ตำราเผาเมือง “มาร์ค-เสื้อแดง” ผิดทั้งคู่!

00...ภาพความจริง 19 พฤษภาคม 2553 ได้เกิดเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมือง อันเป็นผลต่อเนื่องจากการชุมนุมของมวลชนคนเสื้อแดง ทำให้ประเทศไทยวันนั้น ได้รับความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง และถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่ผู้กระทำเกิดจากน้ำมือของคนไทย

วันนี้ได้เห็นข่าว “ฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายเสื้อแดง” ได้ออกมายืนยันในข้อเท็จจริงที่ต่างกัน โดยที่ฝ่ายแรกยืนยันว่า คนเสื้อแดงคือผู้เผาเมือง ถึงขั้นเตรียมบรรจุไว้ในตำราเรียน ขณะที่ฝ่ายหลังยืนยันว่าเกิดจากน้ำมือของรัฐบาลที่กระทำและโยนความผิดให้กับคนเสื้อแดง พร้อมเตรียมออกหนังสือตีแผ่ความจริงของคนเสื้อแดง

แต่สำหรับความจริงประเทศไทย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทั้งรัฐบาล “มาร์ค” และฝ่ายคนเสื้อแดง ถือว่าผิดด้วยกันทั้งคู่

ความผิดของรัฐบาล “มาร์ค” คือ ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเหตุการณ์ชุมนุมในครั้งนั้นจะต้องนำไปสู่ความรุนแรง แต่ด้วยความไร้ศักยภาพในการบริหารความขัดแย้งของ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ในบทบาทผู้นำ ที่เขาไม่กล้าตัดสินใจ แต่กลับปล่อยให้เหตุการณ์บานปลาย จนนำไปสู่ความรุนแรง เผาบ้าน เผาเมือง เพราะฉะนั้น นายอภิสิทธิ์จะพูดว่าเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองไม่ใช่ความผิดของตน คงฟังไม่ขึ้น!

ส่วนฝ่ายเสื้อแดง แน่นอน ถือว่าเป็นฝ่ายผู้กระทำ ฝ่ายก่อการ ด้วยการชุมนุมโดยมีกองกำลังติดอาวุธ แกนนำหลายต่อหลายคน ได้ป่าวประกาศเป็นขั้นเป็นตอนว่าหากมีการสลายการชุมนุม หรือแกนนำถูกจับกุม วันใดวันนั้น ไฟจะลุกท่วมทั่วประเทศไทย โดยเฉพาะหัวหน้าม็อบที่ชื่อ “ผีทักษิณ ชินวัตร” ถึงขั้นโผล่หัวประกาศสั่งระดมผู้คนให้ไปพร้อมกันที่ศาลากลางจังหวัด เพื่อหวังทำลายสถานที่ราชการให้ย่อยยับ!

00...22 ก.พ. 2554 คือวันศาลสถิตยุติธรรม อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว 7 แกนนำ นปช.หลังพยานปากสำคัญ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ ที่ “นายอภิสิทธิ์” ตั้งมากับมือ ได้ขึ้นเบิกความยืนยันความดีของ 7 แกนนำต่อศาล ทำให้ศาลเกิดอารมณ์คล้อยตาม สั่งปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อหวังเห็นภาพการปรองดองของคนในชาติเกิดขึ้น

จากวันนั้นถึงวันนี้ ครบ 46 วันเต็ม...ของการปล่อยแกนนำแดง “พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ และนายคณิต ณ นคร” อยู่ไหน? การปรองดองเดินหน้าไปอย่างไร? เพราะหากดูความเคลื่อนไหวของเหล่าแกนนำที่ได้รับการปล่อยตัว ยังไม่เห็นว่าพวกเขาจะปรองดองอะไรเลย

นอกจากนั้น ที่สำคัญได้มีการเคลื่อนไหวเป็นขั้นเป็นตอน เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่มีการคาดการณ์กันว่า หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นจริง และพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง แต่กลับไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล แล้วอะไรจะเกิดขึ้นกับบ้านนี้เมืองนี้อีก วันนั้นสงครามกลางเมืองจะเกิดขึ้นเต็มรูปแบบหรือไม่ และหากหลังเลือกตั้งความวุ่นวายเกิด ผู้นำเหล่าทัพที่ออกมาแถลงข่าว ยืนยันว่า จะไม่มีปฎิวัติ จะกล้าออกมายืนยันอีกไหมว่า พวกท่านจะไม่ปฎิวัติเพื่อหยุดความวุ่นวายหลังเลือกตั้ง!

ส่วนนายอภิสิทธิ์จะต้องรับผิดชอบ ในฐานะตัวการใหญ่สั่งปล่อยแดง แต่การปรองดองล้มเหลว

00...หากพูดถึงผู้นำประเทศไทย คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คงไม่ผิดเพี้ยนหากจะเรียกขานเขาว่า “นายกฯ มหาภัย” เพราะหากย้อนกลับไปดูในวาระที่เขาบริหารประเทศ พบว่า ภัยต่างๆ ได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เริ่มจาก “ภัยกลางเมือง” ที่ประเทศไทย ไม่เคยเกิดเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองที่รุนแรงมากเท่านี้มาก่อน โดยนายอภิสิทธิ์หยุดมันไม่ได้ และปล่อยให้มันได้เกิดขึ้นในยุคนี้ โดยเชื่อสนิทใจว่า ตนเองคือ พระเอก คนก่อการ คือ ผู้ร้าย

“ภัยสงครามระหว่างประเทศ” ที่ประเทศไทย กับกัมพูชา ได้เกิดการสู้รบตามแนวชายแดน โดยที่นายอภิสิทธิ์สามารถที่จะหยุดมันได้ แต่กลับไม่ทำอะไรเลย

“ภัยสินค้าแพง” ที่นับตั้งแต่ก่อตั้งประเทศไทยก็ไม่เคยพบเคยเห็นว่าเกิดราคาสินค้าแพงหูฉี่ เหมือนยุคนายอภิสิทธิ์

สุดท้ายผลกรรมของประเทศไทยในยุคนายอภิสิทธิ์ ทำให้เกิด"ภัยธรรมชาติ"คือเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เกิดขึ้นถึง 2 ครั้ง 2 คราด้วยกัน

โดยที่การแก้ปัญเรื่องภัยต่างๆ ข้างต้น ถือว่าวันนี้ นายอภิสิทธิ์ไม่สามารถแก้ปัญหาได้สักอย่าง เมื่อพบว่า ภัยกลางเมือง แกนนำแดงถูกปล่อยตัว แต่การปรองดองยังไม่เกิด และกลับมีแนวโน้มส่อให้เกิดความรุนแรงหลังเลือกตั้ง

ภัยต่างประเทศ ถือว่าปัญหาไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะปมปัญหาพื้นที่พิพาทเขาพระวิหาร นายอภิสิทธิ์ ก็ไม่ทำอะไร อีกทั้ง มีแนวโน้มที่ประเทศไทยจะสูญเสียดินแดนเกิดขึ้นในยุค นายอภิสิทธิ์

ภัยสินค้าแพง จากวันนั้นถึงวันนี้ ถือว่ารัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ก็แก้ปัญหาไม่ได้ แบบจนปัญญาจริงๆ

สุดท้าย ภัยธรรมชาติ น้ำท่วม ดินถล่ม ประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อน ก็ยังไม่ได้รับการเหยียวยาช่วยเหลือเท่าที่ควรจะเป็น โดยมีหลักฐานยืนยันจากภาพข่าวน้ำเสียงร่ำไห้ของผู้ประสบภัย ที่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เขายังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล

ดังนั้น หากกระทรวงศึกษาธิการเขียนตำราเรียนแดงเผาเมือง ก็น่าจะเติมเต็มเนื้อหาความรู้เรื่องการบริหารความขัดแย้งที่ไร้ประสิทธิภาพของ “นายอภิสิทธิ์” ไว้ด้วยนะครับ!