xs
xsm
sm
md
lg

ตร.เฝ้าระวัง รปภ.สถานทูตอเมริกา ป้องเหตุหลัง “บิน ลาดิน” ตาย!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ)
ผบ.ตร. สั่งหน่วยปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยสถานทูตสหรัฐฯ และสถานที่สำคัญ ตามแผนปฏิบัติการอย่างเข้มงวด หลัง “บิน ลาดิน” เสียชีวิต พร้อมตั้งด่านตรวจสกัด เฝ้าระวังเหตุอย่างทั่วถึง กำชับสตม. เพิ่มความเข้มตรวจตราบุคคลที่เดินทางเข้า-ออก ทุกช่องทาง รวมถึงโรงแรม ที่พักอาศัย แหล่งท่องเที่ยว และสถานที่ชุมชนของบุคคลสัญชาติเป้าหมาย เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย

วันนี้ (3 พ.ค.)ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย รองโฆษกตร. ร่วมกันแถลงถึงกรณีที่นายอุซามะห์ บิน ลาดิน หัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ ถูกกองกำลังของสหรัฐอเมริกาสังหารเสียชีวิต

พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทางกลุ่มตาลิบันและอัลกออิดะห์ได้ประกาศจะล้างแค้นให้กับนายอุซามะห์ บิน ลาดิน ทำให้หลายฝ่ายมีความกังวลถึงความปลอดภัยของเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย และประเทศในกลุ่มพันธมิตร ทางพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. จึงได้มีคำสั่งให้หน่วยปฏิบัติงานเพิ่มความเข้มงวดและกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลสถานที่สำคัญในประเทศ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นสถานทูตและบ้านพักของเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยและประเทศในกลุ่มพันธมิตร สถานกงสุล บริษัทกลุ่มทุนของประเทศสหรัฐอเมริกาและสนามบินสำคัญต่างๆ โดยในส่วนของสถานทูตและบ้านพักได้มอบหมายให้กองบัญชาการตำรวจสันติบาล(บช.ส.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาคเจ้าของพื้นที่ทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัย ส่วนสนามบินได้มอบหมายให้สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง(สตม.)ทำหน้าที่ดูแล และตรวจสอบประวัติบุคคลที่ผ่านเข้าออกประเทศ พร้อมทั้งให้ บช.ส. ติดตามด้านการข่าวและเฝ้าระวังความเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมก่อความไม่สงบที่อาจจะเดินทางเข้ามาในประเทศไทยด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่าการเสียชีวิตของนายอุซามะห์ บิน ลาดิน จะมีผลต่อกลุ่มชาวมุสลิมในประเทศไทยและเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวว่า ขณะนี้คงไม่ต้องตื่นตัวอะไรมาก แต่เราต้องเฝ้าระวังและไม่ประมาท ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ไม่น่าจะมีผลสะท้อนมาถึงการก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบกับในตอนนี้ทางการข่าวที่ทราบมาไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ทั้งเหตุการณ์ในพื้นที่ภาคใต้และในกรุงเทพฯ

เมื่อถามอีกว่ามีความกังวลถึงความปลอดภัยของสถานทูตประเทศไทยประจำสหรัฐอเมริกาและประเทศกลุ่มพันธมิตรที่อาจได้รับผลกระทบทางอ้อมหรือไม่ พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวว่า ในส่วนสถานทูตประเทศไทยที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ไม่น่าจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว และไม่น่าจะมีความเกี่ยวข้องกัน

ด้านพล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทางพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. เพิ่มความเข้มงวดและความถี่ในการดูแลสถานทูตต่างๆที่มีความเกี่ยวเนื่องกับเหตุการณ์นี้ ซึ่งเมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.จักรทิพย์ และรองผบช.น. ได้เดินทางไปตรวจสอบสถานทูตทุกแห่ง จากนั้นได้สั่งการให้ ผบก.น. 1-9 เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจและฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจตราสถานที่สำคัญ เช่น แหล่งท่องเที่ยวและแหล่งชุมชน โดยไม่ว่าจะเป็นย่านสุขุมวิท บางรัก และนานา ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีสิ่งบอกเหตุและข้อมูลที่จะนำมาสู่ความไม่สงบ ซึ่งคาดว่าคงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้เคยจับกุมเครือข่ายกลุ่มอัลเคด้าได้ในประเทศไทย จะมีการเฝ้าระวังอย่างไร พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวว่า ที่สามารถจับกุมได้ในครั้งนั้นเป็นเพียงเครือข่ายที่มาเรี่ยไรเงินในพื้นที่ภาคใต้และได้ปล่อยตัวไปแล้ว เนื่องจากการสอบสวนพบว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มดังกล่าวและไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ ส่วนที่หลายฝ่ายมีความกังวลว่าประเทศไทยอาจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้นั้น โดยประเทศไทยไม่ใช่คู่กรณีกับกลุ่มดังกล่าวและเราก็ไม่ใช่เป้าหมาย ดังนั้นจึงไม่น่าเป็นห่วงในเรื่องนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางพล.ต.อ.วิเชียร ได้มีหนังสือสั่งการด่วนที่สุดที่ 0009.21/58 ลงวันที่ 2 พ.ค.2554 โดยให้ทุกหน่วยในสังกัดทั่วประเทศ ดำเนินการดังนี้ 1. ให้ บช.ส.เพิ่มมาตรการในเรื่องการรักษาความปลอดภัย สถานทูต สถานกงสุล และบุคคลสำคัญทางการทูตทุกแห่งในความรับผิดชอบ โดยประสานการปฏิบัติกับฝ่ายรักษาความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด 2. ให้ บช.น. บช.ก. และ บช.ตชด. สนับสนุนหน่วยปฏิบัติการพิเศษทางยุทธวิธี เพื่อรักษาความปลอดภัยสถานที่สำคัญ และพิจารณาตั้งจุดตรวจ จุดสกัด รวมทั้งตรวจอาคารสูงและที่สูงรอบบริเวณสถานที่สำคัญภายในรัศมี 300 เมตร เพื่อป้องกันอาวุธวิถีโค้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า 3. ให้ สตม. เพิ่มความเข้มในการตรวจตราบุคคลที่เดินทางเข้าและออกราชอาณาจักรทุกช่องทาง ตลอดจนโรงแรม ที่พักอาศัย แหล่งท่องเที่ยวและสถานที่ชุมชนของบุคคลสัญชาติเป้าหมาย 4. ให้ทุกหน่วยงานเพิ่มความเข้มและความถี่ในการตรวจตราสถานที่สำคัญ หน่วยงานหรือตัวแทนการค้า การลงทุน โรงแรมและสถานประกอบการของประเทศต่างๆ ที่อาจตกเป็นเป้าหมายในการตอบโต้ โดยให้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสถานที่ดังกล่าวและกำหนดช่องทางที่ชัดเจนให้สามารถติดต่อสื่อสารระหว่างกันได้ตลอดเวลา และ5.ให้ทุกหน่วยประสานงานด้านข้อมูลข่าวสารและการปฏิบัติร่วมกันอย่างใกล้ชิดจริงจังและต่อเนื่อง พร้อมทั้งให้ผู้บังคับบัญชาแต่ละระดับลงไปควบคุม กำกับดูแลกวดขันและตรวจสอบการปฏิบัติด้วยตัวเอง ทั้งนี้หากมีเหตุฉุกเฉินและจำเป็นให้ทุกหน่วยรายงาน ศปก.ตร. ทราบทันที


ในวันเดียวกัน พ.ต.อ.ชนิน วชิรปราณีกูล ผกกสน.ลุมพินี เปิดเผยว่า ในพื้นที่ สน.ลุมพินี มีสถานทูตและสถานที่สำคัญแนวเชิงสัญลักษณ์หลายแห่ง ซึ่งเป็นแผนปฏิบัติการของ สน.อยู่แล้ว ซึ่งในกรณีการดูแลรักษาความปลอดภัย ทาง พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ได้มีคำสั่งกำชับให้พื้นที่ตำรวจนครบาล 5 และ สน.ลุมพินี จัดเตรียมกำลังตรวจตราอย่างเข้มงวด โดยจะมีการตั้งด่านตรวจสกัด การตรวจค้นบุคคลต้องสงสัยและยังมีการสืบหาข่าวต่างๆ ในพื้นที่ด้วย โดยการรักษาความปลอดภัยนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติการพิเศษ หรือ 191 เข้ามาเสริมกำลังคอยดูแลด้วย

ผกก.สน.ลุมพินี กล่าวต่อว่า ทางสถานทูตสหรัฐฯ ยังไม่มีการร้องขอกำลังเจ้าหน้าที่ไปรักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม จากเหตุที่เกิดขึ้นดังกล่าวในพื้นที่ สน.ลุมพินี ยังไม่มีแนวโน้มจะเกิดเหตุวุ่นวาย แต่เจ้าหน้าที่ไม่ประมาท ซึ่งยังคงดูแลความปลอดภัยบ้านพักของทูต และเจ้าหน้าที่สถานทูตด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น