จับหนุ่มปากีฯซุกยาไอซ์ในพื้นรองเท้า 1 กก.

รวบหนุ่มปากีสถานซุกยาไอซ์ในกระเป๋าเดินทางหิ้วเข้าไทย แถมซ่อนไว้ในถุงกระเป๋าเสื้อ และพื้นรองเท้าทั้งสองข้าง ยึดของกลาง 1 กิโลกรัม เจ้าตัวรับสารภาพ เพิ่งเข้ามาเมืองไทยครั้งแรก ได้ค่าจ้าง 1,000 ดอลลาร์ กะนำไปขายนักท่องเที่ยวห้วยขวาง ทองหล่อ

วันนี้ (9 ก.พ.) เมื่อเวลา 15.00 น.นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมศุลกากร พร้อมด้วย นายวิศาล วุฒิศักดิ์ศิลป์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบทางศุลกากร นายเสรี ไทยจงรักษ์ ผอ.สำนักสืบสวนและปราบปราม นายวรพัฒน์ เชาว์วิศิษฎ ผอ.การสืบสวนปราบปราม 3 และ นายคณิต วัฒน์ธนนันท์ หัวหน้าฝายสืบสวนปราบปราม 1 แถลงการจับกุม นายอารี ฟาแมน (Mr.Ali Farman) อายุ 23 ปี ชาวปากีสถาน พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) จำนวน 1 กิโลกรัม และกระเป๋าเดินทางสีน้ำเงิน, รองเท้าหนัง 1 คู่ ซึ่งของกลางเหล่านี้ใช้เป็นที่ซุกซ่อนยาไอซ์ชนิดผงป่นสีขาว ซึ่งมองด้วยตาเปล่าคล้ายกับผงเฮโรอีน

นายประสงค์ กล่าววว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากนโยบาย และการควบคุม และป้องกันสังคมอย่างเคร่งครัด จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนและปราบปรามประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เข้มงวดสกัดกั้นเป็นพิเศษ ซึ่งผลดำเนินการสามารถจับกุมชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวแขกขาว ชาวอิหร่าน และชาวปากีสถาน ลักลอบขนยาไอซ์เข้ามาแทบทุกวัน

สำหรับผู้ต้องหารายนี้สามารถจับกุมได้เมื่อเวลา 08.15 น.ซึ่งเจ้าหน้าที่ศุลกากร ได้แสดงการตรวจค้น นายอารี ผู้ต้องหา ซึ่งเดินทางกลับมาด้วยสายการบินไทยแอร์เวย์ มาจากเมืองการาจี ประเทศปากีสถาน ปลายทางที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และจากการตรวจค้นกระเป๋าสัมภาระ และตรวจค้นตามร่างกาย พบว่า มีการซุกซ่อนยาไอซ์ไว้ที่พื้นรองเท้าทั้งสองข้าง และมีการเหน็บไว้ตามซอกกระเป๋าเดินทาง และในถุงกระเป๋าเสื้อ ซึ่งมีลักษณะรวมกัน 1 กิโลกรัม

ขณะที่ นายอารี ให้การรับสารภาพว่า เพิ่งเดินทางเข้ามาประเทศไทยเป็นครั้งแรก ได้ค่าจ้างในการขนยาไอซ์ เป็นเงิน 1,000 ดอลล่าร์ ซึ่งปกติมีอาชีพเป็นช่างตัดเย็บเสื้อผ้าอยู่ที่ประเทศปากีสถาน เมื่อเดินทางมาที่ประเทศไทยแล้ว ก็จะมีการติดต่อคนมารับชื่อ นายซันนี อับดุลลาห์ (Mr.Sunny Adula) ซึ่งเป็นชาวปากีสถานเหมือนกัน โดยจะนำไปขายให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ตามสถานบันเทิงต่างๆ ในย่านสีลม ห้วยขวาง ทองหล่อ เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์ ไว้ครอบครองเพื่อจำหน่าย และนำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต) ก่อนจะนำตัวพร้อมของกล่างส่งพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เพื่อดำเนินการสอบสวนขยายผลเครือข่ายต่อไป

ทั้งนี้ กรมศุลกากร ได้จัดทำสถิติปีงบประมาณ 2554 ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.53 จนถึงปัจจุบัน ทางกรมศุลกากร สามารถจับกุมผู้ที่ลักลอบขนยาเสพติด ผ่านทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 23 คดี มูลค่าประมาณ 134,492,500 บาท โดยสามารถจับยาไอซ์ได้ 10 คดี น้ำหนัก 33.95 กิโลกรัม ,ยาแก้หวัดที่มีส่วนผสมของ ซูโดอีนเฟดีน จำนวน 3 คดี เป็นมูลค่า 20,296,000 บาท, เฮโรอีน จำนวน 2 คดี น้ำหนัก 1.550 กิโลกรัม, กัญชา จำนวน 5 คดี น้ำหนัก 38.4 กิโลกรัม, วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท (อีเฟดีน) จำนวน 2 คดี น้ำหนัก 1.745 กิโลกรัม, วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ซูโดอีนเฟดีน จำนวน 1 คดี น้ำหนัก 1 กิโลกรัม