กรรมการสภาที่ปรึกษา ปชป.เชื่อพรรคร่วมเข้าใจวัฒนธรรม ปชป. ไม่สังฆกรรมแก้ รธน.เพราะใช้กระแสสังคมเป็นธงก่อนตัดสินใจ ยอมรับอาจมีคนน้อยใจบ้างไม่เฉพาะแต่สมาชิกพรรคร่วมฯ แต่ไม่ถึงกับเสียหน้า ไม่เชื่อจะเป็นชนวนนำไปสู่การยุบสภา ยัน “มาร์ค-สุเทพ” ไม่แตกคอ มั่นใจไม่มีฟรีโหวตอภิปราย
วันนี้ (27 ม.ค.) ที่รัฐสภา นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์มีมติไม่ร่วมลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญกับพรรคร่วมรัฐบาลว่า จากที่ตนได้ฟังไม่มีปัญหาอะไรกับพรรคร่วม ทั้งนี้ พรรคร่วมรัฐบาลหลายคนเป็นนักการเมืองเก่าแก่ทำงานการเมืองมานาน ตนคิดว่าเขาน่าจะวิเคาะห์ออกมาตั้งแต่ต้นด้วยซ้ำไป โอกาสที่จะดึงพรรคประชาธิปัตย์มาสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปได้ยาก เขาถึงพูดชัดตั้งแต่แรกว่า เรื่องการร่วมรัฐบาลกับการแก้รัฐธรรมนูญเป็นคนละส่วนกัน เมื่อมติออกมาอย่างนี้ตามความคาดหมายที่เขาคิด แต่ในฐานะที่เขาอยากแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากได้รับการสนับสนุนก็คงจะดี
ดังนั้น ตนจึงเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะเชื่อว่าคนที่เป็นรัฐบาลอยู่ขณะนี้ เริ่มมองเห็นชัดว่ารัฐบาลเดินมาด้วยดีในช่วง 1 ปี ที่ผ่านมา เศรษฐกิจที่เริ่มมีสัญญาณหลายส่วนบอกว่าจะดีขึ้น หลายโครงการก็เริ่มดำเนินการแล้ว รอเวลาที่ผลงานจะออกมาชัดเจนมากขึ้น ดังนั้น ตนคิดว่าไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่ในทางตรงข้าม หากเอาเรื่องนี้มามีปัญหา ประชาชนก็จะคิดว่าจะอาประโยชน์ส่วนตัวมาอยู่เหนือมาประโยชน์ส่วนรวมได้อย่างไร
เมื่อถามว่า โอกาสการยุบสภามีหรือไม่ นายบัญญัติกล่าวว่า ไม่มีเหตุอะไรที่ต้องยุบสภา ส่วนที่พรรคร่วมที่ออกมาขู่ว่าจะมีการถอนตัว ซึ่งตนคิดว่าเป็นของคนที่มีความคิดต่างกัน อาจจะเป็นส่วนน้อยเท่านั้นที่มีการพูดออกมาบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของคนที่อาจจะมีอารมณ์น้อยใจบ้าง แต่หากหักล้างกันดู เอาประโยชน์บ้านเมือง เอาเหตุผลมาพูดคุยกัน ตนไม่คิดว่าจะมีพรรคร่วมรัฐบาลคนไหนคิดไกลว่าจะนำไปสู่ความขัดแข้งจนเกิดการยุบสภา ตนคิดว่าไม่มีอะไรทั้งสิ้น เพราะความจริงเรื่องนี้ควรจะจบไปแล้ว เพราะเราพูดกันไปมากแล้ว ซึ่งอาจจะทำให้นักลงทุนหรือนักธุรกิจคิดกังวลมากกว่า ตนมั่นใจว่าไม่มีปัญหาอะไร ทั้งนี้ ตนไม่คิดว่าเป็นเรื่องของการขู่ แต่เป็นเรื่องของการน้อยใจกันบ้าง แต่โดยรวมไม่มีปัญหาอะไร ไม่ใช่แต่เขาน้อยใจ แต่ของเราก็มีน้อยใจเหมือนกัน แต่หากนำมาบวกลบ ถึงผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น เรื่องที่เกิดขึ้น และวิธีการที่ใช้ ตนคิดว่าทุกคนเข้าใจ และไม่มีปัญหาอะไร
นายบัญญัติกล่าวว่า ส่วนบรรยากาศในพรรคประชาธิปัตย์นั้นไม่มีปัญหาอะไร แต่วัฒนธรรมองค์กรของพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อมีเรื่องสำคัญ แทนที่ผู้บริหารจะตัดสินใจเอง ก็เอามาให้ผู้มีส่วนได้เสียให้ร่วมตัดสินใจร่วมกัน ซึ่งเรื่องอย่างนี้ก็ทำมาหลายสิบปีแล้ว ซึ่งความเห็นที่แตกต่างตนมองว่า เป็นเสน่ห์ของพรรคประชาธิปัตย์ว่าไม่มีใครในพรรคสามารถผูกขาดความคิดของทุกคนในพรรคได้ เหตุผล ความถูกต้อง คำมั่นสัญญา ที่ให้ไว้กับประชาชนเป็นเรื่องใหญ่กว่าอะไรทั้งสิ้น
เมื่อถามว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และในฐานะหัวหน้าพรรค และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง และในฐานะเลขาธิการพรรค จะมีปัญหากันหรือไม่ นายบัญญัติกล่าวว่า ตนคิดว่าไม่มีปัญหา เพราะทั้งสองคนอยู่ในพรรคมานานแล้ว และทราบดีว่าวัฒนธรรมของพรรคประชาธิปัตย์เป็นแบบนี้ เราว่ากันตามความเป็นจริง ซึ่งตนคิดว่าเป็นวิธีการประชาธิปไตยที่ถูกต้องที่สุด และเป็นเรื่องที่ควรสนับสนุน ซึ่งนายสุเทพก็ไปรับคำมั่นสัญญากับเพื่อนไว้แล้วว่าอยากทำให้เป็นไปตามนั้น แต่จะเป็นไปตามนั้นหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับคนส่วนใหญ่ในพรรค และคนส่วนใหญ๋ในพรรคลงคะแนนแบบนี้ ผลก็ต้องออกมาอย่างนี้เหมือนกัน ส่วนจะเป็นเรื่องของการเสียคนหรือไม่นั้น ตนคิดว่าคนที่ทำงานร่วมกันต้องเข้าใจกัน
เมื่อถามว่า เมื่อมติพรรคประชาธิปัตย์ออกมาเป็นแบบนี้จะถือว่าเป็นการปิดตายในเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายบัญญัติกล่าวว่า มันอยู่ที่ประเด็นก่อนหน้านี้มีการถึง 6 ประเด็น ของคณะกรรมการสมานฉันท์ เพื่อปฏิรูปศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็จัดทำประชามติ หากประชาชนเห็นด้วยก็ไม่มีปัญหา แต่หากจะบอกว่าปิดประตูตาย ไม่แก้รัฐธรรมนูญเลยก็ไม่ถึงขนาดนั้น มันอยู่ที่ว่าจะแก้ประเด็นไหนอย่างไร และที่สำคัญประเด็นที่แก้มีประโยชน์กับประชาชนหรือไม่ ซึ่งตนคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่