"สถิตย์" ย้ำความมั่นใจ ได้เลขาฯ กบข. ภายในสิ้นปีนี้แน่นอน "โสภาวดี" มาแรง นั่งเก้าอี้คนใหม่ ข่าวระบุเริ่มงานปีหน้า
นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า กบข.จะได้ข้อสรุปว่า ใครจะมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการกบข.อย่างเร็วสุดภายในวันที่ 29 ธ.ค.นี้ หรือไม่ช้าสุดก็ไม่เกินภายในวันที่ 30 ธ.ค.นี้แน่นอน ซึ่งที่ผ่านมาได้ใช้เวลามานานพอสมควรในการคัดสรรผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่ง ซึ่งสาเหตุที่ล่าช้านั้น เป็นเพียงการดำเนินงานตามกระบวนการปกติที่ล่าช้าเท่านั้น ไม่ได้มีสาเหตุอื่น
รายงานข่าว กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า คณะกรรมการกบข. ได้คัดเลือก นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองผู้จัดการ สายงานตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) มาดำรงตำแหน่งดังกล่าว โดยจะเริ่มทำงานในปี 53 หลังจากที่ตำแหน่งเลขาฯกบข.ว่างเว้นผู้มาตั้งแต่เดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ที่นายวิสิฐ ตันติสุนทร อดีตเลขาธิการกบข.ลาอออกไปตั้งแต่เดือน และมีน.ส.วริยา ว่องปรีชา รองเลขาธิการสายบริหารงานสมาชิก รักษาการเลขาธิการกบข. อยู่
ทั้งนี้ กบข. อยู่ระหว่างการเดินหน้ายกระดับยุทธศาสตร์ในการบริหารงาน 4 ด้าน เพื่อเพิ่มศักยภาพและเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกองทุนต่อเนื่อง สู่การบริหารงานดียิ่งขึ้นไปอีกระดับ ตรงตามวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งกองทุนเพื่อเป็นแหล่งระดมเงินออมระยะยาว และมุ่งเสริมสร้างเสถียรภาพทางการเงินและเศรษฐกิจของประเทศ โดย“ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างผลตอบแทนการลงทุน” นั้น กบข.จะได้มีการปรับปรุงหลักการจัดสรรการลงทุนระยะยาวให้ทันต่อสถานการณ์ และให้เข้ากับอัตรา ผลตอบแทนที่คาดหวัง
รวมทั้งมีการนำกระบวนการบริหารความเสี่ยงทั้งในด้านการเงิน และด้านที่ไม่ใช่การเงินเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุน และยังมีการนำกลยุทธ์มาเปรียบเทียบกับกองทุนอื่นๆ ที่มีลักษณะใกล้เคียง ( Peer Group) จากเป้าหมายสำคัญเพื่อสร้างความเข้าใจเรื่องการลงทุนและหลักการของกองทุนบำนาญ
ส่วน“ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างความพึงพอใจแก่สมาชิก” ได้มีการแบ่งกลุ่มสมาชิก รวมทั้งจัดเนื้อหา และสื่อที่เหมาะสมกับแต่ละกลุ่มทั้งเชิงรุกและเชิงรับ ให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย ประกอบกับมีการสำรวจความต้องการของสมาชิกในกลุ่มต่างๆ เพื่อนำมาปรับปรุงการทำงานอย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนี้ เพื่อสร้างความเชื่อถือและไว้วางใจจากสังคมและสมาชิก และสร้างความพร้อมในการรองรับสิ่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นเสมอ “ยุทธศาสตร์ด้านการเป็นเลิศด้านปฏิบัติการ” จะได้มีการสร้างนวัตกรรมระบบงานเพื่อรองรับการลงทุนและวิธีการทำงานรูปแบบใหม่ และยังให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาตลาดเงินตลาดทุน รวมทั้งบริหารกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียอย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม ในการขับเคลื่อนองค์กร “ยุทธศาสตร์ด้านวัฒนธรรมองค์กรและการบริหารการเปลี่ยนแปลง” ได้เน้นการสร้างให้เกิดวัฒนธรรมองค์กรที่เป็นหนึ่งเดียว และปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน รวมทั้งพัฒนาขีดความสามารถของระบบงาน และปัจจัยอื่นๆ เพื่อรองรับการเติบโตของกองทุน