เจ้าหน้าที่ศุลกากรจับกุม 2 คนไทยลักลอบขนแก๊สหุงต้มไปยังกัมพูชา มูลค่าถึง 1 ล้านบาท
วันนี้ (10 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กรมศุลกากร นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมศุลกากร แถลงการจับกุมแก๊สหุงต้มบรรจุถังเหล็กลักลอบส่งออกไปยังประเทศกัมพูชา ขนาดน้ำหนักถังละ 48 กิโลกรัม จำนวน 315 ถัง มูลค่ากว่า 1,000,000 บาท โดยจับกุมได้ที่บริเวณหน้าวัดหนองเสม็ด ม.3 ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว
นายประสงค์เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 17.30 น.ของวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนปราบปรามที่ 2 ส่วนสืบสวนปราบปราม 1 สำนักสืบสวนปราบปราม กรมศุลกากร ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรอรัญประเทศ สำนักงานศุลกากรภาคที่ 1 ทำการตรวจค้นรถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 80-9963 สระแก้ว และรถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีฟ้า หมายทะเบียน 81-15556 สระแก้ว ซึ่งมีนายประเสริฐ พุฒทอง และนายชินวร เพ็ชรสิน เป็นผู้ขับขี่ ที่บริเวณหน้าวัดหนองเสม็ด ม.3 ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ห่างจากชายแดนไทย-กัมพูชา ประมาณ 3 กิโลเมตร ขณะที่ทั้งคู่กำลังจะขับรถบรรทุกมุ่งหน้าไปชายแดนไทย-กัมพูชา
นายประสงค์กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบภายในรถบรรทุกทั้ง 2 คัน เจ้าหน้าที่พบแก๊งหุงต้มบรรจุถังเหล็ก ระบุแหล่งผลิตในประเทศกัมพูชา ขนาดน้ำหนักถังละ 48 กิโลกรัม จำนวน 315 ถัง มูลค่ากว่า 1,000,000 บาท จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนมาสอบปากคำ โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การรับสารภาพว่ากำลังจะลักลอบขนแก๊สหุงต้มทั้งหมดส่งออกไปยังประเทศกัมพูชา โดยนัดส่งมอบกันที่บริเวณชายแดน
นายประสงค์กล่าวด้วยว่า รัฐบาลต้องใช้เงินภาษีของประชาชน เพื่อตรึงราคาแก๊สหุงต้มให้คนไทยใช้ในราคาถูกประมาณ 19.38 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ก็ถือว่าสามารถป้องกันการสูญเสียเงินภาษีในการอุดหนุนประมาณ 300,000 บาท ที่เกิดความเสียหายแก่รัฐได้ด้วย ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาพยายามลักลอบและนำพาหรือพาของที่ยังไม่ได้เสียค่าภาษีหรือของต้องห้ามของต้องจำกัด หรือของที่ยังไม่ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องออกนอกราชอาณาจักรต่อผู้ต้องหาทั้งสองคน ก่อนนำตัวไปดำเนินคดีต่อไป