“พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์” ผบช.ก.นั่งประท้วง ผบ.ตร.หน้าลิฟต์นานร่วม 2 ชั่วโมง โดยมีตำรวจกว่า 50 คนให้กำลังใจ เพื่อทวงถามความคืบหน้าการก่อสร้างแฟลตตำรวจให้ลูกน้อง ย้ำตำรวจชั้นผู้น้อยลำบากมาก แต่ ตร.กลับไม่สนใจ
วันนี้ (27 เม.ย.) เมื่อเวลา 08.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ได้เดินทางมานั่งดักรอพบ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.ที่บริเวณทางขึ้นลิฟต์อาคาร 1 ซึ่งเป็นทางขึ้นไปสำนักงาน ผบ.ตร. พร้อมทั้งนำคำสั่งที่คณะรัฐมนตรีให้ดำเนินการก่อสร้างอาคารที่พักข้าราชการตำรวจ มายื่นไว้เป็นหลักฐาน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 50 นาย มายืนให้กำลังใจบริเวณหน้าอาคาร 1 แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมารับเอกสารแต่อย่างใด โดย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ใช้เวลานั่งรออยู่ประมาณ 2 ชั่วโมง โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ พล.ต.อ.วิเชียร ได้เดินทางไปตรวจราชการ และมอบนโยบายเกี่ยวกับการปราบปรามยาเสพติดให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สังกัด บช.ภ.4 ได้รับทราบ โดยจะเดินทางกลับมาในวันที่ 28 เม.ย.นี้
ทั้งนี้ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ กล่าวถึงการมานั่งรอพบ ผบ.ตร.ในครั้งนี้ ว่า เพื่อต้องการทวงถามถึงเรื่องการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยข้าราชการตำรวจจำนวน 5,000 ห้อง หลังจากคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติโครงการดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยให้จัดซื้อที่ดินจากบรรษัทบรรหารสินทรัพย์ไทย(บสท.)จำนวน 160 ไร่ ซึ่งโครงการนี้มีมูลค่าประมาณ 8 พันล้านบาท แต่เรื่องดังกล่าวกับไม่มีความคืบหน้า จึงเดินทางมาทวงถามกับทาง พล.ต.อ.วิเชียร ด้วยตัวเอง
พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ กล่าวว่า โครงการนี้ทางสำนักงบประมาณ สภาพัฒน์ และกระทรวงการคลัง ได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวมาด้วยดี และไม่มีอะไรติดขัด แต่เรื่องกลับมาติดค้างอยู่ที่ ตร. ซึ่งเป็นหน่วยงานของตำรวจเอง รวมทั้งยังมีเรื่องที่น่าเป็นห่วงอีกว่า บสท.จะสิ้นสภาพในเดือน มิ.ย.นี้ ซึ่งหมายความว่า เราจะต้องทำเรื่องให้เสร็จจนถึงขั้นจ่ายเช็คให้ทันภายในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ ไม่เช่นนั้นโครงการนี้ก็จะต้องยุติลง แต่ส่วนตัวได้ข่าวในทางลับมาว่า ขณะนี้มีความพยายามที่จะหยุดโครงการนี้ ดังนั้น ตนจึงต้องเดินทางมาทวงถามข้อเท็จจริง
“ผมยอมรับว่า การดำเนินการโครงการนี้ถูกกดดันมาก เพราะข้าราชการตำรวจจำนวนมากไม่มีที่พักอาศัย โดยตำรวจบางคนต้องอาศัยอยู่ใต้บันไดหรือข้างห้องส้วม และบางคนทำงานที่กรุงเทพฯ แต่บ้านกับอยู่ที่ จ.อยุธยา ซึ่งพวกเขาถือว่าเดือดร้อนมาก แต่แทนที่ผู้ใหญ่จะช่วยกันเร่งดำเนินเรื่องให้สำเร็จเร็วๆ เพื่อที่ตำรวจชั้นผู้น้อยจะได้มีกำลังใจและมาช่วยทำงานให้มีประสิทธิภาพ แต่ตอนนี้ไม่ทราบว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังทำอะไรกันอยู่และเรื่องก็ไม่มีความคืบหน้า นอกจากนี้ที่ผ่านมาผมต่อสู้ทุกอย่าง จะต้องไปกราบไหว้ใคร ผมก็ไป ต้องไปขอใครก็ไปขอ ไปพบใครก็ไปพบ ไม่ว่าจะเป็นทั้งนอกหน่วย และในหน่วยงาน ผมได้ไปพบมาหมดแล้ว แต่ไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องจะกลายมาเป็นแบบนี้ ซึ่งการดำเนินโครงการนี้ผมได้เสนอและต่อสู้ เพื่อให้ข้าราชการตำรวจได้มีที่พักอาศัยและเป็นการแบ่งเบาภาวะของครอบครัวตำรวจอีกทางหนึ่งด้วย” ผบช.ก.กล่าว
พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ กล่าวต่อว่า ทุกวันนี้ชีวิตของตำรวจชั้นผู้น้อยลำบากกันมาก ผู้ที่ไม่มีที่พักอาศัยก็จะต้องเสียเงินค่าเช่าหรือเดินทางไปอยู่ที่ไกลๆ ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายและมีชีวิตที่ลำบาก ผลที่ตามมาทำให้ทำงานได้ไม่เต็มที่ ดังนั้น อยากให้ลองคิดดูว่า คนที่มีอำนาจ ถือปืนและใช้กฎหมาย แต่ต้องหิว ความเดือนร้อนที่ตามมาจึงต้องตกมาอยู่กับประชาชนและสังคมไทย ตนจึงจำเป็นที่จะต้องเดินทางมานั่งรอและทวงถามการทำงานของผู้ใหญ่ใน ตร.ว่า จะดำเนินการเรื่องนี้ให้เสร็จเมื่อไร ตนจะได้ไปบอกตำรวจชั้นผู้น้อยในสังกัดที่รอความหวังกันอยู่
“คนที่ทำแบบนี้ถ้าเป็นตำรวจชั้นผู้น้อย จะต้องถูกขังคุกก่อนโดนไล่ออก แต่เมื่อเป็นผู้บังคับบัญชา ผมก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากนี้ ยังสังเกตได้อีกว่า ถ้าเป็นเรื่องของเศรษฐีคนมีเงิน เรื่องจะถูกดำเนินการอย่างรวดเร็ว แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของตำรวจชั้นผู้น้อยจนๆ เรื่องจึงถูกดึงไว้ ดังนั้นจึงต้องมานั่งรอและเมื่อเสร็จงานก็จะมานั่งรออีก” พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ กล่าว
พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ กล่าวอีกว่า ตั้งแต่มีการก่อตั้งกรมตำรวจมาไม่เคยมีโครงการที่ตำรวจชั้นผู้น้อยจะได้รับประโยชน์โดยตรงแบบนี้ และในระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา ก็ไม่เคยมีการสร้างที่พักให้ตำรวจสังกัด บช.ก. ดังนั้นโครงการนี้ไม่เพียงแต่ตำรวจสังกัด บช.ก.จะได้รับประโยชน์ แต่ตำรวจหน่วยอื่นๆ ก็จะได้รับอานิสงส์ไปด้วยเช่นกัน ตนในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาที่ใช้งานลูกน้องอยู่ทุกวัน ถ้าเราไม่ทำอะไรให้เขาเลย ก็ไม่น่าเกิดมาเป็นคน
วันนี้ (27 เม.ย.) เมื่อเวลา 08.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ได้เดินทางมานั่งดักรอพบ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.ที่บริเวณทางขึ้นลิฟต์อาคาร 1 ซึ่งเป็นทางขึ้นไปสำนักงาน ผบ.ตร. พร้อมทั้งนำคำสั่งที่คณะรัฐมนตรีให้ดำเนินการก่อสร้างอาคารที่พักข้าราชการตำรวจ มายื่นไว้เป็นหลักฐาน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 50 นาย มายืนให้กำลังใจบริเวณหน้าอาคาร 1 แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมารับเอกสารแต่อย่างใด โดย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ใช้เวลานั่งรออยู่ประมาณ 2 ชั่วโมง โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ พล.ต.อ.วิเชียร ได้เดินทางไปตรวจราชการ และมอบนโยบายเกี่ยวกับการปราบปรามยาเสพติดให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สังกัด บช.ภ.4 ได้รับทราบ โดยจะเดินทางกลับมาในวันที่ 28 เม.ย.นี้
ทั้งนี้ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ กล่าวถึงการมานั่งรอพบ ผบ.ตร.ในครั้งนี้ ว่า เพื่อต้องการทวงถามถึงเรื่องการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยข้าราชการตำรวจจำนวน 5,000 ห้อง หลังจากคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติโครงการดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยให้จัดซื้อที่ดินจากบรรษัทบรรหารสินทรัพย์ไทย(บสท.)จำนวน 160 ไร่ ซึ่งโครงการนี้มีมูลค่าประมาณ 8 พันล้านบาท แต่เรื่องดังกล่าวกับไม่มีความคืบหน้า จึงเดินทางมาทวงถามกับทาง พล.ต.อ.วิเชียร ด้วยตัวเอง
พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ กล่าวว่า โครงการนี้ทางสำนักงบประมาณ สภาพัฒน์ และกระทรวงการคลัง ได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวมาด้วยดี และไม่มีอะไรติดขัด แต่เรื่องกลับมาติดค้างอยู่ที่ ตร. ซึ่งเป็นหน่วยงานของตำรวจเอง รวมทั้งยังมีเรื่องที่น่าเป็นห่วงอีกว่า บสท.จะสิ้นสภาพในเดือน มิ.ย.นี้ ซึ่งหมายความว่า เราจะต้องทำเรื่องให้เสร็จจนถึงขั้นจ่ายเช็คให้ทันภายในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ ไม่เช่นนั้นโครงการนี้ก็จะต้องยุติลง แต่ส่วนตัวได้ข่าวในทางลับมาว่า ขณะนี้มีความพยายามที่จะหยุดโครงการนี้ ดังนั้น ตนจึงต้องเดินทางมาทวงถามข้อเท็จจริง
“ผมยอมรับว่า การดำเนินการโครงการนี้ถูกกดดันมาก เพราะข้าราชการตำรวจจำนวนมากไม่มีที่พักอาศัย โดยตำรวจบางคนต้องอาศัยอยู่ใต้บันไดหรือข้างห้องส้วม และบางคนทำงานที่กรุงเทพฯ แต่บ้านกับอยู่ที่ จ.อยุธยา ซึ่งพวกเขาถือว่าเดือดร้อนมาก แต่แทนที่ผู้ใหญ่จะช่วยกันเร่งดำเนินเรื่องให้สำเร็จเร็วๆ เพื่อที่ตำรวจชั้นผู้น้อยจะได้มีกำลังใจและมาช่วยทำงานให้มีประสิทธิภาพ แต่ตอนนี้ไม่ทราบว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังทำอะไรกันอยู่และเรื่องก็ไม่มีความคืบหน้า นอกจากนี้ที่ผ่านมาผมต่อสู้ทุกอย่าง จะต้องไปกราบไหว้ใคร ผมก็ไป ต้องไปขอใครก็ไปขอ ไปพบใครก็ไปพบ ไม่ว่าจะเป็นทั้งนอกหน่วย และในหน่วยงาน ผมได้ไปพบมาหมดแล้ว แต่ไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องจะกลายมาเป็นแบบนี้ ซึ่งการดำเนินโครงการนี้ผมได้เสนอและต่อสู้ เพื่อให้ข้าราชการตำรวจได้มีที่พักอาศัยและเป็นการแบ่งเบาภาวะของครอบครัวตำรวจอีกทางหนึ่งด้วย” ผบช.ก.กล่าว
พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ กล่าวต่อว่า ทุกวันนี้ชีวิตของตำรวจชั้นผู้น้อยลำบากกันมาก ผู้ที่ไม่มีที่พักอาศัยก็จะต้องเสียเงินค่าเช่าหรือเดินทางไปอยู่ที่ไกลๆ ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายและมีชีวิตที่ลำบาก ผลที่ตามมาทำให้ทำงานได้ไม่เต็มที่ ดังนั้น อยากให้ลองคิดดูว่า คนที่มีอำนาจ ถือปืนและใช้กฎหมาย แต่ต้องหิว ความเดือนร้อนที่ตามมาจึงต้องตกมาอยู่กับประชาชนและสังคมไทย ตนจึงจำเป็นที่จะต้องเดินทางมานั่งรอและทวงถามการทำงานของผู้ใหญ่ใน ตร.ว่า จะดำเนินการเรื่องนี้ให้เสร็จเมื่อไร ตนจะได้ไปบอกตำรวจชั้นผู้น้อยในสังกัดที่รอความหวังกันอยู่
“คนที่ทำแบบนี้ถ้าเป็นตำรวจชั้นผู้น้อย จะต้องถูกขังคุกก่อนโดนไล่ออก แต่เมื่อเป็นผู้บังคับบัญชา ผมก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากนี้ ยังสังเกตได้อีกว่า ถ้าเป็นเรื่องของเศรษฐีคนมีเงิน เรื่องจะถูกดำเนินการอย่างรวดเร็ว แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของตำรวจชั้นผู้น้อยจนๆ เรื่องจึงถูกดึงไว้ ดังนั้นจึงต้องมานั่งรอและเมื่อเสร็จงานก็จะมานั่งรออีก” พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ กล่าว
พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ กล่าวอีกว่า ตั้งแต่มีการก่อตั้งกรมตำรวจมาไม่เคยมีโครงการที่ตำรวจชั้นผู้น้อยจะได้รับประโยชน์โดยตรงแบบนี้ และในระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา ก็ไม่เคยมีการสร้างที่พักให้ตำรวจสังกัด บช.ก. ดังนั้นโครงการนี้ไม่เพียงแต่ตำรวจสังกัด บช.ก.จะได้รับประโยชน์ แต่ตำรวจหน่วยอื่นๆ ก็จะได้รับอานิสงส์ไปด้วยเช่นกัน ตนในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาที่ใช้งานลูกน้องอยู่ทุกวัน ถ้าเราไม่ทำอะไรให้เขาเลย ก็ไม่น่าเกิดมาเป็นคน
