“อภิสิทธิ์” ยอมรับต้องเฝ้าระวัง 38 จังหวัด เป้าหมายเคลื่อนไหวคนเสื้อแดง สั่งจับตาท้องถิ่นใช้วิทยุชุมชนปลุกระดมมวลชน หนักใจสั่งปิดคลื่นเป็นหน้าที่ กทช.ประกาศกร้าวพร้อมงัด กม.พิเศษรับมือเหตุฉุกเฉิน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (7 ก.พ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกมาระบุว่ามี 38 จังหวัดที่ต้องเฝ้าจับตามองการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ขณะนี้มันมีการเคลื่อนไหวที่จะชุมนุม เราก็จะดูจากการเคลื่อนไหวที่ผ่านมา ทั้งนี้เราให้ความสำคัญ โดยเฉพาะประเด็นที่ว่าจะทำอย่างไรจะรักษาความสงบเรียบร้อย ดังนั้นก็ต้องเฝ้าระวังในพื้นที่ ที่เราคิดว่ามีความเสี่ยงต่อเหตุการณ์ความรุนแรงเท่านั้นเอง
เมื่อถามว่ามีจังหวัดใดที่ต้องจับตาดูเป็นพิเศษบ้าง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เราจะดูจากเหตุการณ์ที่ผ่านๆมา และการเคลื่อนไหวผ่านสื่อต่างๆ โดยเฉพาะจากสื่อท้องถิ่น ก็จะมีบางจังหวัดซึ่งจะเห็นว่าเคยมีการปะทะ การเคลื่อนไหวและความรุนแรงที่ออกนอกกรอบของกฎหมาย ก็ต้องให้ความสำคัญกับจังหวัดเหล่านั้นมากเป็นพิเศษ
เมื่อถามว่าการใช้สื่อท้องถิ่นเป็นเครื่องมือปลุกระดม ทำไมรัฐจึงยังจัดการไม่ได้ นายอภิสิทธ์ กล่าวว่า เรื่องของวิทยุชุมชนนั้น เป็นอำนาจของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) เมื่อถามว่าแต่การปลุกระดมหากผิดกฎหมายแล้ว เราใช้กฎหมายฉบับอื่นจัดการไม่ได้หรือ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ถ้าไม่มีกฎหมายพิเศษก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องเป็นเรื่องของ กทช.ที่จะต้องดูแล
เมื่อถามว่า หากเกิดกรณีฉุกเฉินสามารถที่จะประกาศกฎหมายเพื่อบังคับใช้ได้ทันทีหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้ามีความจำเป็นก็ประกาศใช้ แต่ถ้าไม่จำเป็นก็จะหลีกเลี่ยง เราพยายามที่จะไม่ใช้กฎหมายพิเศษ แต่ถ้าจำเป็นต้องประกาศใช้ก็จะดูที่ความจำเป็นของสถานการณ์และพื้นที่
“รัฐบาลมีแนวว่าจะใช้กฎหมายพิเศษให้น้อยที่สุด แต่ถ้ามีข่าวหรือสถานการณ์มีความจำเป็นเราก็ดำเนินการ เพราะการประกาศใช้กฎหมายพิเศษที่ผ่านมาของรัฐบาล เราก็ไม่ได้ไปจำกัดสิทธิ เสรีภาพ ขั้นพื้นฐาน เพียงแต่มาตรการการตรวจสอบจะเข้มงวดกวดขันมากขึ้นเท่านั้นเอง ที่ผ่านมาประชาชนส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดก็ไม่ได้รับความเดือดร้อนหรือผลกระทบ ตรงกันข้าม การประกาศใช้กฎหมายพิเศษและสามารถป้องกันเหตุการณ์ได้ ก็เป็นประโยชน์กับทุกๆคน” นายอภิสิทธิ์กล่าว