ต่อมาเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมา จึงถูกแก๊งคนร้ายซึ่งเป็นชายชาวจีน 3 คน และหญิงสาวที่ทำหน้าที่เป็นนางนกต่อ โทรศัพท์นัดหมายลวงให้ออกไปพบที่ร้านแห่งหนึ่งย่านอาร์ซีเอ หลังจากนั่งรับประทานอาหารกันแล้วก็ถูกแก๊งคนร้ายอุ้มตัวขึ้นรถขับออกจากร้านดังกล่าวมุ่งหน้าไปยังบ้านพักแห่งหนึ่งซึ่งผู้เสียหายไม่ทราบว่าเป็นที่ใด โดยใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวต่อว่า จากนั้นคนร้ายจึงขู่บังคับให้เหยื่อโทรศัพท์ไปบอกญาติที่ประเทศจีน ให้รีบหาเงินจำนวน 6 แสนหยวน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 3 ล้านบาท มาเป็นค่าไถ่แลกกับการถูกปล่อยตัว ทั้งนี้ในขณะที่ผู้เสียหายถูกกักขังตัวไว้ก็ถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บที่บริเวณต้นขา มีรอยเขียวช้ำ ส่วนที่บริเวณข้อมือทั้งสองข้าง มีร่องรอยคล้ายถูกของมีคมบาด หรืออาจเกิดจากการเสียดสีของเชือก เนื่องจากถูกจับมัดมือไพล่หลังแล้วพยายามดิ้นรนขัดขืน
ผบก.ป.กล่าวอีกว่า หลังจากผู้เสียหายยอมทำตามที่คนร้ายข่มขู่โดยให้ญาติที่ประเทศจีนโอนเงินค่าไถ่เข้าบัญชีธนาคารในประเทศจีนให้คนร้ายแล้ว ผู้เสียหายจึงได้รับการปล่อยตัว ต่อมาผู้เสียหายจึงเข้าร้องขอความช่วยเหลือกับทางสถานทูตจีนและมีการประสานตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจ บก.ป.เพื่อร่วมสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายแก๊งนี้มาดำเนินคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่ ผบก.ป.แถลงข่าวกรณีนี้อยู่นั้น นายเจี่ย ผู้เสียหาย ได้ยื่นข้อมือทั้งสองข้างให้สื่อมวลชนได้เห็นบาดแผล พร้อมกับถลกชายกางเกงขึ้นเพื่อโชว์บาดแผลอาการบาดเจ็บที่เป็นรอยเขียวช้ำบริเวณต้นขาซ้าย ซึ่งตลอดเวลาที่แสดงท่าทางด้วยภาษากายทางผู้เสียหายก็มีสีหน้าเศร้าสลด และได้ตอบคำถามสื่อมวลชนผ่านทางตำรวจท่องเที่ยวที่คอยเป็นล่ามให้ แต่ทางตำรวจยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดต่างๆ เพราะเกรงจะกระทบต่อรูปคดีและการสืบสวนติดตามแก๊งคนร้าย เนื่องจากเกรงว่าทั้งหมดจะไหวตัวทันและหลบหนีไปก่อน
วันนี้ (1 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่ กองปราบปราม เจ้าหน้าที่สถานทูตจีน พร้อมด้วยตำรวจกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว (บก.ทท.) ได้พาตัว นายเจี่ย เซี่ยว กัง อายุ 43 ปี นักธุรกิจชาวจีน ซึ่งถูกแก๊งคนร้ายชาวจีนอุ้มตัวไปทำร้ายร่างกายและเรียกค่าไถ่ เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป.เพื่อประสานขอให้ตำรวจ บก.ป.ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุมาดำเนินคดี
พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า กรณีของ นายเจี่ย เซี่ยว กัง เท่าที่ได้รับข้อมูลในเบื้องต้นทราบว่า ทำธุรกิจเกี่ยวกับตู้เกมโดยเดินทางเข้าประเทศไทยมาแล้ว 5 ครั้ง ในฐานะนักท่องเที่ยว ต่อมาเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมา จึงถูกแก๊งคนร้ายซึ่งเป็นชายชาวจีน 3 คน และหญิงสาวที่ทำหน้าที่เป็นนางนกต่อ โทรศัพท์นัดหมายลวงให้ออกไปพบที่ร้านแห่งหนึ่งย่านอาร์ซีเอ หลังจากนั่งรับประทานอาหารกันแล้วก็ถูกแก๊งคนร้ายอุ้มตัวขึ้นรถขับออกจากร้านดังกล่าวมุ่งหน้าไปยังบ้านพักแห่งหนึ่งซึ่งผู้เสียหายไม่ทราบว่าเป็นที่ใด โดยใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวต่อว่า จากนั้นคนร้ายจึงขู่บังคับให้เหยื่อโทรศัพท์ไปบอกญาติที่ประเทศจีน ให้รีบหาเงินจำนวน 6 แสนหยวน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 3 ล้านบาท มาเป็นค่าไถ่แลกกับการถูกปล่อยตัว ทั้งนี้ในขณะที่ผู้เสียหายถูกกักขังตัวไว้ก็ถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บที่บริเวณต้นขา มีรอยเขียวช้ำ ส่วนที่บริเวณข้อมือทั้งสองข้าง มีร่องรอยคล้ายถูกของมีคมบาด หรืออาจเกิดจากการเสียดสีของเชือก เนื่องจากถูกจับมัดมือไพล่หลังแล้วพยายามดิ้นรนขัดขืน
ผบก.ป.กล่าวอีกว่า หลังจากผู้เสียหายยอมทำตามที่คนร้ายข่มขู่โดยให้ญาติที่ประเทศจีนโอนเงินค่าไถ่เข้าบัญชีธนาคารในประเทศจีนให้คนร้ายแล้ว ผู้เสียหายจึงได้รับการปล่อยตัว ต่อมาผู้เสียหายจึงเข้าร้องขอความช่วยเหลือกับทางสถานทูตจีนและมีการประสานตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจ บก.ป.เพื่อร่วมสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายแก๊งนี้มาดำเนินคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่ ผบก.ป.แถลงข่าวกรณีนี้อยู่นั้น นายเจี่ย ผู้เสียหาย ได้ยื่นข้อมือทั้งสองข้างให้สื่อมวลชนได้เห็นบาดแผล พร้อมกับถลกชายกางเกงขึ้นเพื่อโชว์บาดแผลอาการบาดเจ็บที่เป็นรอยเขียวช้ำบริเวณต้นขาซ้าย ซึ่งตลอดเวลาที่แสดงท่าทางด้วยภาษากายทางผู้เสียหายก็มีสีหน้าเศร้าสลด และได้ตอบคำถามสื่อมวลชนผ่านทางตำรวจท่องเที่ยวที่คอยเป็นล่ามให้ แต่ทางตำรวจยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดต่างๆ เพราะเกรงจะกระทบต่อรูปคดีและการสืบสวนติดตามแก๊งคนร้าย เนื่องจากเกรงว่าทั้งหมดจะไหวตัวทันและหลบหนีไปก่อน
