“ปทีป” สั่งจับตาคนปู่ดข่าวปฏิวัติ เน้นดูแลความปลอดภัยกลุ่มตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ฟันธงคนร้ายปาอึโยงคดีการเมือง สั่งการเพิ่มความเข้มข้นมาตรการความปลอดภัย ตั้งด่านตรวจบางเวลา เผย “สมคิด” รายงานตัวกองวินัยแล้ว ขอเวลาค้นข้อมูล 20 ปีก่อนประกอบพิจารณาโทษ
สั่งเพิ่มความเข้ม รปภ.นายกฯ-ตั้งด่าน
วันนี้ (2 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีมีคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ปาอุจจาระผสมปลาร้าเข้าไปในบ้านพักนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี วานนี้ (1 ก.พ.) ว่า เรื่องนี้ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ซึ่งดูแลพื้นที่นครบาลไปดูแล โดยทราบว่าได้ภาพจากกล้องซีซีทีวีซึ่งจะไปตรวจสอบทางเทคนิคเพื่อขยายผลต่อ นอกจากนี้ ได้สั่งการให้เพิ่มความเข้มข้นมาตรการป้องกัน และมีการตั้งด่านตรวจในบางเวลาด้วย
สั่งอารักขาตุลาการเป็นพิเศษ
พล.ต.อ.ปทีป ยังกล่าวถึงการรักษาความปลอดภัยกลุ่มบุคคลสำคัญของประเทศว่า ในส่วนนี้ได้มอบหมายให้ บช.น.ไปดูแล โดยตำรวจจะโฟกัสไปที่กลุ่มตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเป็นหลัก ส่วนกลุ่มบุคคลอื่นๆ ได้ดูแลความปลอดภัยตามปกติ หากบุคคลใดร้องขอเป็นพิเศษ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พร้อมจัดกำลังเต็มที่อยู่แล้ว รวมถึงองค์คณะผู้พิพากษาในคดียึดทรัพย์พ.ต.ท.ทักษิณด้วย แต่ขณะนี้ ทางตำรวจยังไม่มีรายงานด้านการข่าวที่รุนแรงแต่อย่างใด ส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่เมื่อวานนี้ ก็ต้องเข้าใจว่าคนร้ายจ้องจะก่อเหตุอยู่แล้วก็คงห้ามอะไรยาก โอกาสผิดพลาดก็มี แต่ก็ยอมรับส่วนหนึ่งว่าตำรวจก็บกพร่องไป
ยอมรับอาจเกี่ยวกับคดียึกทรัพย์
รรท.ผบ.ตร.ยอมรับถึงการก่อเหตุครั้งนี้ เกี่ยวกันกับการพิจารณาคดียึดทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จะมีขึ้นในช่วงปลายเดือน ก.พ.นี้ด้วยว่า เป็นข้อสันนิษฐานอย่างหนึ่งที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สงสัย แต่ทางพนักงานสอบสวนก็ต้องหาพยานหลักฐานให้รอบคอบ เราดูหลายประเด็นและไม่ได้มุ่งไปที่ประเด็นนี้ประเด็นเดียว
สั่งหาต้นตอปูดข่าวปฏิวัติ
พล.ต.อ.ปทีป ยังตอบคำถามถึงการดำเนินการ กรณีการปล่อยข่าวปฎิวัติ ในช่วงนี้มากเป็นพิเศษว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตำรวจ เป็นเรื่องของทหาร อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจก็จับตาเรื่องนี้อยู่ โดยให้ทาง บช.ส.ตรวจสอบว่าใครเป็นผู้ปล่อยข่าวการปฎิวัติ รวมถึงติดตามความเคลื่อนไหวของข่าวปฎิวัติและให้รายงานให้ตนรับทราบอย่างต่อเนื่อง
“ก็ต้องเตรียมไว้ ตำรวจเตรียมความพร้อมอย่าวต่อเนื่อง หากเกิดอะไร ตำรวจก็ต้องพร้อมเสมอ” พล.ต.อ.ปทีป กล่าวถึงกล่าวเตรียมความพร้อมของตำรวจหากมีการปฏิวัติเกิดขึ้น
เผย “สมคิด” รายงานตัวกองวินัยแล้ว
นอกจากนี้ พล.ต.อ.ปทีป ยังกล่าวถึงการดำเนินการทางวินัยต่อ พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ. 5 ซึ่งถูกศาลสั่งฟ้องในคดีอุ้มฆ่านายอัลรูไวรี นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบียว่า ขอยืนยันว่า ไม่ได้ปล่อยปละละเลย ล่าสุด พล.ต.ท.สมคิดได้มารายงานตัวต้องคดีกับกองวินัยแล้ว และกองวินัยอยู่ระหว่างการประมวลเรื่องและการสอบสวนให้รอบคอบ โดยพบว่าที่ล่าช้า เพราะกองวินัยต้องหาข้อมูลสำคัญบางส่วน ซึ่งกองคดีและกองวินัยต้องค้นหามาประกอบการพิจารณา โดยเป็นข้อมูลที่ได้ดำเนินการไปแล้วเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่ทางวินัยได้ดำเนินไปแล้ว ก็เอามาประกอบกันเพื่อไม่ให้ข้อมูลขัดแย้งกัน
ด้าน พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษก ตร.กล่าวเสริมว่า เรื่องนี้มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องไม่ใช่ทางตำรวจไม่ได้ทำอะไร และ พล.ต.ท.สมคิดก็มารายงานตัวเป็นผู้ต้องคดีกับกองวินัยแล้ว ซึ่งทางกองวินัยจะรายงานผลมายัง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร. ซึ่งดูแลพื้นที่ บช.ภ.5 มายัง รรท.ผบ.ตร.อีกที
“เรื่องนี้ไม่ใช่ไม่ดำเนินการ แต่ต้องทำให้ชัดเจน เพราะสังคมก็รอฟังคำตอบอยู่ และเราก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย การลงโทษทางวินัยถ้าทำไม่ถูกต้องก็อาจถูกฟ้องร้องการศาลปกครองได้ก็ต้องใช้เวลาคิดว่ากลุ่มคนเสื้อแดงก็น่าจะเข้าใจ” พล.ต.ท.พงศพัศกล่าว
ส่วนกรณีที่คนร้ายปาอุจจาระเข้าไปในบ้านนายกรัฐมนตรีนั้น โฆษก ตร.กล่าวว่า ทาง พล.ต.อ.ปทีป ได้สั่งการไว้แล้ว โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน เรื่องคดีได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.อัศวิน ติดตามตัวคนร้าย อีกส่วนเป็นเรื่องการวางมาตรการรักษาความปลอดภัย ใหทาง บช.น. บช.ส. ร่วมกับหน่วยข่าวทหารที่ติดตามนายกรัฐมนตรี เพิ่มความเข้มงวดทั้งบ้านพักย่านทองหล่อ ทำเนียบรัฐบาล และระหว่างที่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปปฏิบัติภารกิจยังที่ต่างๆ ให้เข้มข้นมากขึ้น รวมถึงบุคคลสำคัญของประเทศ ซึ่งเวลานี้ทางหน่วยข่าวกรองของตำรวจก็ยังไม่พบว่าจะเกิดเหตุร้ายใดๆ
เมื่อถามว่า การก่อเหตุครั้งนี้ เชื่อมโยงกับคดีทางการเมืองหรือไม่ พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า ถ้ายังจับตัวคนร้ายไม่ได้ ก็ไม่มีใครพูดได้ว่าฝ่ายใดทำ ส่วนการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการรักษาความปลอดภัยบ้านพักบุคคลสำคัญนั้น ต้องฟังการข่าวจาก บช.ส.ด้วย