เจ้าหน้าที่ศุลกากรจับกุมงาช้างจากโมซัมบิก เตรียมส่งต่อไปลาว ได้ของกลาง 69 กิ่ง 4 ท่อน รวม 73 ชิ้น มูลค่าราว 10 ล้านบาท
วันนี้ (6 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่กรมศุลกากร นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมศุลกากร นายวิศาล วุฒิศักดิ์ศิลป์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร นายเสรี ไทยจงรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนปราบปราม กรมศุลกากร แถลงการจับกุมงาช้าง และขยะอิเล็กทรอนิกส์ มูลค่ากว่า 11 ล้านบาท
นายประสงค์เปิดเผยว่า วานนี้ (5 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ศุลกากรฝ่ายสืบสวนปราบปรามที่ 2 ส่วนสืบสวนปราบปราม 3 สำนักสืบสวนและปราบปราม ได้ร่วมกันตรวจสอบสินค้าตามใบตราส่งเลขที่ 068 0389 3411 จำนวน 2 ลัง ที่สำแดงว่าเป็นสินค้าของใช้ส่วนตัวน้ำหนัก 435 กิโลกรัม ซึ่งถูกส่งมาจากประเทศโมซัมบิก ขณะกำลังทำการถ่ายลำที่คลังสินค้าการบินไทย จำกัด เพื่อส่งต่อไปยังประเทศลาว ก็ปรากฏว่าพบงาช้างจำนวน 69 กิ่ง 4 ท่อน รวมทั้งสิ้น 73 ชิ้น มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท จึงยึดไว้เป็นของกลาง เนื่องจากเป็นของห้ามนำเข้าตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ (CITES) และความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535
นายประสงค์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.53 เจ้าหน้าที่ส่วนสืบสวนปราบปราม 2 ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานศุลกากรท่าเรือ ตรวจสอบสินค้าขาออกของบริษัท ซีบี รุ่งเรืองผล 2003 จำกัด ที่สำแดงว่าเป็นเศษชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ น้ำหนัก 45,000 กิโลกรัม จำนวน 3 ตู้คอนเทนเนอร์ มีปลายทางประเทศจีน แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่พบชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์เก่าใช้แล้วจำนวนมาก มูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท จึงยึดไว้เป็นของกลาง เนื่องจากเป็นสินค้าอันตรายตามประกาศกระทรวงอุตสากรรม เรื่องบัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย พ.ศ.2546 และเป็นของควบคุมการส่งออก ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535
นายประสงค์กล่าวด้วยว่า กรณีดังกล่าวเป็นความผิดฐานสำแดงเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงนำของต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นความผิดตามมาตรา 99, 27 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 ประกอบมาตรา 16, 17 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2482 และความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ประกอบกับอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ (CITES) และพ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดของกลางไว้เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (6 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่กรมศุลกากร นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมศุลกากร นายวิศาล วุฒิศักดิ์ศิลป์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร นายเสรี ไทยจงรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนปราบปราม กรมศุลกากร แถลงการจับกุมงาช้าง และขยะอิเล็กทรอนิกส์ มูลค่ากว่า 11 ล้านบาท
นายประสงค์เปิดเผยว่า วานนี้ (5 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ศุลกากรฝ่ายสืบสวนปราบปรามที่ 2 ส่วนสืบสวนปราบปราม 3 สำนักสืบสวนและปราบปราม ได้ร่วมกันตรวจสอบสินค้าตามใบตราส่งเลขที่ 068 0389 3411 จำนวน 2 ลัง ที่สำแดงว่าเป็นสินค้าของใช้ส่วนตัวน้ำหนัก 435 กิโลกรัม ซึ่งถูกส่งมาจากประเทศโมซัมบิก ขณะกำลังทำการถ่ายลำที่คลังสินค้าการบินไทย จำกัด เพื่อส่งต่อไปยังประเทศลาว ก็ปรากฏว่าพบงาช้างจำนวน 69 กิ่ง 4 ท่อน รวมทั้งสิ้น 73 ชิ้น มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท จึงยึดไว้เป็นของกลาง เนื่องจากเป็นของห้ามนำเข้าตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ (CITES) และความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535
นายประสงค์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.53 เจ้าหน้าที่ส่วนสืบสวนปราบปราม 2 ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานศุลกากรท่าเรือ ตรวจสอบสินค้าขาออกของบริษัท ซีบี รุ่งเรืองผล 2003 จำกัด ที่สำแดงว่าเป็นเศษชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ น้ำหนัก 45,000 กิโลกรัม จำนวน 3 ตู้คอนเทนเนอร์ มีปลายทางประเทศจีน แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่พบชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์เก่าใช้แล้วจำนวนมาก มูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท จึงยึดไว้เป็นของกลาง เนื่องจากเป็นสินค้าอันตรายตามประกาศกระทรวงอุตสากรรม เรื่องบัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย พ.ศ.2546 และเป็นของควบคุมการส่งออก ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535
นายประสงค์กล่าวด้วยว่า กรณีดังกล่าวเป็นความผิดฐานสำแดงเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงนำของต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นความผิดตามมาตรา 99, 27 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 ประกอบมาตรา 16, 17 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2482 และความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ประกอบกับอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ (CITES) และพ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดของกลางไว้เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
