xs
xsm
sm
md
lg

ตร.แถลงซ้ำยึดอาวุธสงครามเตรียมบึ้ม พธม.-ผู้ต้องหาสารภาพส่อพิรุธจัดฉากจับกุม!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

เจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางมาแถลงข่าว
นครบาลแถลงซ้ำ ขณะที่ 5 หนุ่มเตรียมอาวุธสงครามก่อเหตุป่วนชุมนุมพันธมิตรฯ ปฏิเสธไม่ใช่การ์ด นปช. สารภาพเตรียมอาวุธวางรอบทำเนียบฯ พื้นที่ชุมนุมพันธมิตรฯ ตั้งใจวางระเบิดแบบตั้งเวลา ดินระเบิดเป็นทีเอ็นที แสวงเครื่องใช้โทร.มือถือควบคุมระเบิด อ้างไม่มีใครสั่งให้ทำ เพียงต้องการเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ย้ำของที่เอามาก่อเหตุเพื่อนขับวิน จยย.ด้วยกันฝากไว้นานแล้ว อ้างแค่อยากให้มีเสียงดัง มีควันขึ้นเท่านั้น ขณะที่ตำรวจงานกู้ระเบิดเผยอาวุธที่พบมีใช้ในกองทัพด้วย ระเบิดชุดแรกประกอบกับระเบิดทีเอ็นที รัศมีทำลายถึงขั้นทำให้เสียชีวิต ใช้เวลาประกอบ 3 นาที มีวงจรที่คล้ายกับการระเบิด 4 จุดสำคัญก่อนหน้านี้


วันนี้ (25 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 (ผบก.น.6) แถลงการจับกุม นายธวัชชัย หรือดำ เอี่ยมนาค อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 784 ถ.เจริญนคร แขวงบางลำพูล่าง เขตคลองสาน กทม., นายดร มาตา อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 143 ม.3 ต.นาแส่ง อ.เกาะคา จ.ลำปาง, นายนพคุณ ศรีวงศ์มงคล อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37 ซ.พระราม 2 ซอย 69 แยก 2-8 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม., นายวิวัฒน์ หรือเซี๊ยะ วัฒนสกุลยิ้ม อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79/125 ซ.ศิลปเดช ถ.จอมทอง แขวงบางค้อ เขตบางขุนเทียน กทม. และนายมานัส รันรัตน์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77/2 ต.ท่าช้าง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลาง เครื่องยิงอาร์พีจี 1 กระบอก, ลูกยิงอาร์พีจี จำนวน 3 นัด, ดินขับ 3 ชุด, ตัวชนวน 4 อัน, กระสุนซ้อมยิงใช้กับปืน ขนาด 20 มม.จำนวน 2 นัด, ลูกระเบิดขนาด 40 มม. เป็นแบบลูกปราย 3 นัด แบบเจาะเกราะ 4 นัด แบบสังหาร 27 นัด ซึ่งใช้กับ เอ็ม 79, กระสุนขนาด 7.62 ใช้กับปืนอาก้า 23 นัด, กระสุนขนาด 5.56 ใช้กับเอ็ม 16 จำนวน 115 นัด, กระสุนแบบเอ็ม 60 ขนาด 7.62 จำนวน 35 นัด, กระสุนปืนคาร์บิน 117 นัด และรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีเขียว ทะเบียน บท-4330 ลำปาง

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลา 17.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายธวัชชัยได้ที่สี่แยกสวนมิสกวัน ถนนราชดำเนินนอก แขวงและเขตดุสิต กทม. โดยอยู่ในพื้นที่ สน.ดุสิต พร้อมระเบิดแสวงเครื่องซึ่งจุดระเบิดเป็นแบบใช้การตั้งเวลา ดินระเบิดเป็นทีเอ็นที โดยระเบิดแสวงเครื่องยังไม่ได้ประกอบ มีพลุส่องสว่าง ประกอบกับเชื้อประทุไฟฟ้า, โทรศัพท์มือถือโนเกีย รุ่น 3310 โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโมบาย พร้อมซิมการ์ด หมายเลข 082-342-9446 จำนวน 1 เครื่องและรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นนูโว ทะเบียน ลยบ-676 กรุงเทพมหานคร ซึ่งใช้เป็นยานพาหนะ เบื้องต้นแจ้งข้อหามีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลจับกุม นายดร, นายนพคุณ, นายวิวัฒน์ และนายมานัส พร้อมของกลางทั้งหมดได้ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ในตลาดนัดกลางซอยพระราม 2/28 แขวงและเขตจอมทอง กทม. ในพื้นที่ สน.บางมด เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันมีวัตถุระเบิดไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

พล.ต.ต.สุเมธกล่าวว่า ชุดของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา (สบ 10) พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. พล.ต.ต.อิทธิพล และพล.ต.ต.สุวัฒน์ สืบทราบว่าจะมีกลุ่มคนร้ายจ้องก่อความไม่สงบในบ้านเมือง โดยเมื่อวานที่ผ่านมา (24 ม.ค.) ตรวจสอบพบคนร้ายมีพฤติกรรมน่าสงสัยและมีท่าทางพิรุธตำรวจจึงเข้าตรวจค้นตัวผู้ต้องหาพร้อมกับพบระเบิดดังกล่าว โดยคาดว่ากลุ่มคนร้ายเหล่านี้จะมาก่อเหตุในพื้นที่การชุมนุม จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บกู้วัตถุระเบิด ใช้ปืนยิงแรงดันน้ำสูงทำลายวงจรแผงระเบิดเพื่อไม่ให้เกิดการระเบิด พบเป็นระเบิดแสวงเครื่องชนิดแบบการตั้งเวลา ดินระเบิดเป็นทีเอ็นทีจำนวน 1 ลูก และระเบิดแสวงเครื่อง ชนิดจุดระเบิดโดยการโทรศัพท์ จำนวน 1 ชุด ประกอบด้วยพลุส่องสว่าง ประกอบกับเชื้อปะทุไฟฟ้า จำนวน 1 ชิ้น พร้อมโทรศัพท์มือถือโนเกีย 3310 จำนวน 1 เครื่อง ก่อนขยายผลจับกุมได้ทั้งหมด โดยหลังจากนี้จะสืบสวนขยายผลต่อไป

จากการสวนสวนนายธวัชชัยให้การว่า มีคนรู้จักชื่อ “พล” นำอาวุธทั้งหมดมาฝากไว้ให้ โดยรู้จักกันจากการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ผ่านมา ซึ่งระเบิดที่พบตนเตรียมมาวางรอบทำเนียบรัฐบาล หรือรอบพื้นที่การชุมนุมของกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ และพันธมิตรฯ ที่จะมาชุมนุม เพราะมีแนวความคิดตรงข้ามกันกับตน โดยก่อนถูกจับกุมตนตั้งใจวางระเบิดแบบตั้งเวลา ดินระเบิดเป็นทีเอ็นที จำนวน 1 ลูก ซึ่งจะตั้งเวลาประมาณ 30 นาที ส่วนระเบิดแสวงเครื่องอีกชุดที่ใช้โทรศัพท์มือถือจะหาที่วาง ก่อนใช้โทรศัพท์มือถือโทรเข้าเพื่อให้เกิดการระเบิดแต่ถูกจับกุมเสียก่อน

นายธวัชชัยกล่าวต่อไปว่า สำหรับการต่อวงจรระเบิดพอจะมีความรู้บ้าง โดยใช้นาฬิกาในการสลับไฟ ส่วนโทรศัพท์มือถือที่พบจะใช้ต่อกับทีเอ็นที สำหรับเหตุผลไม่มีใครใช้ให้มาวาง แต่อยากให้เกิดมีความเปลี่ยนแปลงในบ้านเมือง

ผู้สื่อข่าวถามว่า อยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลง แต่ทำไมต้องใช้ความรุนแรง นายธวัชชัยกล่าวว่า ตนไม่ได้เลือกว่าต้องใช้ความรุนแรง ไม่ได้อยากให้ใครเจ็บ ตาย แค่ต้องการให้เกิดเสียงเกิดควันเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้ถามต่อไปว่าแต่จุดที่ไปวางมีคนพลุกพล่านไม่กลัวจะมีคนเสียชีวิตหรือ นายธวัชชัยกล่าวว่า ตอนแรกจะเลี่ยงไปทางน้ำพุ แต่ไปไม่ได้ เพราะมีแผงเหล็กกั้นอยู่ ตนกลับรถไม่ได้ก็ขี่ไปเรื่อยๆ ไมได้ตั้งใจว่าจะไปที่ไหน

ส่วนกรณีที่ทำไมจึงคิดว่าถ้าใช้ความรุนแรงแล้วจะมีการเปลี่ยนแปลงนั้น นายธวัชชัยกล่าวว่า หากพูดดีๆ คือ พวกตนแสดงความคิดเห็นก็ไม่มีประโยชน์ ไปขอร้องตามหลักประชาชนที่แสดงความคิดเห็นก็ไม่มีอะไร ส่วนของที่เอามาก็ไม่ใช่ของตน แต่มีคนมาฝากไว้ ของชุดนี้อยู่กับตัวก็กลัว หากตนส่งให้ตำรวจ คืนให้โรงพักก็โดนจับ

ผู้สื่อข่าวถามว่าที่รับฝากอ้างว่าจากคนชื่อพล ไม่กลัวถูกตำรวจจับหรือ นายธวัชชัยกล่าวว่า ตนไม่คิดว่าจะฝากไว้นานขนาดนี้ ตอนแรกไม่รู้ว่าเป็นอะไร ฝากมา 4-5 เดือนแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้จักกับคนชื่อพลได้อย่างไร นายธวัชชัยกล่าวว่า มาจากการเจอกันที่ชุมนุม ช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม ซึ่งได้ไปร่วมด้วยเป็นครั้งคราว แต่ไม่ได้เป็นการ์ด นปช.

ส่วนจะมีผลกระทบจากการสลายการชุมนุมใช่หรือไม่จึงทำให้เจ็บช้ำจนก่อเหตุนั้น นายธวัชชัยกล่าวว่า ได้รับ ซึ่งรถตนก็โดนยึดไป

ผู้สื่อข่าวถามด้วยว่า มาเดี๋ยวตนก็โดน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และไม่กลัวหรือ เพราะที่สมานเมตตาแมนชั่น ที่อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ระเบิดมีคนตาย นายธวัชชัยกล่าวว่า ก็รู้ กลัว บ้านตนมีลูกเล็กๆ จึงไปฝากไว้บ้านเพื่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความรู้เรื่องโทรศัพท์หรือไม่ นายธวัชชัยกล่าวว่า ก็เคยทำงานร้านโทรศัพท์กับเพื่อนมา ก็ซ่อมได้ แต่อยู่ไม่นานก็พอจะรู้เรื่องวงจร

“ออกข่าวแบบนี้เขาจะได้รู้ว่าผมเอาของออกมาแล้ว พอฝากไว้ก็ไม่มาเลย จึงเอาไปฝากบ้านนายดรไว้ เพราะบ้านผมมีลูกเล็ก โดยทั้งหมดนายพลฝากไว้ แต่เอาออกมาและโดนจับแค่ 2 อัน ส่วนหนึ่งก็เพราะกลุ่มพันธมิตรฯ มาชุมนุม ผมแค่อยากให้มีเสียงดัง มีควันขึ้นเท่านั้น เพราะผมไม่ได้ใส่สะเก็ดระเบิด เป็นแค่เสียงกับควัน” นายธวัชชัยกล่าว

ด้าน นายดรกล่าวว่า ของทั้งหมดพี่ดำมาฝากไว้ให้ ตอนที่มาฝากก็ทราบว่าเป็นอาวุธ ซึ่งรู้จักกัน เพราะขับวินมอเตอร์ไซค์ด้วยกันก็ไว้ใจกัน แต่ก็รู้จักกันไม่นาน ส่วนอีก 3 คนนี้ไม่รู้เรื่อง อยากดูของก็เลยเข้าไปดูว่าเป็นยังไง พอดีตำรวจเข้าไปจับกุมพอดี ซึ่งตนไม่ได้มีความคิดจะไปใช้ก่อเหตุ เพราะตนใช้ไม่เป็น ซึ่งตนอยากจะเอาไปทิ้งในป่า

ผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมจึงเริ่มมีความคิดว่าจะเอาไปทิ้ง นายดรกล่าวว่า กลัว เพราะได้ยินข่าวว่าจะมีการรื้อตรวจค้นบ้านหาสิ่งผิดกฎหมาย เลยตั้งใจจะไปทิ้งในป่า ทิ้งที่ไกลๆ ไม่มีผู้คน

ด้าน พ.ต.ท.กำธร อุ่ยเจริญ รองผกก.งานเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) กล่าวว่า ระเบิดแสวงเครื่องที่พบทั้งหมดของนายดำทั้ง 2 ชุด เป็นระเบิดแสวงเครื่อง ประกอบวัตถุระเบิดแรงสูงชนิด ทีเอ็นทีแบบตั้งเวลา ซึ่งชุดนี้ชุดเก็บกู้ได้ใช้ปืนยิงทำลายซึ่งน้ำหนักครึ่งปอนด์ ระยะทำลาย 10-30 เมตร ส่วนอีกชุดที่จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือประกอบกับพลุส่องสว่าง แต่ตัวนี้ยังไม่มีการประกอบ ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นของกลางที่พบเป็นวงจรที่มีความคล้ายคลึงกับการพบระเบิด 4 จุดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร คือ 1.วันที่ 3 เม.ย. 53 พบระเบิดบริเวณกองขยะข้างสำนักงานองค์การโทรศัพท์ ซึ่งมีการระเบิด 2 จุด ท้องที่ สน.นางเลิ้ง 2.วันที่ 25 ก.ค.53 บริเวณป้ายรถเมล์บิ๊กซี สาขาราชดำริ ซึ่งมีการระเบิดแล้ว ท้องที่ สน.ลุมพินี 3.วันที่ 7 เม.ย. 53 เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเก็บกู้วัตถุระเบิดได้บริเวณใต้ถนนกาญจนาภิเษก ฝั่งตะวันออก บริเวณหน้าห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ ท้องที่ สน.บางชัน และ 4.พบระเบิดภายในรถยนต์ฮอนด้าซีวิค สีขาว พร้อมใช้งาน ท้องที่ สน.โคกคราม ซึ่งวัตถุพยานใกล้เคียงกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า วงจรที่พบเชื่อมโยงกับที่สมานเมตตาแมนชั่นหรือไม่ พ.ต.ท.กำธรกล่าวว่า ไม่ตรงกัน ซึ่งตรงในพื้นที่ สน.โคกคราม บิ๊กซีราชดำริ

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดปีใหม่ 2549 ขึ้นปี 2550 หรือไม่ พ.ต.ท.กำธรกล่าวว่า ทราบแค่นี้ ในเบื้องต้น

ส่วนที่มาของระเบิดมาจากแหล่งใด พ.ต.ท.กำธรกล่าวว่า เบื้องต้นที่ได้ดูของกลางกำลังตรวจสอบรายละเอียดที่มาว่าเป็นมาอย่างไร ซึ่งระเบิดชุดแรกที่ประกอบกับระเบิดทีเอ็นที แบบตั้งเวลา พบมีรัศมีทำลาย 10-30 เมตร โดยมี 10 เมตรที่รุนแรงถึงขั้นทำให้เสียชีวิต ซึ่งในชุดที่พบใช้เวลาประกอบจริงๆ เพียง 3 นาทีก็สามารถไปวางใช้ได้เลย

“สำหรับกลุ่มคนที่จะทำระเบิดประเภทนี้จะต้องมีความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากต้องมีความรู้เบื้องต้นด้านวงจรพอสมควร เพราะหากไม่ชำนาญประกอบแล้วก็อาจเกิดอันตรายได้ น่าจะมีความรู้ในเบื้องต้น จากที่ทราบคือเห็นและเอาไปประกอบดู ก็สามารถทำได้ ซึ่งตำรวจจะต้องเก็บหมายเลขระเบิดที่สลักบนระเบิดไปตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งเพื่อหาที่มาของระเบิดต่อไป ซึ่งอาวุธที่พบมีใช้ในกองทัพด้วย” รอง ผกก.เก็บกู้วัตถุระเบิด กล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมผู้ต้องหาทั้งหมดไปสอบสวนอีกครั้ง จากนั้นจะนำนายธวัชชัยส่งพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต เพื่อทำการฝากขัง ส่วนอีก 4 คนที่เหลือจะนำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางมด ดำเนินคดีต่อไป

รวบ 5 การ์ด นปช.เตรียมป่วนบึ้ม พธม. ตะลึงพบระเบิด-อาร์พีจี-เอ็ม 79 เพียบ!

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ให้สัมภาษณ์  

ผู้ต้องหา อ้างมีคนฝากของกลางไว้ เลยนำมาใช้เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ประกอบกับพันธมิตรฯ ออกมาชุมนุมด้วย










กำลังโหลดความคิดเห็น