นครบาลแถลงจับกุมหนุ่มพม่าค้ายาไอซ์ ยึดของกลางเกือบ 3 พันกรัม มูลค่า 8 ล้านบาท โดยมีการติดต่อกับเครือข่ายในเรือนจำบางขวางแล้วส่งขายให้ชาวสิงคโปร์ รับสารภาพได้ค่าจ้าง 2 หมื่น ขณะที่ “อำนวย” แนะให้กรมคุกเอาจริงตัดสัญญาณมือถือในเรือนจำเพื่อปราบปราบขบวนการค้ายาให้สิ้นซาก
วันนี้ (1 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.ชาตรี กาญจนกันติ ผกก.สน.พหลโยธิน พ.ต.ท.สุรจิตร เปลี่ยนประเสริฐ พ.ต.ท.ทวีวงศ์ ดิษฐแย้ม สว.สส. นำกำลังจับกุม นายอาคิว หรือนายวรพชร เทพปัญญา อายุ 36 ปี ชาวพม่า พร้อมของกลางยาไอซ์น้ำหนักรวม 2,820 กรัม มูลค่า 8 ล้านบาท ถุงพลาสติกห่อขนม เครื่องชั่งและอื่นๆ จับได้ที่ตลาดจันทรเกษมพลาซ่า ซอยรัชดาภิเษก 36 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม.
พล.ต.ท.จักรทิพย์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.พหลโยธิน สืบทราบว่านายอาคิวลักลอบจำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่ จึงให้สายลับล่อซื้อยาไอซ์ 50 กรัม และจับกุมได้ ก่อนขยายผลตรวจค้นห้องพักเลขที่ 306 เคเคแมนชั่น ซอยรัชดาภิเษก 36 ซึ่งเป็นห้องพักของนายอาคิว พบยาไอซ์อีก 2,760 กรัม โดยพบว่ายาดังกล่าวมีการติดต่อกับผู้ที่อยู่ในเรือนจำบางขวาง ซึ่งผู้ต้องหาทำงานบาร์โฮสย่านสุขุมวิท 11 และรู้จักนายอาลู่ ซึ่งอยู่สิงคโปร์ เป็นผู้ประสานให้นำยาไอซ์จากเรือนจำไปจำหน่ายอีกทอดหนึ่ง ซึ่งอ้างว่าได้ค่าจ้าง 2 หมื่นบาทต่อกิโลกรัม ทำมาแล้ว 3 ครั้ง
ด้าน พล.ต.ต.อำนวยกล่าวว่า เรื่องนี้อยากให้ทางกรมราชทัณฑ์ เอาจริงเอาจังและตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือในเรือนจำให้หมด โดยเท่าที่ทราบพบว่าหลังเวลา 16.00 น. นักโทษสามารถโทรศัพท์ได้ และวันเสาร์-อาทิตย์โทรศัพท์ได้ทั้งวัน ซึ่งการจับกุมเป็นไปได้ยาก และตำรวจที่จับก็เป็นเพียงปลายเหตุ ส่วนประเด็นที่ว่าตัดสัญญาณแล้วบ้านเรือนประชาชนใกล้เคียงเดือดร้อนนั้น ปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวไกลไปมาก สามารถกำหนดพื้นที่ที่ทำการตัดสัญญาณได้อยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นก็จะมีให้จับกุมเรื่อยๆ
เบื้องต้นแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมนำตัวส่ง ปส.ขยายผลผู้ร่วมขบวนการต่อไป
วันนี้ (1 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.ชาตรี กาญจนกันติ ผกก.สน.พหลโยธิน พ.ต.ท.สุรจิตร เปลี่ยนประเสริฐ พ.ต.ท.ทวีวงศ์ ดิษฐแย้ม สว.สส. นำกำลังจับกุม นายอาคิว หรือนายวรพชร เทพปัญญา อายุ 36 ปี ชาวพม่า พร้อมของกลางยาไอซ์น้ำหนักรวม 2,820 กรัม มูลค่า 8 ล้านบาท ถุงพลาสติกห่อขนม เครื่องชั่งและอื่นๆ จับได้ที่ตลาดจันทรเกษมพลาซ่า ซอยรัชดาภิเษก 36 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม.
พล.ต.ท.จักรทิพย์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.พหลโยธิน สืบทราบว่านายอาคิวลักลอบจำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่ จึงให้สายลับล่อซื้อยาไอซ์ 50 กรัม และจับกุมได้ ก่อนขยายผลตรวจค้นห้องพักเลขที่ 306 เคเคแมนชั่น ซอยรัชดาภิเษก 36 ซึ่งเป็นห้องพักของนายอาคิว พบยาไอซ์อีก 2,760 กรัม โดยพบว่ายาดังกล่าวมีการติดต่อกับผู้ที่อยู่ในเรือนจำบางขวาง ซึ่งผู้ต้องหาทำงานบาร์โฮสย่านสุขุมวิท 11 และรู้จักนายอาลู่ ซึ่งอยู่สิงคโปร์ เป็นผู้ประสานให้นำยาไอซ์จากเรือนจำไปจำหน่ายอีกทอดหนึ่ง ซึ่งอ้างว่าได้ค่าจ้าง 2 หมื่นบาทต่อกิโลกรัม ทำมาแล้ว 3 ครั้ง
ด้าน พล.ต.ต.อำนวยกล่าวว่า เรื่องนี้อยากให้ทางกรมราชทัณฑ์ เอาจริงเอาจังและตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือในเรือนจำให้หมด โดยเท่าที่ทราบพบว่าหลังเวลา 16.00 น. นักโทษสามารถโทรศัพท์ได้ และวันเสาร์-อาทิตย์โทรศัพท์ได้ทั้งวัน ซึ่งการจับกุมเป็นไปได้ยาก และตำรวจที่จับก็เป็นเพียงปลายเหตุ ส่วนประเด็นที่ว่าตัดสัญญาณแล้วบ้านเรือนประชาชนใกล้เคียงเดือดร้อนนั้น ปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวไกลไปมาก สามารถกำหนดพื้นที่ที่ทำการตัดสัญญาณได้อยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นก็จะมีให้จับกุมเรื่อยๆ
เบื้องต้นแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมนำตัวส่ง ปส.ขยายผลผู้ร่วมขบวนการต่อไป
