xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ประสาน ปปง.ร่วมสอบเงินหมื่นล้าน-จับตา กทม.เขต23 พื้นที่แข่งขันสูง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ที่ปรึกษา(สบ10) ในฐานะผู้กำกับดูแล ศรส.ลต.ตร.
ตร.จัดส่งรายชื่อกำลังตำรวจ 132,695 นาย ปฏิบัติงานรักษาความปลอดภัยตามหน่วยเลือกตั้งให้ กกต. ยัน ตร.ทุกนายพร้อมปฏิบัติหน้าที่ ด้าน"พงศพัศ" เผย เพิ่ม กทม.เขต 23 พระโขนง-บางนา เป็นพื้นที่การแข่งขันสูง รวมเป็น 41เขตที่ต้องเฝ้าระวัง ขณะที่การแจ้งเบาะแสซื้อเสียงเริ่มมีแจ้งเข้ามาในอีสาน-ภาคใต้ ส่วนเรื่องเงินหมื่นล้าน ทาง ตร.จะไม่ทิ้งประเด็น พร้อมประสานให้ ปปง.ร่วมตรวจสอบหาเบาะแสต่อไป

วันนี้ (8 มิ.ย.) ที่ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้ง (ศรส.ลต.ตร.) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ที่ปรึกษา(สบ10) ในฐานะผู้กำกับดูแล ศรส.ลต.ตร. กล่าวภายหลังประชุม ว่า วันนี้ได้มีการส่งรายชื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เพื่อให้เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำหน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศ 90,728 หน่วยเลือกตั้ง โดยใช้กำลังตำรวจ 132,695 นาย ซึ่งตำรวจส่วนหนึ่งเป็นตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว และประกอบกำลังกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) และกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน(บช.ตชด.) โดยยืนยันว่าตำรวจทุกหน่วยพร้อมปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 3 ก.ค.

พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวถึง ช่วงระหว่างการหาเสียงของผู้สมัคร เจ้าหน้าที่ตำรวจจะระวังเหตุการณ์ต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดการขัดขวางกระบวนการเลือกตั้ง โดยส่วนนี้เราใช้กำลังตำรวจประมาณ 35,000 นาย ในการระมัดระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงในจุดที่มีการปราศรัยหาเสียง การเดินทางเข้าพื้นที่พบปะประชาชน อย่าง ไรก็ตาม ขอประชาสัมพันธ์ไปยังผู้สมัครให้ระมัดระวัง ในเรื่องวัสดุ อุปกรณ์เพื่อเพิ่มสีสันการหาเสียง ให้คำนึงถึงความปลอดภัยเพราะหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นก็ไม่พ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะต้องเข้าไปดูแล

“ในวันนี้มติที่ประชุมยังได้เพิ่มเขตการเฝ้าระวังเป็นพิเศษเพิ่ม 1 เขต คือ กทม.เขต 23 พระโขนง-บางนา เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีการแข่งขันของสองพรรคใหญ่ ซึ่งเข้มข้นและสูสีกัน ขณะนี้ได้ให้ตำรวจท้องที่ประสานกับตำรวจส่วนกลางลงพื้นที่ลงไปดูแลหัวคะแนนและการหาเสียงของผู้สมัครเป็นพิเศษ สรุปว่าขณะนี้มี 41 เขตที่ตำรวจต้องเฝ้าระวังแล้ว”

พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวอีกว่า ช่วงนี้มีประชาชนแจ้งเบาะแสการซื้อสิทธิ์ขายเสียงมายังสายด่วน 1599 ทั้งจากภาคอีสานและวันนี้มีการเพิ่มเติมที่ภาคใต้ โดยเฉพาะการเล่นหวย สส. ซึ่งเป็นการเปิดโต๊ะรับพนันว่าผู้สมัคร สส. รายใดจะได้เป็นสส.ในพื้นที่ และมีแต้มต่อ ทางศรส.ลต.ตร. ขอเตือนทั้งหัวคะแนน ประชาชน นักพนัน ว่าการกระทำดังกล่าวผิดกฎหมายเลือกตั้งในลักษณะเป็นการจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งไปลงคะแนนให้คนหนึ่งคนใด ซึ่งขณะนี้พบว่า นักพนันเตรียมที่จะเปิดโต๊ะกันแล้ว แต่ยังไม่พบหัวคะแนนเข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งมีความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง ม. 53 ส่วนเรื่องการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ผิดตามม.77 โดยกฎหมายใหม่จะมีความผิดทั้งคนรับและคนให้มีโทษจำคุก 1-5 ปี ปรับ2หมื่น-1แสนบาท แต่สำหรับพี่น้องประชาชนที่รับเงินมาแล้วจะไม่ผิดมีอยู่กรณีเดียวคือ แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและ กกต.ทราบ7วันก่อนหรือหลังวันเลือกตั้ง ทั้งนี้ขอย้ำว่าการซื้อสิทธิ์ขายเสียงผิดกฎหมายและหากพบว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามม. 53 มีโทษสูงสุดถึงขั้นยุบพรรค

พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวอีกว่า ยังมีประเด็นใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน คือ มีตัวแทนของร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผู้สมัครสส.บัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนสน.บางบอน ว่า ถูกกลั่นแกล้งโดยการนำธนบัตร 100 บาท ไปติดที่แผ่นพับแนะนำตัวของร.ต.อ.เฉลิม ไปแจกจ่ายให้กับประชาชน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบสวนว่าเป็นการกระทำของใคร

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเปิดโต๊ะล่ารายชื่อเอาผิด นางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคสส.บัญชีรายชื่อลำดับ 1 ในวันที่ 18 มิ.ย. นี้ เป็นการกระทำเพื่อขัดขวางกระบวนการเลือกตั้งหรือไม่ พล.ต.อ. พงศพัศ ยังกล่าวอีกว่า ในช่วงใกล้วันเลือกตั้ง จะมีข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ไปสู่ประชาชนและสื่อมวลชนมากขึ้นตามลำดับ อย่างเช่นป้ายโนโหวต หรือเรื่องการเปิดโต๊ะล่ารายชื่อเอาผิด เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องใหม่ ไม่เคยเกิดขึ้น อย่างป้ายโนโหวต ของพรรคเพื่อฟ้าดิน ก็ยืนยันว่าในสิทธิ์ที่จะติดตั้งป้ายเพราะเป็นป้ายที่มีขนาดถูกต้องตามที่ กกต.กำหนด ตำรวจต้องขอความชัดเจนจาก กกต.ว่าการกระทำดังกล่าวมีความผิด หรือเทียบเคียงความผิดมาตราใดตามกฎหมายเลือกตั้ง ทาง กกต.ต้องชี้ให้ชัด ซึ่งตำรวจจะได้ดำเนินการได้ถูกต้อง ในบางครั้ง กกต. เขต หรือ กกต.จังหวัดก็ไม่สามารถให้คำตอบได้ก็ต้องเป็นหน้าที่ของกกต.กลางที่จะให้ ความกระจ่าง ก็ขอความกรุณา กกต. ช่วยเป็นหลักให้กับบ้านเมือง ช่วยวินิจฉัยในเรื่องเหล่าต่าง ๆเหล่านี้ด้วย อย่างไรก็ตาม ประเด็นเหล่านี้ได้ประชุมกับ กกต.ไปแล้วในช่วงเช้าและกกต.ยืนยันว่าจะมีคำตอบให้ในวันนี้

พล.ต.อ.พงศพัศ ยังกล่าวถึงการหาเสียงผ่านทางเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียว่า ขณะนี้มีการหาเสียงทางผ่านทางเว็บไซต์ 484 เว็บไซต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่ามีจำนวน 76 เว็บไซต์ที่มีข้อความการใส่ร้ายผู้สมัคร และพรรคการเมือง ขณะนี้เราทำได้เพียงเฝ้าติดตามดูและตรวจสอบว่ามีข้อความใดที่ให้ร้ายส่งผลต่อการลงคะแนนของผู้ใช้สิทธิ์ หากเจ้าของเว็บไซต์ปล่อยปละละเลยให้มีข้อความเหล่านี้เกิดขึ้นก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย แต่ในส่วนของเฟซบุ๊คหรือทวิตเตอร์ ซึ่งเป็นการทวิตข้อความหรือเขียนข้อความ เป็นความผิดส่วนบุคคล ทาง ผู้สมัคร สส. พรรคการเมืองหรือตัวแทน จะต้องเป็นเจ้าทุกข์มาแจ้งความกับตำรวจ ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับการทำลายป้ายหาเสียง ที่ตำรวจพบการกระทำผิดก็ต้องไปบอกกับเจ้าของป้ายให้มาแจ้งความ หากไม่มีการแจ้งความร้องทุกข์ตำรวจก็ทำได้เพียงบันทึกข้อมูลไว้เท่านั้น ซึ่งการทำลายป้ายหาเสียงขณะนี้ 1 , 158ป้าย ถูกทำลายในพื้นที่ บช.ภ. 1 มากที่สุด 312 ป้าย บช.ภ. 5 จำนวน 160 ป้าย บช.ภ. 4 จำนวน 148 ป้าย บช.ภ. 2 จำนวน 106 ป้ายและ บช.น. 104 ป้าย

พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวต่อว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีไว้ 7 คดี ซึ่งพบว่า มีผู้ต้องหาเป็นเยาวชนทั้งหมดโดยยอมรับว่ากระทำไปเพราะความคึกคะนอง โดยการเข้าไปขีดเขียนข้อความเพิ่มเติม ไม่พบว่าเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม อย่าง ไรก็ตาม แม้จะเป็นการกระทำด้วยความคึกคะนองแต่ นโยบายของตร. มีความชัดเจนว่า การทำลายป้ายหาเสียงเป็นการขัดขวางกระบวนการเลือกตั้ง ต้องดำเนินคดี จึงฝากไปยังผู้ปกครอง และทุกฝ่ายต้องช่วยกัน บอกกล่าวไปยังบุตรหลานด้วย ว่าเป็นความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง และมีประวัติการกระทำผิดด้วย

ผู้สื่อข่าวถามถึง เงินจำนวน 1 หมื่นล้านบาทที่หายไปจากระบบการเงินของธนาคารซึ่งพล.ต.ท.ระพีพัฒน์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา ผช.ผบ.ตร. ระบุว่า ได้รับข้อมูลจาก ธปท. จริง พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นวาระหนึ่งที่หารือกันในที่ประชุม อยากเรียนว่า ทางตำรวจได้ประสานกับ ธปท. พร้อมตรวจสอบยังไม่พบว่ามีเงินออกจากระบบ แต่ตำรวจไม่ทิ้งประเด็นนี้ ยังประสานกับสำนักงานป้องกันปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. โดยจะรวบรวมข้อมูล หรือเบาะแสต่างๆ ให้ ปปง.ตรวจสอบ ในส่วนของ พล.ต.อ.ระพีพัฒน์ ได้ให้ข้อมูลในที่ประชุมว่า ได้รับข้อมูลว่า มีเงินหายไป จึงต้องการให้ตำรวจเกาะติด ตามสกัดกั้น ป้องกันการนำเงินไปซื้อสิทธิ์ขายเสียง
กำลังโหลดความคิดเห็น