เจ้าหน้าที่แพร่ภาพกล้องวงจรปิด หนุ่มคลั่งจ้วงแทง-แย่งปืนยิง “ด.ต.ลิขสิทธิ์” ตายคาป้อมจราจร ก่อนถูกวิสามัญฯ ดับ ด้านภรรยาและครอบครัว ไปรอรับศพที่ รพ.วชิรพยาบาลบ่ายวันนี้
ความคืบหน้ากรณี ด.ต.ลิขสิทธิ์ พิลาศรี ผบ.หมู่ จร.สน.ดุสิต ถูก นายธาดา อินทมาศ อายุ 37 ปี หนุ่มคลั่งชิงทรัพย์รถชาวบ้านใช้อาวุธมีดกระหน่ำแทงและแย่งปืนยิงใส่จนเสียชีวิตภายในป้อมควบคุมสัญญาณจราจร แยกขัตติยานี ถนนสุโขทัย เมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ (15 เม.ย.) พ.ต.ต.ประกิจ ไกรหา สว.จร.สน.ดุสิต พร้อม นางเบญจวรรณ พิลาศรี อายุ 38 ปี ด.ช.ประกาศิต หรือ “น้องเก่ง” พิลาศรี อายุ 12 ปี และ ด.ช.ภานุวัฒน์ หรือ “น้องลีโอ” พิลาศรี อายุ 4 ปี ซึ่งเป็นภรรยาและลูกๆ ของ ด.ต.ลิขสิทธิ์ ได้พากันมาติดต่อกับเจ้าหน้าที่แผนกนิติเวช รพ.วชิรพยาบาล เพื่อขอรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีกรรมทางศาสนา อย่างไรก็ตาม เนื่องจากวันนี้ยังเป็นวันหยุดแพทย์ได้แจ้งว่าการผ่าศพของ ด.ต.ลิขสิทธิ์จะแล้วเสร็จในช่วงบ่ายวันนี้
จากการสอบถามนางเบญจวรรณกล่าวว่า ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ตนอยากให้ผู้บังคับบัญชาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ช่วยเหลือด้านการศึกษาของลูกชายทั้ง 2 คน โดยเฉพาะน้องเก่ง ลูกชายคนโตที่สามีวาดหวังไว้อยากจะให้เป็นนายร้อยตำรวจ ส่วนเรื่องเงินช่วยเหลือและเรื่องที่พักอาศัยยังไม่มีใครนำมาให้หรือบอกข้อมูลแต่อย่างใด หลังจากนี้จะนำศพสามีไปตั้งรดน้ำศพที่วัดสุคันธาราม ตอน 17.00 น. ทำพิธีสวดพระอภิธรรมเป็นเวลา 6 คืน ก่อนจะเคลื่อนย้ายไปเข้าพิธีพระราชทานเพลิงศพที่วัดตรีทศเทพต่อไป
ด้าน ด.ช.ประกาศิตกล่าวว่า ต่อไปนี้ตนจะทำหน้าที่ดูแลแม่และน้องๆ อีก 2 คนอย่างดีที่สุด ที่สำคัญต้องตั้งใจเรียนให้มากขึ้นเพื่อสอบเข้าโรงเรียนนายร้อยตำรวจให้ได้ตามความหวังของพ่อ ที่ผ่านมาพ่อเป็นแบบอย่างของตนเป็นคนรักครอบครัวมากจะออกไปทำงานช่วง 6 โมงเช้าของทุกวันและกลับมาที่บ้านพักอีกครั้งประมาณบ่าย 3 โมงหากไม่มีภารกิจอื่นๆ
ขณะที่ พ.ต.ต.ประกิจเปิดเผยว่า ผู้ตายเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่ดีมีน้ำใจ เสียสละ และช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานมาโดยตลอด ก่อนหน้านี้เคยสังกัด บช.ตชด.แล้วย้ายมาลงงานจราจร สน.ดุสิต ตั้งแต่ พ.ศ. 2546 เป็นคนดีเสมอต้นเสมอปลายหากมีงานระดมหรืองานอื่นๆ ที่ต้องใช้กำลังพลเยอะๆ ผู้ตายจะเป็นคนที่มาถึงโรงพักก่อนเวลานัดหมายเสมอ น่าเสียดายที่ต้องมาจบชีวิตรวดเร็วอย่างนี้ ไม่นึกว่าผู้ตายจะพลาดพลั้งเพราะตนก็คอยกำชับผู้ใต้บังคับบัญชายามปล่อยแถวออกปฏิบัติหน้าที่เสมอว่าให้ระมัดระวังตัว
“จากการสอบถามพยานที่เห็นเหตุการณ์ให้ข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุคนร้ายได้จอดรถเก๋งคัมรี่ที่ชิงทรัพย์มาคันแรกบริเวณหน้าป้อมตำรวจ แล้วลงจากรถทำทีเข้าไปสอบถามเส้นทางก่อนจ้วงแทงและแย่งปืนยิงใส่ผู้ตาย คาดว่าเวลานั้นผู้ตายคงไม่ได้เอะใจอะไร เนื่องจากปกติจะมีชาวบ้านมาจอดรถถามเส้นทางที่ป้อมตำรวจจุดนั้นเป็นประจำทั้งวันอยู่แล้ว” พ.ต.ต.ประกิจกล่าว
ทั้งนี้ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ได้เป็นตัวแทนเดินทางไปรับเงินช่วยเหลือครอบครัวของ ด.ต.ลิขสิทธิ์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว จากนั้นจะเดินทางมาร่วมรับศพที่สถาบันนิติเวช รพ.วชิรพยาบาล พร้อมกับครอบครัวของผู้ตาย จากนั้นในเวลา 17.00 น. พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.จะเดินทางไปเป็นประธานพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ที่วัดสุคันธาราม
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้เผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิดใกล้ป้อมตำรวจแยกขัตติยานี ที่สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์หลังจากที่นายธาดาแทง ด.ต.ลิขสิทธิ์ จนถึงแก่ความตายเพื่อแย่งอาวุธปืนประจำกาย ขณะเดียวกันยังมีภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณแยกศรีอยุธยา ซึ่งนายธาดา อินทมาศ คนร้ายได้ขับรถเก๋งคัมรี่พุ่งชนรถคู่กรณี ก่อนถือปืนลงจากรถไปยิงคนขับแท็กซี่พลเมืองดีจนเสียชีวิตอีก 1 ราย
ด้าน นายคาน พิลาศรี อายุ 71 ปี บิดาของ ด.ต.ลิขสิทธิ์ เปิดเผยว่า ตนพักอยู่บ้านพักที่ จ.สุรินทร์ ส่วนลูกชายเข้ามารับราชการในกรุงเทพฯ นานแล้ว ซึ่งตนภูมิใจในตัวลูกชายคนนี้มาก ที่ทำงานเข้ารับราชการตำรวจ และลูกชายรักและทำงานด้วยความตั้งใจขยันขันแข็งและมีวินัยที่ดี ซึ่งลูกชายใฝ่ฝันอยากจะเป็นตำรวจตั้งแต่ยังเด็ก โดยสมัครสอบเข้าเป็นตำรวจ ครั้งแรกก็สอบไม่ติด แต่ก็มีความพยายามจนกระทั่งสอบติดได้ในครั้งที่ 2 ซึ่งตนได้คุยกับลูกชายครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และลูกชายยังบอกว่าช่วงสงกรานต์อยากจะกลับบ้านไปเยี่ยมตน แต่ไม่สามารถกลับได้เพราะต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งปกติลูกชายมักจะโอนเงินให้พ่อใช้จ่ายประจำ เพื่อสร้างบ้านให้พ่ออยู่ที่ จ.สุรินทร์ โดยบ้านใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว และคาดว่าจะเสร็จทันภายในเดือนเมษายนนี้ แต่ก็มาเกิดเหตุเสียก่อน จนกระทั่งในวันเกิดเหตุหลานชายได้โทรศัพท์มาบอกตนว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว
ต่อมาเมื่อเวลา 14.20 น.วันเดียวกัน ที่วัดสุคันธาราม ศพของ ด.ต.ลิขสิทธิ์ พิลาศรี ผบ.หมู่ จร.สน.ดุสิต ถูกนำไปไว้บนศาลา 2 เพื่อรอน้ำหลวงอาบศพ โดยมี พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.และคณะมาเป็นประธานในพิธีรดน้ำหลวงอาบศพ เวลา 17.00 น. ส่วน พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ได้มอบเงินส่วนตัวให้ครอบครัวของ ด.ต.ลิขสิทธิ์ จำนวน 100,000 บาท เงินกองกลางของ บก.น.1 อีกจำนวน 30,000 บาท ด้าน พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า หลังจากนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมอบเงินกองทุนสวัสดิการตำรวจให้แก่ครอบครัวพิลาศรี จำนวน 150,000 บาท และเงินฌาปนกิจอีก 360,000 บาท โดย ผบ.ตร.จะมอบเงินส่วนตัวให้อีก 100,000 บาทด้วย
ขณะเดียวกัน ที่ศาลาธรรมสังเวช วัดสุคันธาราม เป็นที่ตั้งศพของนายอำนาจ พวงสูงเนิน อายุ 34 ปี แท็กซี่พลเมืองดี ที่ถูกนำออกจากสถาบันนิติเวช รพ.รามาธิบดี ตั้งแต่ช่วงเที่ยวแล้วนั้น ทาง พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ได้เข้าไปแสดงความเสียใจต่อญาติๆ ที่มารับศพ ก่อนมอบเงินสดจำนวน 30,000 บาทให้แก่ครอบครัวผู้ตาย เป็นเงินช่วยเหลือในฐานะที่ประกอบความดีแก่สังคม จากการสอบถาม นายชัยยัญ พวงสูงเนิน น้องชายผู้ตาย กล่าวว่า จะมีพิธีรดน้ำศพพี่ชายในช่วงเวลาประมาณ 16.00 น.แล้วจะย้ายศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดสามแยกสีชมพู ต.สีชมพู อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ ตามแบบประเพณีของชาวอีสาน โดยจะมีการสวดศพหนึ่งคืน จากนั้นก็จะนำศพบรรจุเข้าโกดังเก็บศพของทางวัดแล้วมีการสวดบังสุกุลแบบไม่มีศพอีก 2 วัน จากนั้นก็จะเก็บศพไว้อย่างนั้นเป็นเวลา 3 ปี แล้วจึงจะนำออกมาทำพีธีฌาปณกิจอีกครั้งหนึ่ง
แม่เศร้า! รับศพหนุ่มแท็กซี่สุดภูมิใจลูกชายเป็นพลเมืองดีช่วย ตร.จับไอ้คลั่ง
วิสามัญฯ หนุ่มคลั่ง ควงมีดจี้คัมรี่ แย่งปืนฆ่าตำรวจ-แท็กซี่กลางถนน