xs
xsm
sm
md
lg

แม่เศร้า! รับศพหนุ่มแท็กซี่สุดภูมิใจลูกชายเป็นพลเมืองดีช่วย ตร.จับไอ้คลั่ง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นางสายทอง พวงสูงเนิน อายุ 63 ปี พร้อมญาติพี่น้อง เดินทางมารับศพนายอำนาจ พวงสูงเนิน แท็กซี่พลเมืองดี เพื่อไปทำพิธีรดน้ำศพที่วัดสุคันธารามและนำกลับไปบำเพ็ญกุศลต่อที่บ้านเกิด
ญาติแท็กซี่เข้ารับศพโชเฟอร์พลเมืองดีนำไปบำเพ็ญกุศลบ้านเกิด หลังเข้าช่วยสกัดจับไอ้คลั่งจี้รถจับแพทย์หญิงเป็นตัวประกันและถูกยิงดับพร้อมกับ ตร. แม่แท็กซี่พลเมืองดีเผยเสียใจที่ลูกต้องมาจบชีวิตแบบนี้ แต่ภูมิใจลูกเป็นพลเมืองดีช่วย ตร.จับคนร้าย ขณะที่ ผบก.น.1 รุดเข้าเยี่ยม ตร.ที่ได้รับบาดเจ็บพร้อมมอบเงินช่วยเหลือ ระบุ สั่งสอบเหตุที่เกิดขึ้นแล้วแต่ไม่สอบชุดวิสามัญฯ ยืนยัน ตร.ปฏิบัติหน้าที่ดีแล้ว ส่วนสาเหตุน่ามาจากความเครียดและเสพยาเสพติด

วันนี้ (15 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่แผนกนิติเวช รพ.รามาธิบดี นางสายทอง พวงสูงเนิน อายุ 63 ปี พร้อมญาติพี่น้อง และนายอภิชาติ มโนมัยวงศ์ อายุ 52 ปี เจ้าของอู่ม้าทองที่นายอำนาจ พวงสูงเนิน เช่าอยู่ ได้เดินทางมารับศพเพื่อไปทำพิธีรดน้ำศพที่วัดสุคันธาราม ก่อนที่ทางญาติจะนำศพกลับไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดสามแยก ต.ศรีชมภู อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ

นางสายทองกล่าวทั้งน้ำตาว่า รู้สึกเสียใจที่ต้องสูญเสียลูกชาย และไม่คาดคิดว่าลูกจะมาด่วนจากไปก่อน ที่ผ่านมาลูกได้เข้ากรุงเทพฯ มาทำงานขับแท็กซี่ เพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัวมาตลอด และไม่ได้กลับมาที่บ้านเลย โดยลูกชายได้โทร.บอกกับตนว่าจะขับรถหาเงินช่วงสงกรานต์ก่อน และจะกลับไปเยี่ยมแม่และญาติพี่น้องหลังจากหมดงานสงกรานต์ แต่กลับมาถูกยิงเสียชีวิตก่อน

“เสียใจมากที่ลูกต้องมาจบชีวิตแบบนี้ แต่ก็รู้สึกภาคภูมิใจมากที่ลูกชายเป็นพลเมืองดีพยายามช่วยเจ้าหน้าที่จับคนร้าย จากนี้จะนำศพกลับบ้านเกิดที่ จ.บึงกาฬ ไปทำพิธีต่อไป ต้องขอบคุณ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวของเรา เพราะครอบครัวเราไม่มีเงินเลย” แม่แท็กซี่พลเมืองดีกล่าว

ด้าน นายอภิชาติ เจ้าของอู่ม้าทองกล่าวว่า ตนได้มาช่วยเหลือในเรื่องค่าใช้จ่ายในการนำศพออก เพราะเห็นว่านายอำนาจเป็นคนดีมีน้ำใจ ตั้งแต่มาทำงาที่อู่ของตนก็ไม่เคยมีปัญหา

ต่อมาเมื่อเวลา 12.30 น.ที่ รพ.ตำรวจ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เดินทางมาเยี่ยม ด.ต.จิโรจน์ บุญทองคำ ผบ.หมู่.จร.สน.พญาไท ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นายธาดา อินทมาศ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 78/3 หมู่ที่ 4 ต.นาเหรง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ขับรถพุ่งชน ขณะ ด.ต.จิโรจน์ พยายามเข้าสกัดจับ ซึ่งขณะนี้พักรักษาตัวที่ห้อง 607 อาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.ตำรวจ เบื้องต้น พล.ต.ต.วิชัยได้มอบเงินสดส่วนตัวช่วยเหลือครอบครัว ด.ต.จิโรจน์ จำนวน 30,000 บาท

พล.ต.ต.วิชัยกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า หลังเกิดเหตุได้มีการตั้งกรรมการสอบสวน แต่ไม่ใช่เป็นการตั้งกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงว่าตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุบกพร่อง หรือทำเกินกว่าเหตุ แต่เป็นการตั้งกรรมการสอบสวนเพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นต่อเนื่องกันในหลายท้องที่ ทั้งนี้ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ชุดที่วิสามัญฯ คนร้ายไม่ทราบว่ามีตัวประกันอยู่ภายในรถกับคนร้ายด้วย ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นรวดเร็วมากตั้งแต่พื้นที่ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นจุดที่นายธาดาก่อเหตุชิงรถโตโยต้า คัมรี่ มาถึงแยกศรีอยุธยา ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงโชเฟอร์พลเมืองดีเสียชีวิต และใช้อาวุธปืนจี้ชิงรถโตโยต้าคัมรี่และจับตัว พญ.พิภัทรา สายโลหิต อายุ 28 ปี เป็นตัวประกัน ใช้เวลาเพียง 18 นาที และจากจุดนี้ไปถึงอนุสาวรีย์ฯ ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรม ใช้เวลาเพียง 3 นาที ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาช่วยสกัดจับคนร้ายก็มีหลายชุด ซึ่งต่างก็พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะหยุดยั้งคนร้ายเพราะเกรงจะไปก่อเหตุอื่นเพิ่มเติมอีก ซึ่งตนยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตำรวจทำตามหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุยังไม่มีญาติของผู้บาดเจ็บมาแจ้งความว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุ ส่วนอาการของ พญ.พิภัทรา ทราบว่าปลอดภัยดี ซึ่งตนได้ไปเยี่ยมอาการและพูดคุยกับมารดาของ พญ.พิภัทราแล้ว

พล.ต.ต.วิชัยกล่าวต่อว่า ส่วนนายธาดาคนร้ายที่ถูกวิสามัญนั้น ทราบจากพี่สาวว่า นาธาดาติดยาบ้ามานาน และจากการผลการตรวจเลือดพบว่ามีการพบสารแอมเฟตามีนในเลือด ซึ่งแม้จะพบว่านายธาดาอาจจะมีความเครียดในเรื่องส่วนตัว แต่ในเบื้องต้นประเด็นที่แน่ชัดในขณะนี้ตำรวจได้ให้น้ำหนักไปในเรื่องของการใช้ยาเสพติด ซึ่งสอดคล้องกับคำให้การของ ร.ต.วิชัย วิไลรัศมี อายุ 63 ปี ข้าราชการบำนาญ เจ้าของรถคัมรี่คันแรก ที่ถูกนายธาดาใช้อาวุธมีดจี้ชิง ซึ่งระบุว่า นายธาดามีลักษณะคล้ายคนเมายา แต่อย่างไรก็ตามตำรวจยังไม่ได้ตัดประเด็นอื่นทิ้ง

ผบก.น.1 กล่าวว่า ในการช่วยเหลือตำรวจของพลเมืองดี อาจจะเป็นในลักษณะของการแจ้งเบาะแส หรือข้อมูลของคนร้าย เนื่องจากตำรวจมีวิธีการดำเนินการสกัดจับคนร้ายอยู่แล้ว แต่หากพลเมืองดีเข้าทำการขัดขวางคนร้ายด้วยตนเองอาจได้รับอันตราย อย่างในกรณีนี้ก็น่าเสียดายพลเมืองดีที่ต้องมาจบชีวิตอย่างนี้

วิสามัญฯ หนุ่มคลั่ง ควงมีดจี้คัมรี่ แย่งปืนฆ่าตำรวจ-แท็กซี่กลางถนน
พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เดินทางเยี่ยม ด.ต.จิโรจน์ บุญทองคำ ผบ.หมู่.จร.สน.พญาไท ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์
กำลังโหลดความคิดเห็น