“พงศ์พัฒน์” เซ็นคำสั่งเด้งผู้กำกับ และ 2 ดาบตำรวจ สังกัด ปคม.มีพฤติกรรมรีดไถร้านอาหาร-ข่มขู่อุ้มวิสามัญนักธุรกิจ จนเหยื่อเกิดความกลัวต้องหนีไปต่างประเทศ เพื่อให้ไปช่วยราชการตำรวจน้ำ-รถไฟ-ท่องเที่ยวเป็นเวลา 90 วัน พร้อมตั้งกรรมการสืบข้อเท็จจริง ส่ง ป.ป.ช.ดำเนินการต่อไป
วันนี้ (22 ม.ค.) ที่กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (บก.ปปป.) เมื่อเวลา 12.00 น. พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ ผบช.ก. กล่าวถึงกรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.มีนโยบายสอดคล้องกับ บช.ก.ที่ว่าไม่ให้ตำรวจรังแกประชาชน ให้ตำรวจหยุดรุมทึ้งประชาชน โดยเฉพาะต่อคนยากไร้ และให้ตำรวจทำหน้าที่ให้ถูกต้อง แต่ปรากฏว่ายังมีตำรวจบางนายกระทำผิดซ้ำซาก ไม่สมควรที่จะรับราชการอีกต่อไป โดยไปเรียกรับผลประโยชน์จากประชาชน ซึ่งมีการร้องเรียนตามสื่อ และการสืบสวนทางลับของจเรตำรวจได้ข้อมูลตรงกันว่ามีนายตำรวจระดับสูงเข้าไปเกี่ยวข้องในการประพฤติผิดจริง ทาง บช.ก.จึงยืนยันดำเนินคดีตามหลักฐานทั้งในอาญาและวินัยอย่างเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์กล่าวต่อว่า ในการสืบสวนดำเนินการต่อ ผกก.ในหน่วยงาน บช.ก.ที่ได้สืบสวนทางลับ ได้ประเด็นตรงกันว่าตำรวจชั้นผู้ใหญ่ท่านนั้นเข้าไปเกี่ยวข้องจริงตามที่มีเจ้าทุกข์ร้องเรียนมาที่จเรตำรวจ ข้อหาเรียกรับสินบน บังคับขู่เข็ญเจ้าทุกข์ จึงให้มีคำสั่งออกจากตำแหน่งเดิมไปก่อน ให้ไปช่วยราชการกองบังคับการอื่น ซึ่งเป็นการลงโทษทางการปกครอง ทางวินัย ซึ่งหากสอบแล้วพบผิดวินัยร้ายแรงจริงก็ว่ากันไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ผบช.ก.กล่าวอีกว่า แต่ด้วยหลักสิทธิมนุษยชนทำให้การดำเนินการต่อนายตำรวจผู้ใหญ่ท่านนั้นต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะเขาอาจไปร้องต่อศาลปกครองได้ จากนั้นได้นำเอกสารขนาด เอ 4 ข้อความ “ผบช.ก.สั่งฟัน ผกก.คนดัง ตัวดำ อาร์มสวย” ในกรณีที่มีการร้องเรียนและสืบสวนเกี่ยวกับ ผกก.ใน บช.ก.นี้ ทางจเรตำรวจได้สืบสวน และทาง บช.ก.ก็ได้สืบสวน ได้ผลไปทำนองเดียวกันว่า มีการกระทำผิดจริง และมีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง เพื่อให้ข้อเท็จจริงปรากฏอย่างรวดเร็วถูกต้อง ซึ่งทาง บช.ก.มั่นใจในพยานหลักฐาน ตนจึงออกคำสั่งให้พ้นจากหน้าที่ในตำแหน่งไว้ก่อน ในเบื้องต้นมีการสืบสวนข้อเท็จจริงและมีการร้องทุกข์กล่าวโทษทางอาญาไว้อีกส่วนหนึ่ง รวมทั้งการตรวจสอบของจเรตำรวจอีกส่วนหนึ่ง สำหรับการสืบสวนข้อเท็จจริงในทางลับของ บช.ก.เอง ได้สั่งให้ ผกก.ปปป.ดำเนินการโดยด่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายตำรวจที่ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ กล่าวถึงนั้น คือ พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ผกก.3 ปคม. ที่ถูกร้องเรียนว่าเรียกรับสินบน และข่มขู่เจ้าทุกข์ อีกทั้งข่มขู่วิสามัญฯ นักธุรกิจ และผู้ประกอบการร้านอาหาร จนเกิดความหวาดกลัวต้องหลบหนีไปต่างประเทศ ในพื้นที่ สภ.พระธาตุพนม จ.นครพนม จึงสั่งย้าย พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ไปช่วยราชการที่กองบังคับการตำรวจน้ำ (บก.รน.) ส่วน ด.ต.ศรีสุวรรณ วงษ์คีรี ไปช่วยราชการที่กองบังคับการตำรวจรถไฟ ด.ต.สถาพร ศรีไลรัมย์ กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว (บก.ทท.) เป็นเวลา 90 วัน ซึ่งหลัง 90 วัน โดยคำสั่งออกเมื่อวันที่ 21 ม.ค.2554 และให้ บก.ปปป.สอบสวนข้อมูลทั้งหมดอย่างละเอียดให้ชัดเจนอีกครั้ง โดยเร่งด่วน และจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย