ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ย้ำ ทุกท้องที่ต้องปราศจากตู้ม้า แม้จะใช้ผ้าคลุมไว้ ก็มีไม่ได้ พร้อมยัน การกวาดล้างยาเสพติดไม่มีการฆ่าตัดตอนแน่นอน ในขณะเดียวกัน สั่งติดดาบให้ บก.ป.ป.ป.ดำเนินการเด็ดขาดกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ทุจริต
วันนี้ (6 ม.ค.) พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก.กล่าวถึงมาตรการกวาดล้างอบายมุข การพนันตู้มา และยาเสพติด ว่า ในส่วนของ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้เร่งดำเนินการตามกฎหมาย และอีกส่วนก็จะเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่เข้ากดดัน รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการกวาดล้าง โดยเฉพาะกรณีของตู้ม้าประเภทที่ยังหลบๆ ซ่อนๆ เอาผ้าคลุมไว้ จะต้องไม่มีอีก และตั้งแต่รัฐบาลมีนโยบายให้ทางตำรวจเร่งรัดปราบปรามทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ก็ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง จนการร้องเรียนเรื่องนี้ลดน้อยลงไป แต่กลับมีร้องเรียนเรื่องอื่นๆ แทน
“ส่วนกรณีการแพร่ระบาดของยาเสพติด ยืนยันว่า จะไม่มีการฆ่าตัดตอนเกิดขึ้น แต่จะเข้มงวดกวดขันในการกวาดล้างและปราบปรามผู้ค้าและผู้เสพให้มากยิ่งขึ้น โดยทุกฝ่ายจะต้องช่วยกันด้วย” พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ กล่าว
ผบช.ก.กล่าวด้วยว่า หากประชาชนที่พบเห็นการกระทำผิดก็ขอให้ช่วยแจ้งเบาะแสมายัง บช.ก.ซึ่งก็จะเป็นข้อมูลอีกทางที่ช่วยเหลือให้การป้องกันและปราบปรามบังเกิดผลชัดเจนยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ยังกล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ บก.ปปป.จับกุม นายเมธา ใจบริสุทธิ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองคูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ผู้ต้องหาเรียกรับเงิน 3 เปอร์เซ็นต์จากมูลค่าโครงการโรงสูบน้ำ ซอยแข็งขัน 4 ว่า คดีนี้ทาง บก.ปปป.ได้มีการเก็บรวบรวมข้อมูลมาเป็นอย่างดี ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้ง และทางพนักงานสอบสวนมั่นใจในพยานหลักฐาน นอกจากนี้ พนักงานสอบสวน บก.ปปป.ยังได้ประสานข้อมูลไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินด้วย
พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ กล่าวต่อว่า ตนได้ให้แนวทางปฏิบัติกับ บก.ปปป.ไว้แล้วโดยจะเร่งรัดปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบของข้าราชการในหน่วยงานต่างๆ โดยให้จัดทำข้อมูลอย่างเป็นระบบมีการแยกเป็นกลุ่มต่างๆ และมีการขึ้นบัญชีไว้เพื่อให้ง่ายต่อการวิเคราะห์ข้อมูล ทั้งนี้ ต้องเอาตัวร้ายๆ ของแต่ละกลุ่มออกไปก่อน เพราะคนเหล่านี้ทำกันจนเป็นเรื่องปกติ ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามจัดกลุ่ม องค์กร เพื่อแยกแยะให้ได้เพราะการสอบสวนคดีประเภทนี้ต้องมีการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อป้องกันการกลั่นแกล้งกัน
พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ กล่าวว่า นอกจากการจัดระบบข้อมูลแล้วยังเตรียมที่จะนำเสนอรูปแบบการแก้ปัญหาการทุจริตในรูปแบบใหม่ คือ การจัดนิทรรศการเพื่อให้ทุกคนรู้ปัญหานี้ก่อนว่าอะไรถูกอะไรผิดซึ่งจะมีการจัดงานภายในเดือนนี้ ซึ่งในงานนี้ก็จะเป็นการแสวงหาความร่วมมือจากประชาชนในการแจ้งเบาะแสต่างๆ ให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อนำข้อมูลเบาะแสมาต่อยอดในการปฏิบัติงาน โดยมีมาตรการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนที่เข้าให้เบาะแส
“ขอเตือนให้หยุดได้แล้ว เพราะต่างคนต่างหยิบไปคนละหมุบคนละหมับประเทศก็พังแล้ว” ผบช.ก.กล่าว
