xs
xsm
sm
md
lg

โฆษก ตร.แจงเหยื่อแพะคดีลักทรัพย์ค้ายาบ้าถูกแฟนหนุ่มลวง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

น.ส.นภาศรี สังสัญชาติ หญิงสาวที่เคยเป็นแพะในคดีลักทรัพย์ในพื้นที่ สน.บางเขนจนเป็นข่าวดัง
โฆษก ตร.เชื่อเหยื่อแพะ สน.บางเขน ถูกจับคดียาบ้าที่อ่างทอง น่าจะถูกแฟนหนุ่มที่เพิ่งคบชักชวนให้มาร่วมค้ายา ส่วนเรื่องที่เยียวยาให้เหยื่อที่ถูกจับขังเป็นคนละคดี ทาง ตร.จะไม่มีการเรียกเงินคืน ด้านเหยื่อแพะบอกคบคนผิด อ้างถูกแฟนหนุ่มเอายาบ้ามายัดใส่กระเป๋า บอกนามบัตร พล.ต.ต.ประวุฒิ ไม่ได้เอาขู่ตามที่เป็นข่าว ขณะที่ ผกก.ป่าโมก ยัน ระหว่างจับกุมไม่มีใครเอานามบัตรมาข่มขู่แต่อย่างใด

วันนี้ (4 พ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตร.กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.นภาศรี สังสัญชาติ หญิงสาวที่เคยเป็นแพะในคดีลักทรัพย์ในพื้นที่ สน.บางเขนจนเป็นข่าวดัง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าโมก จ.อ่างทอง จับกุมพร้อมของกลางยาบ้า และนามบัตรของ พล.ต.ต.ประวุฒิ ว่า ก่อนหน้าที่ ตร.จะเข้าไปช่วยเหลือเยียวยา น.ส.นภาศรี ในคดีลักทรัพย์ ทางฝ่ายสืบสวนได้มีการตรวจสอบประวัติแล้วแต่ไม่พบว่าเคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งน่าจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหลังจากถูกดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ และกลับมาใช้ชีวิตปกติโดยน่าจะถูกแฟนหนุ่มที่เพิ่งคบหลังพ้นข้อกล่าวหาชักชวนให้มาร่วมค้ายาเสพติดหรืออาจจะเป็นเพราะเคยถูกจำคุก ทำให้ไม่มีความเกรงกลัวในเรื่องนี้อีก ส่วนที่ ตร.ได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือเยียวยาก็ถือว่าได้ให้โอกาสแล้ว หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะสืบสวนและตรวจสอบว่า น.ส.นภาศรี รู้จักหรือมีกลุ่มผู้ต้องขังในเรือนจำชักชวนให้มาร่วมขบวนการค้ายาเสพติดหรือไม่

สำหรับคดีของ น.ส.นภาศรี ซึ่งถูกดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์พื้นที่ สน.บางเขน และศาลจังหวัดมีนบุรีได้มีคำพิพากษายกฟ้องนั้น พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวว่า คดีนั้นเจ้าทุกข์มาชี้ตัวและพบว่า น.ส.นภาศรี ไม่ใช่ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุและไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นความผิดพลาดของตำรวจ ทาง ตร.จึงได้เข้าไปช่วยเหลือเยียวยา พร้อมซ่อมแซมบ้านพักให้รวมเป็นเงินประมาณ 120,000 บาท ทั้งยังมอบเงินชดใช้ค่าเสียหายอีกประมาณ 2 แสนบาท รวมทั้งหางานให้ทำหลังจากออกจากเรือนจำด้วย ซึ่งถือว่าทางตำรวจก็ได้ทำตามหน้าที่ของตำรวจเยียวยาในส่วนนั้น แต่คงจะไม่มีการเรียกเงินช่วยเหลือคืนจาก น.ส.นภาศรี เพราะถือเป็นคนละเรื่องกันกับคดียาเสพติด

พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวยังกล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่จับกุม พบนามบัตรของตนในกระเป๋าของ น.ส.นภาศรี ว่า นามบัตรดังกล่าวได้มอบให้กับ น.ส.นภาศรี เพื่อใช้ประสานงานในการช่วยเหลือเยียวยาในคดีลักทรัพย์ ซึ่งขณะถูกจับกุม น.ส.นภาศรี ก็ไม่ได้นำนามบัตรดังกล่าวออกมาแอบอ้างกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า นามบัตรของตนคงไม่สามารถใช้เป็นบัตรผ่านได้ ซึ่งถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นนามบัตร และไม่ยอมจับกุมตัวผู้ต้องหา ก็คงจะเป็นเรื่องที่แย่ และไม่ถูกต้อง นอกจากนี้นามบัตรของตนที่ได้เคยแจกให้กับบุคคลที่รู้จักในก่อนหน้านี้ ก็มีหลายพันใบ ซึ่งคงจะยากแก่การควบคุม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ พ.ต.ท.ธัชพล พึ่งสุข รองผกก.ป. สภ.ป่าโมก จ.อ่างทอง นำกำลังไปตั้งจุดสกัดที่สามแยกบ้านปากน้ำ หมู่ 6 ต.เอกราช อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา และได้พบรถเก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน 3อ-9789 กทม.ขับผ่านมา จึงเรียกเพื่อตรวจค้น และพบ นายภาณุพงษ์ ขันธพาลี อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 150/41 หมู่ 8 ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา คนขับ และ น.ส.นภาศรี สังสัญชาติ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 ม.7 ต.ไผ่ดำพัฒนา อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง นั่งอยู่เบาะด้านข้างทำการตรวจพบยาบ้า 182 เม็ด ซ่อนในกระเป๋าเงิน ที่ใส่ในกระเป๋าถือของ น.ส.นภาศรี จึงคุมตัวมาทำการสอบสวน

เมื่อสอบสวนจึงทราบว่า น.ส.นภาศรี เคยถูกตำรวจ สน.บางเขน จับกุมตัวดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์ แต่ต่อมาศาลยกฟ้องและน.ส.นภาศรี ร้องเรียนต่อ สตช.เพื่อขอความเป็นธรรม โดยเมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.สั่งให้ พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก สตช.มาดูสภาพความเป็นอยู่และที่พักอาศัย พบว่า มี นางสมนึก ศรีเมือง อายุ 78 ปี ซึ่งเป็นแม่ล้มป่วยด้วยโรคอัมพฤกษ์ โรคเบาหวาน ตาฝ้าฝางมองไม่เห็น 2 ข้าง นอกจากนี้ ยังมีลูกวัยเรียนอีก 2 คน โดยสภาพบ้านทรุดโทรมและยากจน จึงให้การช่วยเหลือโดยมอบเงินให้จำนวนหนึ่ง พร้อมทั้งสั่งการให้ซ่อมแซมบ้านพัก และฝากเข้าทำงาน

น.ส.นภาศรี กล่าวว่า ตกใจมากที่โดนจับและยาบ้าที่อยู่ที่ตนนั้นไม่ใช่ของตนเป็นของ นายภาณุพงษ์ ที่คบเป็นแฟนได้ประมาณ 2 เดือน โดย นายภาณุพงษ์ บอกว่า จะทำครั้งนี้ครั้งเดียวก็จะเลิก ซึ่งก่อนจะมาถูกจับตนเห็น นายภาณุพงษ์ เอายาบ้าใส่กระเป๋าตน ตนบอกให้เอาออกไป ตนก็นึกว่า นายภาณุพงษ์ เอาออกไปแล้วจึงไม่ได้คิดอะไร สำหรับที่มีนักข่าวหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งเขียนข่าวว่าตนเอานามบัตร พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก สตช.ข่มขู่ตำรวจขณะตรวจค้นนั้น ไม่จริงตนไม่เคยหยิบออกมาตำรวจมาค้นเจอเองที่โรงพัก ตนไม่รู้ว่านักข่าวเขียนข่าวจุดประสงค์ใด ตนตอนนี้สงสารแม่มากตนต้องมาติดคุกเพราะคบคนผิด

ด้าน พ.ต.อ.ปิยศักดิ์ ดาวฤกษ์ ผกก.สภ.ป่าโมก กล่าวว่า ระหว่างทำการจับกุมไม่มีใครเอานามบัตร พล.ต.ต.ประวุฒิ มาข่มขู่แต่อย่างใด ก็ไม่รู้นักข่าวเขียนข่าวเพื่อให้ข่าวใหญ่โตหรือเปล่า เป็นการตรวจค้นระหว่างตั้งด่านตามปกติ และหลังจากเป็นข่าวออกไป พล.ต.ต.ประวุฒิ ก็โทรมาถามตนก็รายงานตามเป็นจริงก็อยากให้สื่อทำหน้าที่ให้ตรงเขียนให้ถูกต้อง เพราะผลออกมามันเสียหลายฝ่าย
ในวันที่เข้าร้องเรียนกับพล.ต.ต.ประวุฒิ
กำลังโหลดความคิดเห็น