“สุเทพ” นั่งหัวโต๊ะประชุม ก.ตร.พิจารณาวาระ ตร.ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการโยกย้ายประจำปี 52 ที่เข้าร้องเรียน โดยลงความเห็นจะส่งข้อมูลการร้องทุกข์ไปยังต้นสังกัดให้ ผบช.ชี้แจง ก่อนส่งให้ ก.ตร.พิจารณาอีกครั้ง ด้านโฆษก ตร.ระบุหากไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งสามารถร้องทุกข์ต่อ ก.ตร.ได้ถึงวันที่ 19 มี.ค.นี้
วันนี้ (5 มี.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) โดยมี พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) รอง ผบ.ตร.และ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิร่วมประชุม ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 20 นาที
พล.ต.อ.ปทีป กล่าวภายหลังประชุมว่า ก.ตร.วันนี้มีการพิจารณาเรื่องการขยายอัตราเงินเดือนให้ ตำแหน่งรอง ผบก.ส่วนที่มีปัญหา ขณะเดียวกัน มีการเพิ่มหน้าที่การงานให้ตำแหน่ง นายตำรวจราชสำนักประจำ (นรป.) (สบ 8) และ นรป.(สบ 7) ที่เพิ่งขออนุมัติจากคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ให้ชัดเจนขึ้นและถูกต้องตามกฎหมาย โดยวันนี้ยังไม่มีการพิจารณาวาระเพื่อแต่งตั้ง พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา รรท.ผู้บัญชาการประจำ สง.ผบ.ตร.(ทำหน้าที่ประสานนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย) ขึ้นเป็น ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร.เต็มตัวแต่อย่างใด ซึ่งในที่ประชุมไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้เลย
ด้าน พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษก ตร.กล่าวว่า ก.ตร.วันนี้ได้พิจารณากรณีตำรวจที่ร้องเรียนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในการพิจารณาแต่งตั้งรองผบก.จนถึงสารวัตร วาระประจำปี 2552 ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้มีข้าราชการตำรวจร้องเรียนเข้ามาที่อนุ ก.ตร.ด้านการร้องทุกข์ 91 รายแล้ว โดยส่วนใหญ่เป็นตำรวจสังกัด บช.ภ.2 ที่เคยได้รับแต่งตั้งโยกย้ายในคำสั่งเก่าที่ พล.ต.ท.เกรียงศักดิ์ สุริโย ผบช.ภ.2 แต่ถูกเปลี่ยนแปลงในคำสั่งของ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร. อย่างไรก็ตาม ก.ตร.มีความเห็นว่าจากนี้จะส่งข้อมูลการร้องทุกข์ของตำรวจทุกรายไปยัง บช.ต้นสังกัดเพื่อให้ ผบช.หน่วยชี้แจงข้อเท็จจริงเหตุผลในการแต่งตั้งนั้นขึ้นมายัง ก.ตร.เพื่อให้ ก.ตร.พิจารณาในครั้งหน้า ทั้งนี้ หากรายใดมีเหตุมีผลเห็นว่าควรเยียวยา ก.ตร.ก็จะให้ ตร.ดำเนินการเยียวยาให้
โฆษก ตร.กล่าวด้วยว่า ในก.ตร.ยังมีการหยิบยกกรณีของ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ที่ไปร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อขอให้พิจารณาย้ายออกนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หลังจากทำงานเหนื่อยล้ามานานและไม่ได้รับการพิจารณาแต่งตั้งไปเป็น ผกก.สภ.กันตัง จ.ตรัง ในครั้งนี้ตามที่ร้องขอขึ้นมาพิจารณาด้วย โดยประเด็นนี้ที่ประชุมเห็นใจและเห็นว่า ตร.ควรดูแลเยียวยาให้ โดยให้ รรท.ผบ.ตร.กลับไปหาแนวทาง ซึ่งมีการชี้แจงใน ก.ตร.ว่าหาก พ.ต.อ.สมเพียร จะย้ายออกจากศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) ทาง บช.ภ.8 และบช.ภ.9 ก็ยินดีรับตัวไปแล้ว แต่ก็ยังติดว่าหากย้ายออกมาก็จะกระทบคนที่จะย้ายไปแทนในตำแหน่ง ผกก.สภ.บันนังสตา ซึ่งอาจกระทบกับการย้ายออกนอกหน่อย ดังนั้นใน ก.ตร.ก็พิจาณาว่ากรณีนี้ ตร.อาจเยียวยาทดแทนให้ด้วยวิธีอื่น เช่น การให้เลื่อนเป็นรอง ผบก.ถ้ามีตำแหน่งอยู่ ซึ่งตรงนี้ ตร.ต้องไปตรวจสอบข้อมูลและพิจารณาดู นอกจากนี้ ก.ตร.ยังคุยกันว่าควรมีการกำหนดหลักเกณฑ์ออกมาในการพิจารณาแต่งตั้ง ตอบแทนตำรวจที่ไปปฏิบัติราชการในศชต.ที่เหนื่อยล้าให้ได้ขยับออกนอกพื้นที่และส่งคนอื่นไปดำรงตำแหน่งแทน โดยต่อไปต้องเป็นระบบหลักเกณฑ์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ตำรวจใน ศชต.
“อย่างไรก็ตาม ตำรวจที่รู้สึกว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งครั้งที่ผ่านมา สามารถร้องทุกข์ต่อ ก.ตร.ได้จนถึงวันที่ 19 มีนาคมนี้ จากนั้น ก.ตร.จะดำเนินการพิจารณาเป็นรายๆ ไปและทราบผลภายใน 30 วัน” พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าว