xs
xsm
sm
md
lg

จ่อหมายจับเจ้าของภัตตาคารจีน ลั่นไกยิงเพื่อนซี้ดับ!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ตร.เตรียมออกหมายจับเจ้าของภัตตาคารจีน และพวก หลังพบหลักฐานมีภาพปรากฎในกล้องวงจรปิดพฤติกรรมส่อมีส่วนเกี่ยวโยงฆ่านายหน้ารับทำวีซ่าประจำสถานทูตจีนเพื่อนสนิทเสียชีวิตคาภัตตาคาร พร้อมเตรียมประสาน ตม. ตรวจสอบ เพื่อป้องกันหลบหนีออกนอกประเทศ

วันนี้ (2 ก.พ.) พ.ต.ท.ภัทรวุฒิ สุนทรศารทูล สว.สส.สน.สุทธิสาร กล่าวถึงคดีที่นายหวง หยาง บิน นายหน้ารับทำวีซ่าประจำสถานทูตจีน ได้หายตัวไปจากบ้านตั้งแต่กลางดึกวันที่ 30 ม.ค. ที่ผ่านมา หลังจากเข้ามาหานายซาง หมิง เพื่อนที่เป็นเจ้าของภัตตาคารจีน "ตู๊ อี่ ฉู" ในซอย 20 มิถุนา ถนนประชาราฎร์บำเพ็ญ โดยเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบกลับพบว่าเป็นศพในภัตตาคารดังกล่าว ว่า เมื่อวานนี้ (1 ก.พ.) ภรรยาของนายหวง หยาง บิน ผู้ตาย ได้เข้ามาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสารว่าก่อนเกิดเหตุในคืนวันที่ 30 ม.ค. ที่ผ่านมา ตนเป็นคนขับรถมาส่งสามี เพื่อมาพบกับนายซาง หมิง ที่ภัตตาคารที่เกิดเหตุด้วยตัวเอง แต่วันรุ่งขึ้นสามียังไม่กลับบ้าน จึงเดินทางเข้ามาแจ้งความ ซึ่งหลังรับแจ้งความแล้ว ทางฝ่ายสืบสวนได้เข้าไปตรวจสอบภัตตาคารที่เกิดเหตุก็พบว่าปิดตาย จึงประสานขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากบ้านข้างเคียง ปรากฏว่า ก่อนเกิดเหตุนายหวง หยาง บิน กับนายซาง หมิง ได้เดินทางออกจากภัตตาคารไปในช่วงประมาณ 22.00 น. ซึ่งคาดว่าน่าจะออกไปดื่มเหล้าด้วยกัน จากนั้นทั้งคู่ก็กลับเข้ามาที่ภัตตาคารในช่วงประมาณ 01.00 น.

พ.ต.ท.ภัทรวุฒิ กล่าวต่อไปว่า หลังจากนั้นอีกประมาณ 30 นาที กล้องวงจรปิดก็จับภาพได้ว่า นายซาง หมิง พร้อมกับนางเถิง จวิน ผู้เป็นภรรยา และนายเป้า กั่ว ซุน กุ๊ก ประจำภัตตาคารได้รีบเดินทางออกจากร้านไป โดยที่ผู้ตายไม่ได้กลับออกมาด้วย ก่อนที่นายซาง หมิง จะกลับมาเก็บสัมภาระออกจากภัตตาคารไป ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่แน่ใจว่า นายหวง หยาง บิน ต้องอยู่ในร้านแน่นอน จึงพังประตูเข้าไปตรวจสอบก็พบศพผู้ตายถูกยิงเสียชีวิตอยู่บนบันไดทางขึ้นระหว่างชั้น 3 กับชั้น 4

พ.ต.ท.ภัทรวุฒิ กล่าวด้วยว่า เบื้องต้นผู้ก่อเหตุน่าจะเป็น 3 คนที่หลบหนีออกจากภัตตาคารไปหลังก่อเหตุ แต่เจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของนายซาง หมิง มากกว่า เนื่องจากเวลาเมาสุรา นายซาง หมิง จะเป็นคนอารมณ์รุนแรง โมโหร้าย ส่วนสาเหตุนั้น ยังไม่สามารถระบุได้ เพราะนายซาง หมิง กับผู้ตายเป็นเพื่อนสนิทกัน ก่อนเกิดเหตุทั้งคู่ยังกอดคอกันออกจากร้านไป แต่จากการสอบสวนพนักงานของภัตตาคาร 3 คน ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงนายซาง หมิง ทะเลาะกับนางเถิง จวิน ภรรยา อย่างรุนแรง พนักงานของภัตตาคารเลยตกใจวิ่งหนีออกมา โดยที่ไม่รู้ว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น จนมารู้ภายหลังว่านายหวง หยาง บิน ถูกยิงตายอยู่ในภัตตาคาร จึงอาจจะเป็นไปได้ว่า ผู้ตายเข้าไปห้ามทั้งคู่ทะเลาะกันเลยถูกนายซาง หมิง ยิงเสียชีวิต หรืออาจเป็นไปได้ว่า นายซาง หมิง ตั้งใจยิงนายเถิง จวิน ผู้เป็นภรรยาตัวเอง แต่พลาดเป้าไปโดนผู้ตายเสียชีวิต

พ.ต.ท.ภัทรวุฒิ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานไปขออนุมัติออกหมายจับนายซาง หมิง ส่วนเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กำลังติดตามตัวนายซาง หมิง มาสอบปากคำ โดยจะลงพื้นที่ตามหาตัวในย่านที่ผู้ตายชอบไปเที่ยว หรือแหล่งที่ชาวจีนพักอาศัยอยู่ แต่ยังไม่แน่ใจว่าหลบหนีออกนอกประเทศไปหรือยัง เนื่องจากเป็นช่วงคาบเกี่ยวกับเทศกาลตรุษจีน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังด่าน ตม.ทั่วประเทศ ให้ตรวจสอบ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้หลบหนีออกนอกประเทศ แต่ถ้าหากหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้วก็ต้องประสานทางด้านการทูตต่อไป

ด้าน พ.ต.ท.มงคล พรมโสภา พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.สุทธิสาร เจ้าของคดี กล่าวว่า ในช่วงบ่ายวันนี้จะรวบรวมพยานหลักฐานไปขออนุมัติหมายจับทั้ง 3 คน ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

เมียโร่แจ้งความผัว จนท.ทูตจีนหาย 3 วัน พบถูกยิงตายคาร้านอาหาร
นายซาง หมิง กับ นายหวง หยาง บิน (เสื้อลายแดง) ผู้ตาย เดินออกจากร้านไปเที่ยวตอน 22.00 น.วันที่ 30 ม.ค. ที่ผ่านมา
นายซาง หมิง กับ นายหวง หยาง บิน กลับมาที่ร้านในเวลา 01.03 น.วันที่ 31 ม.ค. ที่ผ่านมา
นายซาง หมิง นางเถิง จวิน ภรรยา และนายเป้า กั่ว ซุน กุ๊กของร้าน ออกจากร้านมาในเวลา 01.36 น. โดยที่ผู้ตายไม่ได้ออกมาด้วย
นายซางหมิง และนายเป้า กั่ว ซุน กลับมาเก็บสัมภาระข้าวของอีกครั้งในเวลา 01.46 น.
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสภาพศพนายหวง หวาง บิน เจ้าหน้าที่รับทำวีซ่าประจำสถานทูตจีนที่ถูกยิงตายในตูอีฉูภัตตาคาร ย่านห้วยขวาง
กำลังโหลดความคิดเห็น