xs
xsm
sm
md
lg

ดีเอสไอยันนายกฯ ไม่เคยแทรกแซงคดีบุหรี่ 6.8 หมื่นล้าน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ
อธิบดีกรมสอบสวนคดพิเศษโต้พรรคเพื่อไทย ให้ข่าวนายกฯแทรกแซงคดีบุหรี่ของฟิลิป มอร์ริส ยันไม่มีการบีบจากนายกรัฐมนตรี พร้อมชักแม่น้ำทั้ง 5 มาให้เหตุผลถึงการที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง ระบุดีเอสไออยู่ระหว่างพิจารณาความเห็นว่าจะแย้งหรือไม่แย้งอัยการ

วันนี้ (9 มี.ค.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยระบุว่า นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แทรกแซงคดีบริษัท ฟิลิป มอร์ริส (ประเทศไทย) ยูไนเต็ด จำกัด จนสำนักงานอัยการสูงสุด สั่งไม่ฟ้องหลังดีเอสไอดำเนินคดีร่วมกันแสดงราคานำเข้าบุหรี่ยี่ห้อมาร์ลโบโร และแอลแอนด์เอ็ม จากฟิลิปปินส์ ต่ำกว่าปกติทำให้รัฐเสียหายกว่า 6.8 หมื่นล้านบาทว่า นายกรัฐมนตรีไม่เคยแทรกแซงการสั่งคดี แต่เคยกำชับดีเอสไอให้พิจารณาสำนวนคดีบริษัทฟิลิป มอร์ริส ให้ตรงไปตรงมาตามเนื้อหาแห่งคดีเมื่อเดือน ม.ค.

“เรื่องนี้ตัวเลขที่ออกมาไม่ใช่เรื่องที่รัฐสูญเสียรายได้ แต่เป็นรื่องที่การดำเนินคดีที่โดยคิดฐานภาษีที่ต่างกัน ระหว่างคิงเพาเวอร์ที่นำเข้าบุหรี่มาร์ลโบโรจากสิงคโปร์จำนวนไม่มากมาจำหน่ายในดิวตี้ฟรี หรือร้านค้าปลอดภาษี ในราคาซองละ 7 บาท และบุหรี่มาร์ลโบโรล็อตใหญ่ที่บริษัทฟิลิปฯ นำเข้าจากอินโดนีเซีย ราคาซองละเกือบ 20 บาท ซึ่งดีเอสไอในยุคก่อนได้ดำเนินคดีนี้ โดยเอาการนำเข้าบุหรี่ทั้งสองส่วนมาเปรียบเทียบกัน ก่อนเอาผลต่างราคามาคูณกับจำนวนซอง ก็ออกมาเป็นตัวเลข 6.8 หมื่นล้าน ซึ่งขัดต่อข้อตกลงว่าด้วยภาษีศุลกากรและการค้า หรือ GATT ที่ห้ามไม่ให้นำสินค้าที่ผลิตคนละประเทศมาเปรียบเทียบกัน เพราะจะมีความแตกต่างเรื่องใบยาและเนื้อยาสูบ และห้ามไม่ให้นำราคาของคนละช่องทางการจำหน่ายมาเทียบกัน ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ประเทศไทยแพ้บริษัทฟิลิปมอริสฯ ในองค์การการค้าโลก หรือ WTO และเป็นประเด็นสำคัญที่อัยการสั่งไม่ฟ้องคดี” นายธาริตกล่าว

อธิบดีดีเอสไอยังกล่าวถึงเรื่องการทำความเห็นแย้ง หลังอัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องคดีว่า ดีเอสไออยู่ระหว่างตรวจสอบ โดยมีสองแนวทาง คือเห็นด้วย หรือเห็นแย้งกับอัยการ ซึ่งหากเห็นด้วยคดีก็จะยุติ แต่ถ้าเห็นแย้งก็ต้องส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดชี้ขาดต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น