ผบ.ตร.ยอมรับตำรวจบางส่วนใช้อำนาจในทางที่ผิด จึงทำให้ไม่เป็นตำรวจอาชีพ โดยเฉพาะตำรวจชั้นประทวน เชื่อ นิทรรศการตำรวจยุคใหม่ไม่ทำผิดจะช่วยยกระดับความประพฤติผิดของตำรวจหันมารับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง ขณะที่ ผบช.ก.ย้ำจะทำตัวเป็นแบบอย่าง เชื่อตำรวจสอบสวนกลางจะดีขึ้น เผยโครงการนี้หวังลดทำผิดของตำรวจ แก้ไขปัญหาทุจริตเบียดบังเวลาราชการ
วันนี้ (18 ม.ค.) เมื่อเวลา 07.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานเปิดนิทรรศการ “ตำรวจยุคใหม่ไม่ทำผิด” ที่บริเวณชั้น 1 อาคาร บช.ก. (ฝั่งถนนอังรีดูนังต์) โดยมี พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รอง ผบ.ตร. (ปป.1) พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก. พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รอง ผบช.ก. และผบก.ทั้ง 12 หน่วยงานที่ขึ้นตรงกับ บช.ก.เข้าร่วมงาน
พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า นิทรรศการดังกล่าวเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่จะทำให้ตำรวจได้ตระหนักถึงปัญหาทุจริตคอร์รัปชันในวงการตำรวจ ซึ่งถือเป็นการยกระดับแนวความคิดขึ้นมาให้ทุกภาคส่วนของสังคมมีส่วนรับรู้สภาพปัญหา เพื่อหาแนวทางแก้ไขให้เหมาะสมกับสถานการณ์และหน้าที่ความรับผิดชอบของตำรวจ และใช้องค์ความรู้ใหม่ๆ
“ตำรวจยังไม่เข้าใจว่าการเป็นตำรวจอาชีพต้องทำกันอย่างไร บางทีความผิดที่กระทำไปก็ทำเพราะความไม่รู้ว่าผิด และทำให้ไม่เป็นตำรวจอาชีพ เป็นแค่อาชีพตำรวจ โดยเฉพาะตำรวจชั้นประทวน สำหรับผมคิดว่าตำรวจทำผิดมากที่สุดคือใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ผิด โดยโครงการนี้จะทำให้ตำรวจตระหนักถึงความผิดพลาดที่ตนเกิดขึ้น” พล.ต.อ.วิเชียรกล่าว
ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า เชื่อว่านิทรรศการดังกล่าจะมีส่วนช่วยบรรเทาลดปัญหาการประพฤติผิดของตำรวจให้หันหลังกลับมาดูและและรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง ให้ตรงกับคำขวัญ “บริการดุจญาติ พิทักษ์ราษฎร์ดุจครอบครัว” และการที่รณรงค์ ส่งเสริม ประชาสัมพันธ์ให้ข้าราชการตำรวจมีจิตสำนึกยกย่องความชื่อสัตย์สุจริตให้เป็นวัฒนธรรมองค์กร โดยการเปิดโอกาสให้ภาคสังคมมีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแส ข้อมูลการทุจริต จะช่วยบรรเทาปัญหาการทุจริตได้อีกส่วนหนึ่ง
ด้าน พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์กล่าวว่า โครงการนี้ให้ความรู้แก่ตำรวจ และประชาชนเพื่อให้ได้เรียนรู้ว่าสิ่งใดคือพฤติกรรมที่ดี ควรแก้ไข และพฤติกรรมตำรวจที่ดีเป็นอย่างไร โดยมุ่งหวังลดการกระทำผิดของตำรวจ และพัฒนางานตำรวจให้มีประสิทธิภาพ แก้ไขปัญหาทุจริตเบียดบังเวลาราชการ การทำงานที่ไม่เต็มที่ การเรียกรับผลประโยชน์ ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากบริการของตำรวจที่จะดีขึ้น ตลอดจนการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและการสืบสวนสอบสวนคดีอาญาที่มีประสิทธิภาพ ถูกต้องเหมาะสมมากขึ้น ทั้งนี้ ผู้บังคับบัญชาทุกระดับโดยเฉพาะตนจะทำให้เห็นเป็นแบบอย่าง โดยเชื่อว่าตำรวจสอบสวนกลางจะดีขึ้นเรื่อยๆ และปัจจุบันก็ดีขึ้นกว่าเดิมแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนิทรรศการ “ตำรวจยุคใหม่ ไม่ทำผิด” นั้น จัดที่บริเวณโถงชั้นล่าง อาคารกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยนิทรรศการแบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วน คือ โดยบริเวณทางเข้าเริ่มที่ด้านมืด หรือด้านไม่ดีของตำรวจที่ตกหลุมพรางไปกับความเชื่อ ค่านิยมที่ผิดๆ เช่น การใช้วิธีผิดๆ อุ้ม ทำร้าย เพื่อการสืบสวน การอยากได้อยากมีอำนาจ หาตั๋วในการวิ่งเต้นจากนักการเมือง เงินซื้อขายตำแหน่ง มาเฟีย พ่อค้า การเบียดบังเวลาราชการ ไปจนถึงการอยากได้อยากมีทรัพย์สินเงินทอง จึงรับผลประโยชน์ กระทำการเลี่ยงกฎหมาย เบียดบังงบประมาณราชการ ยอมถูกชักจูงโดยกลุ่มการเมือง กลุ่มนักธุรกิจ โดยนิทรรศการแสดงให้เห็นว่าเมื่อตำรวจเรียนรู้ว่าสิ่งที่ทำคือสิ่งผิด ยอมรับปรับปรุง เข้าใจบทบาทหน้าที่ของตนเอง สู่แนวทางตำรวจที่ถูกต้อง รับฟังเพื่อนร่วมงาน ความคิดเห็นความต้องการของสังคม ตำรวจก็จะดีขึ้น
ทั้งนี้ นิทรรศการเป็นระบบมัลติมิเดียสวยงามและให้ความรู้ โดยมีตำรวจวิทยาการเป็นผู้อธิบาย นอกจากนี้ยังมีการแจกน้ำมนต์จากวัดพระแก้ว และวัดปทุมวนารามฯ ด้วย และเปิดให้ประชาชนเข้าชมโครงการตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 28 ม.ค.ในเวลาราชการ
วันนี้ (18 ม.ค.) เมื่อเวลา 07.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานเปิดนิทรรศการ “ตำรวจยุคใหม่ไม่ทำผิด” ที่บริเวณชั้น 1 อาคาร บช.ก. (ฝั่งถนนอังรีดูนังต์) โดยมี พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รอง ผบ.ตร. (ปป.1) พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก. พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รอง ผบช.ก. และผบก.ทั้ง 12 หน่วยงานที่ขึ้นตรงกับ บช.ก.เข้าร่วมงาน
พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า นิทรรศการดังกล่าวเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่จะทำให้ตำรวจได้ตระหนักถึงปัญหาทุจริตคอร์รัปชันในวงการตำรวจ ซึ่งถือเป็นการยกระดับแนวความคิดขึ้นมาให้ทุกภาคส่วนของสังคมมีส่วนรับรู้สภาพปัญหา เพื่อหาแนวทางแก้ไขให้เหมาะสมกับสถานการณ์และหน้าที่ความรับผิดชอบของตำรวจ และใช้องค์ความรู้ใหม่ๆ
“ตำรวจยังไม่เข้าใจว่าการเป็นตำรวจอาชีพต้องทำกันอย่างไร บางทีความผิดที่กระทำไปก็ทำเพราะความไม่รู้ว่าผิด และทำให้ไม่เป็นตำรวจอาชีพ เป็นแค่อาชีพตำรวจ โดยเฉพาะตำรวจชั้นประทวน สำหรับผมคิดว่าตำรวจทำผิดมากที่สุดคือใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ผิด โดยโครงการนี้จะทำให้ตำรวจตระหนักถึงความผิดพลาดที่ตนเกิดขึ้น” พล.ต.อ.วิเชียรกล่าว
ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า เชื่อว่านิทรรศการดังกล่าจะมีส่วนช่วยบรรเทาลดปัญหาการประพฤติผิดของตำรวจให้หันหลังกลับมาดูและและรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง ให้ตรงกับคำขวัญ “บริการดุจญาติ พิทักษ์ราษฎร์ดุจครอบครัว” และการที่รณรงค์ ส่งเสริม ประชาสัมพันธ์ให้ข้าราชการตำรวจมีจิตสำนึกยกย่องความชื่อสัตย์สุจริตให้เป็นวัฒนธรรมองค์กร โดยการเปิดโอกาสให้ภาคสังคมมีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแส ข้อมูลการทุจริต จะช่วยบรรเทาปัญหาการทุจริตได้อีกส่วนหนึ่ง
ด้าน พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์กล่าวว่า โครงการนี้ให้ความรู้แก่ตำรวจ และประชาชนเพื่อให้ได้เรียนรู้ว่าสิ่งใดคือพฤติกรรมที่ดี ควรแก้ไข และพฤติกรรมตำรวจที่ดีเป็นอย่างไร โดยมุ่งหวังลดการกระทำผิดของตำรวจ และพัฒนางานตำรวจให้มีประสิทธิภาพ แก้ไขปัญหาทุจริตเบียดบังเวลาราชการ การทำงานที่ไม่เต็มที่ การเรียกรับผลประโยชน์ ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากบริการของตำรวจที่จะดีขึ้น ตลอดจนการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและการสืบสวนสอบสวนคดีอาญาที่มีประสิทธิภาพ ถูกต้องเหมาะสมมากขึ้น ทั้งนี้ ผู้บังคับบัญชาทุกระดับโดยเฉพาะตนจะทำให้เห็นเป็นแบบอย่าง โดยเชื่อว่าตำรวจสอบสวนกลางจะดีขึ้นเรื่อยๆ และปัจจุบันก็ดีขึ้นกว่าเดิมแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนิทรรศการ “ตำรวจยุคใหม่ ไม่ทำผิด” นั้น จัดที่บริเวณโถงชั้นล่าง อาคารกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยนิทรรศการแบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วน คือ โดยบริเวณทางเข้าเริ่มที่ด้านมืด หรือด้านไม่ดีของตำรวจที่ตกหลุมพรางไปกับความเชื่อ ค่านิยมที่ผิดๆ เช่น การใช้วิธีผิดๆ อุ้ม ทำร้าย เพื่อการสืบสวน การอยากได้อยากมีอำนาจ หาตั๋วในการวิ่งเต้นจากนักการเมือง เงินซื้อขายตำแหน่ง มาเฟีย พ่อค้า การเบียดบังเวลาราชการ ไปจนถึงการอยากได้อยากมีทรัพย์สินเงินทอง จึงรับผลประโยชน์ กระทำการเลี่ยงกฎหมาย เบียดบังงบประมาณราชการ ยอมถูกชักจูงโดยกลุ่มการเมือง กลุ่มนักธุรกิจ โดยนิทรรศการแสดงให้เห็นว่าเมื่อตำรวจเรียนรู้ว่าสิ่งที่ทำคือสิ่งผิด ยอมรับปรับปรุง เข้าใจบทบาทหน้าที่ของตนเอง สู่แนวทางตำรวจที่ถูกต้อง รับฟังเพื่อนร่วมงาน ความคิดเห็นความต้องการของสังคม ตำรวจก็จะดีขึ้น
ทั้งนี้ นิทรรศการเป็นระบบมัลติมิเดียสวยงามและให้ความรู้ โดยมีตำรวจวิทยาการเป็นผู้อธิบาย นอกจากนี้ยังมีการแจกน้ำมนต์จากวัดพระแก้ว และวัดปทุมวนารามฯ ด้วย และเปิดให้ประชาชนเข้าชมโครงการตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 28 ม.ค.ในเวลาราชการ